เปิดคลิปศึกโชเฟอร์รถสองแถวแย่งชิงผู้โดยสาร ขับรถปาดหน้าชักมีดขู่กลางถนนย่านกิ่งแก้ว อ้างโมโหทำให้ลูกสาว วัย 5 ขวบ เจ็บ
จากกรณีที่เพจ ที่นี่บางพลี ออกมาโพสต์คลิปวีดีโอที่ได้จากกล้องหน้ารถสองแถวคันหนึ่งที่ถูกก่อเหตุเอามีดมาข่มขู่ พร้อมข้อความว่า นายก็รู้ ที่นี่บางพลี ถืออะไรลงมาจากรถแล้วเอ่ยคำว่า กูจะติดคุกอีกรอบก็เพราะมึงแหละไอ้สัสสส หลังจากมีการเผยแพร่คลิปดังกล่าวออกไปชาวเน็ตได้ออกมาคอมเม้นท์ในเชิงต่อว่าคนขับรถสองแถวสีแดงรายนี้เป็นอย่างมาก
ข่าวน่าสนใจ:
- คอกาแฟแห่เที่ยวงานพังงาคอฟฟี่เจอร์นี่ ซีซั่น 3 ภายใต้รูปแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม Coffee in the Park ในสวนสมเด็จฯพังงา
- ชัยภูมิชาวโนนทองสืบสานประเพณีนอนลานตีข้าวเปิดลานศูนย์รวมสุดยอดสินค้าอาหารพื้นบ้านไทยส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 68 คึกคักกว่าทุกปี!
- พิธีเปิดนิทรรศการฟอสซิลช้างดึกดำบรรพ์และสัตว์ร่วมยุคในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา
- “วิทยา แก้วภราดรัย” รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ยันการแก้ปัญหาน้ำมันแพง เป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อประชาชน ไม่หวั่นปัญหาพรรคที่เกิดขึ้น
ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ที่ 20 ธันวาคม 2564 นายสันต์ แก้วกุลา อายุ 44 ปี คนขับรถสองแถวสาธารณะสีฟ้า สาย บางพลี-กิ่งแก้ว -ตลาดหัวตะเข้ ซึ่งเป็นเจ้าของคลิปกล้องหน้ารถ คันเกิดเหตุ ได้เดินทางมาที่โรงพัก สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ พร้อมหลักฐานภาพกล้องหน้ารถ เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวน และเข้าให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เพื่อให้ติดตามตัวคู่กรณีมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เนื่องจากหวั่นในเรื่องของความปลอดภัย โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 18 ธันวาคม ที่ผ่านมา
นายสันต์ เล่าว่า ขณะที่ตนขับรถรับส่งผู้โดยสารตามปกติบนถนนสายกิ่งแก้ว มุ่งหน้าตลาดหัวตะเข้ จนขับมาถึงจุดกลับรถชื่นศิริ จังหวะที่ตนขับรถออกเลนขวาและหันมองกระจกหลังก็ไม่เห็นมีรถตามหลังแต่อย่างใด หลังจากแซงขวาเสร็จตนก็เข้าซ้ายรับผู้โดยสารตามป้ายปกติ มีจังหวะที่รถสองแถวโดยสารแดงคู่กรณี จอดรับผู้โดยสารอยู่ป้ายด้านหน้า ตนจึงแซงขึ้นไปและไปอีกรับผู้โดยสารที่ป้ายหน้า โดยยืนยันว่าไม่ได้ขับปาดหน้าคู่กรณีแต่อย่างใด จนกระทั่งขับจะสุดทางถนนกิ่งแก้ว ซึ่งผู้โดยสารลงจากรถหมดแล้ว สองแถวคู่กรณีคันสีแดงได้ขับแซงมาทางด้านเลนขวาสุดด้วยความเร็วก่อนที่จะจอดเลยหน้ารถตนไปและถอยหลังกลับมาจอดที่หน้ารถตน ก่อนที่ชายคนขับจะเดินลงมาจากรถพร้อมด้วยมีดดาบยาวประมาณ 80 เซนติเมตรลงมาข่มขู่ตนและว่าตนไปแย่งรับผู้โดยสารและขับจี้ท้ายรถเขา ซึ่งตนยืนยันไม่ได้ขับจี้ท้ายหรือปาดหน้าคู่กรณีแต่อย่างใด
หลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ตรวจสอบภาพจากกล้องหน้ารถ จนกระทั่งทราบเลขทะเบียน จึงประสานผู้ดูแลวินรถสองแถวสีแดง ซึ่งวิ่งระหว่างห้างโฮมโปบางพลี กิ่งแก้ว ตลาดหัวตะเข้ ให้เชิญคนขับรถคันดังกล่าวมาพบเพื่อสอบปากคำ จนกระทั่งในเวลา 17.30 น. นาย ยุทธนา วณิชพันธ์สกุล คนขับสองแถวหัวร้อนคู่กรณีได้เดินทางมาพบกับ พ.ต.อ.มงคล อ่อนแก้ว ผกก.สภ.บางแก้ว พร้อมด้วยบุตรสาววัย 5 ขวบ และอาวุธที่อ้างว่าใช้ก่อเหตุ ซึ่งอาวุธที่นายยุทธนา นำมาแสดงตัวนั้นไม่ใช่มีดตามภาพในคลิปแต่อย่างใด แต่เป็นท่อนเหล็กสีดำที่พบว่าเพิ่งจะนำเอาผ้าเทปสีดำและสติ๊กเกอร์มาพันทับไว้ให้ดูเหมือนเป็นอาวุธที่ใช้ข่มขู่คู่กรณี แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อเพราะขัดแย้งกับภาพที่ปรากฎตามคลิป ที่เห็นชัดเจนว่าเป็นอาวุธมีด แต่นายยุทธนา ก็ยังยืนยันเสียงแข็งว่าเป็นท่อนเหล็ก ขณะเจ้าหน้าที่เตรียมเข้าค้นบ้านพักเพื่อหาอาวุธมีดของกลางและสิ่งผิดกฎหมายอื่นหากพบจะดำเนินการทุกข้อกล่าวหา ทำให้นายยุทธนา ยืมจำนนด้วยหลักฐานและเกรงว่าจะถูกตั้งข้อหาเพิ่ม จึงยอมรับว่าสิ่งที่ก่อเหตุเอามาข่มขู่คู่กรณีเป็นอาวุธมีดจริงโดยจะยอมพาตำรวจไปเอาของกลางมาประกอบสำนวนคดี
นายยุทธนา ให้การอ้างว่า ตนเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวบุตรสาวอายุ 5 ขวบ ต้องเอาบุตรสาวนอนหน้ารถไปด้วยเสมอยามที่ออกมาขับรับผู้โดยสาร ซึ่งขับมาได้สองปีกว่าแล้ว วันเกิดเหตุตนถูกคู่กรณีขับปาดหน้าและแย่งผู้โดยสาร จนทำให้ตนไม่มีผู้โดยสารขึ้นรถ พอตนจะขับแซงเขาก็ไม่ยอมให้แซง พอแซงได้ก็ถูกดันจี้ท้ายขึ้นมา มีบางจังหวะที่ถูกคู่กรณีปาดหน้าใส่จนตนต้องเบรกกะทันหันทำให้ลูกสาวที่นอนอยู่เบาะหน้าลื่นตกลงไปที่พักเท้า ตนจึงโมโหและขับรถแซงขึ้นไปก่อนถอยหลังลงมาก่อเหตุตามคลิปดังกล่าว ส่วนคำพูดที่ว่าจะติดคุกอีกครั้งเพราะคู่กรณีนั้น ยอมรับตนเคยถูกดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกายมาแล้วครั้งหนึ่งแต่ติดไม่กี่วันก็ประกันตัวออกมา จนมาเกิดเหตุอีกในครั้งนี้
พ.ต.อ. มงคล อ่อนแก้ว ผกก.สภ.บางแก้ว เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบคลิปดังกล่าวได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนเร่งไปติดตามตัวทั้งสองฝ่ายมาสอบปากคำ ซึ่งจากการสอบปากคำฝ่ายผู้ต้องหาให้การอ้างว่าถูกขับรถปาดหน้าและแย่งรับผู้โดยสารกัน ซึ่งสั่งการให้พนักงานสอบสวนเร่งรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีทุกข้อกล่าวหาที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งสั่งการให้จราจรไปจัดทำประวัติของคนขับรถสองแถวทั้งสองฝ่ายเพื่อป้องปรามไม่ให้เกิดขึ้น พร้อมทั้งจะประสานทางขนส่งให้เข้ามาดำเนินการ ส่วนข้อหา เบื้องต้นที่ชัดเจนคือ พกพาอาวุธไปในเมือง ทาง ชุมชนสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และข้อหา ข่มขู่ผู้อื่นทำให้ตกใจกลัว ส่วนเรื่องการขับรถประมาทหวาดเสียวขณะเกิดเหตุด้วยหรือไม่หากพบว่าเข้าข่ายก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: