ดร.นิวัตน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ อธิบดีกรมพลศึกษา ลงดูพื้นที่ก่อสร้างอาคารที่ทำการและสนามกีฬากรมพลศึกษาแห่งใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กรีนสเตเดียม เพื่อให้ปลอดแห่งใหม่ของชาวจังหวัดสมุทรปราการอีกแห่งหนึ่ง
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 26 พฤศจิกายน 2564 ดร.นิวัตน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ อธิบดีกรมพลศึกษา ได้ร่วมกันเดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อเข้าหารือเกี่ยวกับการขอใช้พื้นที่ของกรมธนารักษ์จำนวน 454 ไร่ ที่บริเวณท้ายซอยเทศบาลบางปู 59 หรือซอยวิทยุการบิน ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ในการจัดสร้างอาคารที่ทำการและสนามกีฬาของกรมพลศึกษา จังหวัดสมุทรปราการ เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีความสะดวกในด้านการคมนาคมก็สะดวกจากสนามบินสุวรรณภูมิสามารถเดินทางเข้ามาง่าย หรือจะไปชลบุรี พัทยาก็สะดวก เพราะมีโครงข่ายคมนาคมเชื่อมต่อการเดินทางได้เป็นอย่างดี ซึ่งปัจจุบันกำลังเร่งจัดทำผังพัฒนา ออกแบบการใช้งานต่างๆ อยากจะพัฒนาเป็นพื้นที่ outdoor เปิดโล่ง มีสนามกีฬากลางแจ้ง เน้นเรื่องสิ่งแวดล้อม พื้นที่สีเขียว เช่น สวนสาธารณะ ซึ่งจะพัฒนาเป็นรูปแบบมิกซ์ยูส ใช้พื้นที่ผสมผสาน แบ่งออกเป็น 4 ส่วน
ส่วนแรกเป็นระยะเร่งด่วนที่กรมต้องดำเนินการเอง ปรับปรุงดูแลระบบสาธารณูปโภค สร้างอาคาร ยิมเนเซียม เป็นลักษณะชาเลนเจอร์ ทำแล้วสามารถใช้ได้อเนกประสงค์ เป็นยิมขนาดใหญ่สามารถใช้ได้หลาย ๆ ยิม ถ้ามีมหกรรม งานจำเป็นจริง ๆ สามารถเปิดโล่งได้ทั้งหมด นอกจากนี้จะมีชาเลนเจอร์คล้ายเมืองทองอีก 1 อาคารและสระว่ายน้ำ / ส่วนที่ 2 เป็นสนามกีฬาแห่งชาติ หรืออื่น ๆ ตั้งใจว่าจะรอเข้าแผนที่ประเทศไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬา ไม่ว่าจะเป็นเจ้าภาพเวิลด์คัพที่เสนอตัวร่วมกับอาเซียน ทางทีมงานกำลังศึกษาข้อมูลกันอยู่ หรือแนวคิดเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดกีฬายูธโอลิมปิกเกมส์ ซึ่งเดิมเสนอที่พัทยา แต่มีคอมเมนต์ว่าอาจจะไม่เหมาะสำหรับเด็ก / ส่วนที่ 3 เป็นส่วนที่สมาคมกีฬายังไม่มีสถานที่จริง ๆ มาสร้าง มาอยู่ มาใช้ประโยชน์ร่วมกัน เช่น กลุ่มกีฬาทางน้ำ อาจจะทำแผนของบประมาณจากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กทท.) หรือสมาคมจัดหามาเอง / ส่วนสุดท้ายเป็นโครงการ PPP เปิดให้เอกชนเข้าร่วมลงทุน เช่น กรณีประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมกีฬาต่าง ๆ กรมอาจจะเจรจากรมธนารักษ์ว่าเราจะเปิด PPP ให้เอกชนมาลงทุนโรงแรมเพื่อรองรับการแข่งขัน เป็นต้น แทนที่กรมจะต้องไปสร้างเองทุกอย่างเพราะถ้าทำแบบนั้นต้องใช้งบประมาณจากรัฐอย่างเดียว และคงใช้งบประมาณเป็นหมื่นล้านบาท
หลังเข้าหารือเป็นที่เรียบร้อย ดร.นิวัตน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ อธิบดีกรมพลศึกษา พร้อมคณะได้เดินทางลงดูพื้นที่ของกรมธนารักษ์ที่จะใช้จัดสร้างอาคารที่ทำการและสนามกีฬาของกรมพลศึกษา ที่บริเวณท้ายซอยเทศบาลบางปู 59 ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พร้อมร่วมวางแผนในการพัฒนาพื้นที่โดยรอบและการจัดวางตำแหน่งเส้นทางเข้าออกซึ่งจะต้องมีการขยายพื้นที่เส้นทางเข้าออกให้ใหญ่ขึ้น และวางผังการจัดสร้างที่แบ่งออกเป็น 3 ระยะ โดยระยะที่ 1 อาคารจัดการแข่งขันกีฬาในร่ม วอลเลย์บอล อาคารสำนักงานกรมพลศึกษา สนามฟุตบอล ซ้อมกลางแจ้ง สนามบาสเก็ตบอล สตรีทบาส ซ้อมกลางแจ้ง สวนสุขภาพ LANDMARK กีฬาชายหาด และเส้นทางจักรยาน / ระยะที่ 2 สนามฟุตบอลขนาด 10,000 ที่นั่ง อาคารสระว่ายน้ำ สนามเทนนิส อาคารจัดแข่งขันกีฬา อาคารจัดการแข่งขันกีฬายิมนายสติก มวย ลานกีฬาเอ็กซ์ตรีม อาคารจอดรถ และอาการยิมเนเซียม 10,000 ที่นั่ง / ระยะที่ 3 อาคารที่พักนักกีฬา กีฬาทางน้ำ อาคารอำนวยการกีฬาชายหาด และอาคารสำนักงานปลัดกระทรวง
หลังจากนั้นได้เข้าหารื้อกับ นายธีระพล ชุนเจริญ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบางปู พร้อมคณะผู้บริหาร ในฐานะเป็นหน่วยงานท้องถิ่นที่ดูแลพื้นที่ เพื่อร่วมกันวางแนวทางและร่วมกันบริหารจัดการเกี่ยวกับการพัฒนาพื้นที่เส้นทางเข้าออกสถานที่ก่อสร้างอาคารที่ทำการและสนามกีฬาของกรมพลศึกษา ร่วมกันสร้างภาพลักษณ์ให้กับจังหวัดสมุทรปราการ
นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ได้กล่าวว่า ในวันนี้ทางท่านอธิบดีกรมพลศึกษา ได้มาหารือในเรื่องที่ทางกรมพลศึกษาและอีกหลายหน่วยงานของราชการที่ขอใช้พื้นที่ของกรมธนารักษ์ ที่เตรียมจัดสร้างเป็นศูนย์ราชการ และอาคารที่ทำการและสนามกีฬาของกรมพลศึกษา เพราะว่าสิ่งนี้จะทำให้พื้นที่พี่น้องชาวจังหวัดสมุทรปราการ จะได้รับประโยชน์ ซึ่งทางจังหวัดสมุทรปราการเองก็มีความยินดีในการเอื้ออำนวยกระบวนการให้เป็นไปโดยชอบและเหมาะสม
ดร.นิวัตน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ อธิบดีกรมพลศึกษา ได้กล่าวว่า จริง ๆ ในสวนของกรมพลศึกษา เรามองว่าจังหวัดสมุทรปราการ เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพและพื้นที่ ที่เหมาะสม เราจึงได้ประสานขอพื้นที่กับกรมธนารักษ์ และประสานผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งได้ผ่านการเห็นชอบและดำเนินการยกพื้นที่ให้กับกรมพลศึกษา ซึ่งพื้นที่จริง ๆ เดิมเป็นพื้นที่ของวิทยุการบินซึ่งมีอยู่พันกว่าไร่ และมีหลายส่วนราชการที่ขอเข้ามาใช้ ในส่วนของกรมพลศึกษา ก็ได้รับความเห็นชอบจากกรมธนารักษ์ในการให้ใช้พื้นที่ประมาณ 400 กว่าไร่ในการก่อสร้างอาคารที่ทำการและสนามกีฬาของกรมพลศึกษา และพื้นที่ติดกันก็ทราบว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ติดต่อมาขอใช้พื้นที่ และก็ยังมีพื้นที่บางส่วนที่ทางกระทรวงคมนาคมต่าง ๆ และก็ยังมีศูนย์อบรมการบินที่เข้ามาสร้างพื้นที่ไว้ก่อนแล้ว ดังนั้นในส่วนของกรมพลศึกษา อันดับแรกที่เราจะเข้ามาเป็นลูกบ้านของจังหวัดสมุทรปราการ ในวันนี้จึงได้นำคณะผู้บริหารของกรมพลศึกษาที่หารือกับท่านผู้ว่าราชการจังหวัด หลังจากนั้นแล้วเราก็จะลงไปดูพื้นที่จริง และมีการเชิญหน่วยงานท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมหารือวางแนวทางในการพัฒนาพื้นที่โดยรอบ ร่วมทั้งประสานไปทาง อบจ.สมุทรปราการ วางแนวทางในการเซอร์เวย์พื้นที่ และจัดสอบถามประชาชนในพื้นที่ ว่าในการที่กรมพลศึกษาจะมาอยู่ในจังหดสมุทรปราการ ประชาชนชาวจังหวัดสมุทรปราการ ต้องการให้เราทำอะไรบ้าง
ซึ่งเป็นสิ่งที่เราจะต้องมานั่งปรับแผนกัน แต่ที่เราวางแผนงานไว้ก็จะมี 2 ส่วน ส่วนแรก ส่วนที่จะสร้างเป็นศูนย์ในการส่งเสริมในเรื่องของการแข่งขันและสถานที่เก็บตัวฝึกซ้อมกีฬาในระดับนานาชาติ เพราะในปัจจุบันตนเป็นเจ้าหน้าที่อาวุโสประชุมในระดับอาเซียน จากแผนนโยบายของท่านนายกรัฐมนตรี การที่จะให้ประเทศไทยเราเป็นเจ้าภาพเวิลด์คัพ ปรากฏว่าประเทศในอาเซียน ประเทศไทยมีสนามที่เรียกได้ว่าเป็นอันดับท้ายของในกลุ่มประเทศอาเซียน โดยเฉพาะสนามฟุตบอล ล่าสุดทางกัมพูชากำลังสร้างใหญ่ขนาด 72,000 ที่นั่ง เตรียมรับซีเกมส์ ที่ได้มาตรฐานของฟีฟ่า ในขณะที่ประเทศไทยเราตกเทรนไปเยอะ เราจึงต้องมาวางแผนต่อว่าในอนาคตถ้าประเทศไทยเรา จะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬาใหญ่ ๆ การก่อสร้างพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นอาคารยิมเนเซียมหรือเมนสเตเดียมต่าง ๆ กรมก็ตั้งใจว่าจะนำเสนอพื้นที่ของเราเป็นศูนย์กลาง เพราะว่าพอสร้างเสร็จกรมสามารถดูแลให้ได้ แทนที่จะไปสร้างแล้วหาผู้ดูแลใหม่ ซึ่งมีการก่อสร้างเสร็จก็ยังเป็นศูนย์ฝึกซ้อมสำหรับนักกีฬาทีมชาติ และเปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชนในจังหวัดสมุทรปราการและใกล้เคียงได้เข้ามาใช้พื้นที่ ซึ่งตรงนี้ก็อยู่ในแผนงาน แต่สิ่งที่สำคัญเราจะเน้นในเรื่องของสนามกีฬาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กรีนสเตเดียม ในแนวทางของกรมพลศึกษา ก็จะมีการขุดสระน้ำขนาดใหญ่เพื่อใช้เป็นพื้นที่แก้มลิงในการรับน้ำยามที่น้ำหลากในขณะเดียวกันก็สามารถใช้พื้นที่ตรงนี้เป็นศูนย์กีฬาทางน้ำอีกด้วย เพื่อให้ปลอดแห่งใหม่ของชาวจังหวัดสมุทรปราการอีกแห่งหนึ่ง
