X

สาวออฟฟิศน้ำตาคลอหอบหลักฐานแจ้งตำรวจ หลังหลงกลมิจฉาชีพสูญเงินกว่าแสนบาทในวันเดียว

สาวออฟฟิศ วัย 34 ปี น้ำตาคลอหอบหลักฐานเดินทางเข้าแจ้งตำรวจ สภ.บางพลี สมุทรปราการ หลังหลงกลมิจฉาชีพสูญเงินกว่าแสนบาทในวันเดียว

เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 7 มกราคม 2565 ขณะที่ พ.ต.ต.สิทธิพงษ์   ปานไทสง สารวัตรสอบสวน สภ.บางพลี สมุทรปราการกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก  น.ส.จรรยา (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ว่า เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2565 ที่ผ่านมาได้ถูกคนร้ายทำการหลอกลวงให้ร่วมลงทุนในการจำหน่ายสินค้าทางออนไลน์ ตนหลงเชื่อจึงได้โอนเงินไปเข้าบัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา ซึ่งปรากฏชื่อเจ้าของบัญชีชื่อ น.ส.ธรินภัส  แย้มกลิ่น ไปจำนวน 5 ครั้งรวมเป็นเงิน 13,100 บาท และโอนเข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทย ที่ระบุชื่อเจ้าของบัญชีคือนายสุวรรณ์  แพงดาว จำนวน 2 ครั้งรวมเป็นเงิน 55,000 บาท และโอนเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย ระบุชื่อเจ้าของบัญชี MRS, THI THI AYE   จำนวน 1 ครั้ง เป็นเงิน 47,500 บาท หลังจากที่ตนโอนไปกลับไม่สามารถถอนเงินลงทุนพร้อมผลกำไรได้ จึงรู้ว่าถูกหลอกจึงรวบรวมหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

น.ส.จรรยา ผู้เสียหายได้เล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนได้เห็นข้อความในเฟซบุ๊กเกี่ยวกับการร่วมลงทุนขายสินค้าทางออนไลน์ ซึ่งจะได้ค่าตอบแทนเป็นเงินปันผลมากกว่าเท่าตัว ด้วยความที่อยากลองว่าได้จริงไหม จึงสมัครเป็นสมาชิก จากนั้นตนได้โอนเงินร่วมทุนตามที่กล่าวอ้าง โดยครั้งแรกลงทุนไป 300 บาท และไม่กี่ชั่วโมงได้ปันผลกลับมากว่าเท่าตัว จึงทดลองครั้งที่สองในทุนหลักร้อยก็ยังได้ปันผลกลับมาอีก พอมาครั้งที่ 3 แอดมินได้แจ้งกลับมาหาตนว่าให้ลงทุนเพิ่มและหากครบจำนวน 7 ครั้ง จะได้เงินปันผลกว่าแสนบาทและสามารถถอนเงินต้นและกำไรคืนได้  ซึ่งตนเห็นว่ามีกำไรดี จึงร่วมลงทุนโดยกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ให้ตนแอดไลน์และมีการพูดคุยกันทางไลน์ และให้ตนกรอกข้อมูลสมัครผ่านทางลิงค์ ซึ่งเป็นลิงค์ขายของออนไลน์ชื่อดัง โดยอ้างว่าเป็นช่วงโอเวอร์สต๊อก ตนหลงเชื่อจึงโอนเงินลงทุนอีก 3 พันกว่าบาท แต่ก็ไม่ได้เงินปันผลกลับ เมื่อสอบถามแอดมินกลับไป แอดมินแจ้งกลับมาว่าต้องลงทุนเพิ่มจากหลักพันเป็นหลักหมื่น จนหลายครั้ง แต่ก็ยังถอนเงินปันผลไม่ได้รวมถึงเงินต้นที่ลงทุนไป แต่มิจฉาชีพออกอุบายกลับมาว่าต้องโอนยอดให้ครบจำนวน 7 ครั้ง จึงจะสามารถถอนคืนทั้งเงินต้นและเงินปันผลได้ พร้อมทั้งส่งหลักฐานรายละเอียดมาให้ตนเพื่อความน่าเชื่อถือตนจึงโอนกลับไปอีกสองครั้ง ครั้งละ 3 – 4 หมื่น ซึ่งก็ยังมีผู้เสียหายอีกหลายคนที่โดนทำนองเดียวกับตน โดยในโปรไฟล์จะมีรูปอาจารย์ท่านหนึ่งเป็นรูปโปรไฟล์ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าเป็นตัวจริงหรือเปล่า แล้วเขาก็ดึงตนเข้าไปไลน์กลุ่มธุรกิจ 888 ซึ่งก็มีคนอยู่ในกลุ่มเป็นจำนวนมากหลายคนก็เอารูปใบสลิปการร่วมลงทุนมาโชว์และก็เขียนข้อความว่าก็ได้กำไรมาหกแสนกว่าบาท  ตนก็คิดว่ามันได้จริงเหรอแต่ทำไมของตนถอนไม่ได้ทั้ง ๆ ที่ธุรกิจเหมือนกันทำไมของเราถอนไม่ได้ ซึ่งตนร่วมลงทุนไปแล้วแสนกว่าบาท จนครั้งสุดท้ายจะให้โอนร่วมลงทุนอีก 79,227 บาท ถึงจะถอนเงินต้นและกำไรได้ แต่เงินในบัญชีตนที่ทำงานเก็บสะสมมาเกือบทั้งชีวิตนั้นหมดบัญชีแล้ว จึงตัดสินใจจะขอคืนทุนเงินที่ลงทุนไปแต่กลับถูกบล็อกและไม่สามารถติดต่อได้จึงมั่นใจว่าถูกหลอกแน่ จึงตัดสินใจหอบหลักฐานเข้าแจ้งความในครั้งนี้

พ.ต.อ. วิโรจน์  ตัดโส   ผู้กำกับสภ.บางพลี เปิดเผยว่า สำหรับคดีฉ้อโกงทางออนไลน์ ในปัจจุบันพบว่ามีผู้เสียหายจำนวนมากและเกิดขึ้นรายวัน โดยกลุ่มมิจฉาชีพหรือคนร้ายจะพัฒนารูปแบบกลลวงต่าง ๆ ไปตลอด ที่ทำให้เกิดความหน้าเชื่อถือและใช้แรงจูงใจในการให้ผลตอบแทนดี โดยจะให้ผู้เสียหายลงทุนจากน้อยไปหามากและให้ค่าตอบแทนช่วงแรก ๆ จนทำให้เหยื่อหลงเชื่อและโอนเงินให้คนร้ายไป การฉ้อโกงทางออนไลน์ถือเป็นภัยทางเศรษฐกิจที่สำคัญและกำลังสร้างความเดือดร้อนให้กับคนไทยเป็นอย่างมาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงกำชับให้ปราบปรามขบวนการเหล่านี้ให้สิ้นซาก ในส่วนของ สภ.บางพลี ปัจจุบันตั้งชุดเฉพาะกิจทางไซเบอร์เพื่อรับเรื่องราวร้องทุกข์จากผู้เสียหายและสืบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดี ให้ได้โดยเร็ว

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน