ระทึก หนุ่มวัย 23 ปี ขับเก๋งจะไปส่งเพื่อนไฟไหม้ท้ายรถกลางสะพานภูมิพล ปะคองรถจอดวิ่งหนีตายอลหม่าน โชคดีหนุ่มทหารเรือจอดรถลงมาช่วย
เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 4 ธันวาคม 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงใต้ สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้รถยนต์เก๋งที่จอดอยู่บริเวณกลางสะพานภูมิพล 1 ทิศทางลงถนนปู่เจ้าสมิงพราย ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยรถดับเพลิเทศบาลเมืองปู่เจ้าสมิงพรายจำนวน 3 คัน และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินทางเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุได้พบไฟกำลังลุกไหม้ในห้องใต้ฝากระโปรงด้านท้ายรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า โซโรน่า สีน้ำเงิน ทะเบียน กง 4519 กรุงเทพมหานคร อย่างรุนแรงเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงช่วยกันระดมฉีดน้ำนานกว่า 20 นาทีเพลิงจึงสงบ พบว่าตัวรถได้รับความเสียหายเล็กน้อยที่บริเวณห้องท้ายรถ เนื่องจากมีพลเมืองดีที่เป็นทหารเรือที่ขับรถผ่านมาเห็นเหตุการณ์ได้จอดรถลงมาใช้สเปรย์เคมีดับเพลิงช่วยฉีดสกัดเปลวเพลิงเบื้องต้นเอาไว้ก่อนที่รถดับเพลิงจะเดินทางมาถึง
นายธนภูมิ ซาและทิม อายุ 23 ปี คนขับรถเก๋งคันดังกล่าว ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถมาจากพระราม 3 พร้อมกับเพื่อนจะไปแถวถนนแพรกษา ขณะที่ขับขึ้นสะพานภูมิพลมาไฟในรถก็เกิดติด ๆ ดับ ๆ ตนก็คิดว่าไฟน่าจะไปพอเพราะตนเปิดเครื่องเสียงมา แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไรก็ขับมาเรื่อย ๆ ก่อนจะมีควันเข้ามาภายในรถจากด้านหลัง ซึ่งตนได้ย้ายแบตเตอรี่มาติดไว้ตรงนั้นใกล้กับท่อเติมน้ำมัน ด้วยความตกใจตนจึงประคองรถเข้าจอดทางด้านซ้ายได้เห็นไฟลุกขึ้นด้านท้ายรถจึงรีบเปิดประตูวิ่งหนีตายออกมาจากรถ ก่อนที่จะมีพลเมืองดีที่วิ่งข้ามฝั่งเอาสเปรย์เคมีดับเพลิงมาฉีดพ่นสกัดเปลวไฟให้และโทรแจ้งความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จ่าเอก พรศักดิ์ ฟื้นผล อายุ 36 ปี เป็นนายทหารเรือ เป็นผู้เห็นเหตุการณ์และเข้ามาช่วยเหลือในตอนแรกได้เล่าให้ฟังว่า ตนได้ขับรถผ่านทางมาพอดีขึ้นจากถนนปู่เจ้ามุ่งหน้าลงถนนสุขสวัสดิ์ ได้ขับรถมาทางช่องทางด้านขวาพอถึงจุดเกิดเหตุตนได้เห็นรถเก๋งอยู่ฝั่งตรงข้ามที่มุ่งหน้าลงถนนปู่เจ้าเกิดไฟลุกไหม้ด้านหลังรถ ถอยหลังรถมาช่วยโดยในสเปรย์เคมีดับเพลิงที่ตนติดไว้หลังรถลงฉีดดับไฟ แต่ไม่สามารถดับได้เพราะเป็นถังขนาดเล็ก
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิฐานว่าสาเหตุที่เกิดเหลิงลุกไหม้ในครั้งนี้น่าจะเกิดจากระบบไฟจากแบตเตอรี่ ย้ายมาติดตั้งใกล้ท่อน้ำมันเกิดการช๊อตจนทำให้เกิดไฟลุกไหม้ดังกล่าวโชคดีที่ยังดับเปลวไฟได้ทันก่อนที่เปลวไฟจะลามเข้าไปในถังน้ำมันเชื้อเพลิง
