แจ้งความจับหญิงอ้างตัวเป็นนายหน้า หลังถูกหลอกต่อวีซ่าต่างด้าวสูญเงินเกือบสามแสน
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 17 พฤศจิกายน 2564 ขณะที่ ร.ต.อ.ชนินท์ เพชรคำ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมือง สมุทรปราการ ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก น.ส.พิชาภัค ยืนยงคีรีมาศ อายุ 32 ปี เจ้าของธุรกิจ เครื่องนอน ย่านบางปู พร้อมผู้เสียหายอีก 3 คน ได้หอบเอกสารการโอนเงิน และข้อความที่แชทผ่านแอพพิเคขั่นไลน์ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ หลังจากถูกหญิงไทยอ้างตัวเป็นนายหน้าสามารถช่วยเหลือดำเนินการต่อวีซ่า เพื่ออยู่ต่อในราชอาณาจักรไทยได้แต่หลังจ่ายเงินและเวลาล่วงเลยไปกว่า 1 ปี หญิงคนดังกล่าว กลับไม่ดำเนินการให้แต่อย่างใด
ข่าวน่าสนใจ:
- สุดยิ่งใหญ่ชาวชัยภูมิทำพิธีประวัติศาสตร์ครั้งยิ่งใหญ่สุดรอบ 198 ปีตั้งแต่ตั้งเมืองชัยภูมิมา!
- สมเด็จพระสังฆราช โปรดประทานผ้าพระกฐินทอดถวาย ณ วัดเขาไกรลาศ หัวหิน
- ตรัง เปิดความสวยงาม "เขาแบนะ-อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม" เส้นทางศึกษาธรรมชาติเลียบภูเขาชมทะเลงาม
- เปิดฉาก! สีฐานเฟสติวัล 2024 ลอยกระทงปีนี้ที่ มข.แบบ “วิถีแห่งอีสาน สีฐานมูเตลู”
น.ส.พิชาภัค ผู้เสียหาย ได้กล่าวว่า ตนประกอบกิจการผลิตเครื่องนอน และมีแรงงานงานต่างด้าว 40 คน ต่อมา วีซ่าต่างด้าวของคนงานหมดอายุ ตนจึงจ้างให้ น.ส.ภัทรนรีกานต์ วรีวรรณพงษ์ ที่เพื่อนแนะนำให้รู้จัก เนื่องจากอ้างว่า รู้จักกับนายตำรวจสามารถทำการต่อวีซ่าให้กับแรงงานข้ามชาติคนอื่นมาแล้วหลายคน ด้วยบุคลิกน่าเชื่อถือ ตนหลงเชื่อ จึงนำเอกสารไปต่ออายุให้จำนวน 25 คน ตกคนละ 1.3 หมื่นบาท รวมเป็นกว่า 2.3 แสนบาท เวลาผ่านไปนานกว่า 1 ปี น.ส.ภัทรนรีกานต์ กลับนิ่งเฉย ไม่ดำเนินการต่อวีซ่าให้ เมื่อตนทวงถามกลับถูกบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด อ้างว่าติดสถานการณ์โควิด 19 ตนจึงติดต่อเพื่อขอเงินและเอกสารคืน แต่ น.ส.ภัทรนรีกานต์ ไม่ยอมคืนให้ และพยายามปัดความรับผิดชอบ จนทำให้ธุรกิจของตนเกิดความเสียหาย ทำให้แรงงานต่างด้าวของตนทั้งหมดไม่มีพาสปอร์ต เพื่อไปทำอายุวีซ่า จึงทำให้เกิดวิตกกังวลว่าวีซ่าจะหมดอายุลง จึงรวบรวมผู้เสียหายที่ตกอยู่สถานการณ์เดียวกับตน มาแจ้งความ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวมามาดำเนินคดี และดำเนินการคืนเอกสารให้ผู้เสียหายรายอื่นต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: