X

ทนายไพศาลพาเหยื่อการบูรเข้าแจ้งความเอาผิดตำรวจและอาสา ขณะที่ผู้กำกับยกมือไหว้ขอโทษและยืนยันให้ความเป็นธรรม

ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ พาเหยื่อการบูร เข้าแจ้งความเอาผิดกับตำรวจและอาสา ขณะที่ผู้กำกับในฐานะหัวหน้าหน่วยยกมือไหว้ขอโทษ และยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

อ่านข่าวต้นเรื่อง สาวร้องขอความเป็นธ รรมน้องชายถูกค้นคาด่าน ค้นเจอการบูรอ้างเป็นยาเค ถูกจับล็อกกุญแจมือ

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 13 มกราคม 2565 ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ ได้พานายฮาซัน รักหอม อายุ 27 ปี ผู้เสียหายกรณีถูกจับการบูร และถูกกล่าวหาว่าเป็นยาเสพติด พร้อมด้วยญาติเดินทางมาที่โรงพัก สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ เพื่อเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาที่ได้ร่วมกันกล่าวหาว่าผู้เสียหายว่ามียาเสพติดและทำร้ายร่างกาย

ทนายไพศาล ได้กล่าวว่า วันนี้ได้พาผู้เสียหายเดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีโดยจะมีการแยกกันแจ้ง เป็นทั้งคดีอาญาและคดีแพ่ง โดยจะเป็นทั้งสองส่วน ในส่วนของอาญาก็มีหลายข้อหาอยู่ ตามพฤติการณ์ตามที่แจ้งมาเบื้องต้นก็มีทำร้ายร่างกาย  และในส่วนของผลตรวจที่ยืนยันครั้งแรกว่ามีผลเป็นบวก แต่ครั้งที่สองเป็นลบ และยังมาบอกว่าผู้เสียหายมียาเสพติดซึ่งทางผู้เสียหายก็ได้ยืนยันแล้วว่าไม่ใช่ ก็ถือว่าเป็นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และการที่ไปควบคุมตัวผู้เสียหายทั้งที่ตัวผู้เสียหายเองบอกว่าไม่ใช่ซึ่งตรงนี้ก็กลายเป็นกักขังหน่วยเหนี่ยวในเรื่องเสรีภาพและการข่มขู่ด้วย ส่วนเมื่อวานที่มีการเข้ามอบกระเช้าของโทษนั้นตรงนั้นก็ไม่เกี่ยวกัน มอบคือส่วนมอบส่วนเรื่องกฎหมายก็คือกฎหมาย เรื่องการดำเนินคดีเรื่องการใช้สิทธิ์ของผู้เสียหายก็เป็นอีกส่วนหนึ่ง แต่ก็เป็นที่ดี เป็นการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าใจว่าการระทำของตัวเองยังไม่รอบคอบ เหนืออื่นใดในวันนี้ก็ต้องใช้สิทธิ์ตามกฎหมายก่อน แต่อยู่กับผู้เสียหายถ้ามีการเจรจาคุยกันได้มีการเยียวยาหรือมีการขอโทษกันก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะว่าต้องบอกว่าการแจ้งข้อกล่าวหาโดยที่ไม่ตรงกับพยานหลักฐาน มันเป็นเรื่องเสรีภาพของเขามันไม่ควรที่จะเกิดขึ้น ซึ่งในวันนี้ก็จะแจ้งดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหรืออาสา ในส่วนตรงนี้จะต้องบอกก่อนว่าอาสาสมัครตำรวจตนอยากให้มีการคัดกรอง เพราะเราเห็นทุกที่แล้วเขาไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เขาเป็นแค่ผู้ช่วยเจ้าพนักงานการกระทำใด ๆ เขาจะต้อรู้กฎหมายมากกว่านี้และรู้ขั้นตอนการจับกุมให้มากกว่านี้การปฏิบัติหน้าที่ก็ควรอยู่ในขณะที่เจ้าหน้าที่จริง ๆ เขาอยู่ด้วยเพราะการกระทำแบบนี้ต้องเรียนอย่างนี้ว่ามันต้องนึกถึงอนาคตของทั้งสองฝ่ายตัวตำรวจเองถ้าผิดพลาดหรืออะไรคุณต้องรับผิดชอบให้ได้ ส่วนประชนถ้าเขาเป็นผู้บริสุทธิ์จริงถ้าเขาไม่ผิดมันหมายถึงเสรีภาพของเขาบางคนเขาเป็นเสาหลักของครอบครัว ก็อยากให้นึกถึงอนาคตของทั้งสองฝ่าย แต่ในส่วนของเจ้าหน้าที่เราก็ให้ความเป็นธรรมเขาตั้งด่านเขาก็ตรวจจับยาเสพติด ดูจากพฤติการณ์แล้วอาจจะไม่รอบคอบหรือหละหลวมซึ่งเขาก็อาจจะไม่มีเจตนาอย่างนั้นก็ได้ เพียงแต่วันนี้ท่านผู้กำกับท่านเองก็แสดงแล้วว่า ท่านพร้อมที่จะจัดการขั้นเด็ดขาด และวันนี้ก็จะมีการพูดคุย ถ้าเหนืออื่นใดทางผู้เสียหายเขายอมรับได้ไม่ว่าจะเป็นแม่หรือพี่สาวรวมถึงคุณฮาซัน  ก็มีการพูดคุยกัน ในส่วนเรื่องคดีมันก็เป็นเรื่องเล็กน้อย แค่เรื่องทำร้ายร่างกายมีการพูดคุยกันได้ก็จบ มีการเยียวยาก็จบ  เพราะตำรวจกับประชาชนก็อยากให้อยู่ร่วมกันได้  ในเรื่องก็อยากให้เป็นอุทาหรณ์ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจท่านทำตามกฎหมาย ท่านทำการปราบปรามเหตุร้ายให้ประชาชน ก็เป็นเรื่องดี แต่ท่านควรมีความสามารถควรจะรู้กฎหมาย คือถ้ารู้ว่ามันไม่รอบคอบอย่างละเอียดแล้วอย่าลุในอำนาจ เพราะถ้าลุในอำนาจเมื่อไหร่ตัวท่านเองจะเป็นคนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด หลักแล้วในวันนี้ก็จะมีแจ้งใน 4-5 ข้อหา จากพฤติการณ์แล้วก็เป็นเรื่องทำร้ายร่างกายอีกเรื่องก็น่าจะเป็นเรื่องผลตรวจ แล้วผลตรวจที่สองตรวจแล้วไม่มี ก็เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเรื่องการใส่กุญแจมือเขาก็เป็นการเรื่องเสรีภาพ และอีกเรื่อหนึ่งก็เป็นเรื่องหน่วยเหนี่ยวกักขังสุดท้ายก็เป็นเรื่องข่มขู่ด้วย แต่สุดท้ายถ้าตกลงกันได้ทุกเรื่องก็จบ  โดยเจตนาของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ทำงานตามหน้าที่ แต่การกระทำแบบนี้ต่อไปก็ต้องไตร่ตรอง ก็ขอให้เป็นอุทาหรณ์ของสังคม ซึ่งวันนี้ก็ขึ้นอยู่กับท่านผู้กำกับแล้ว เพราะทราบว่าในวันนี้จะมีการเชิญเข้าไปพูดคุย

ด้านนายฮาซัน ผู้เสียหาย ได้กล่าวว่าทุกอย่างก็เป็นอย่างในคลิปที่ปรากฏ ตนก็ปฏิเสธว่าไม่ได้เสพอะไรมา ซึ่งตนก็ได้ก้มกราบข้อร้องเขาตั้งแต่ที่รถเขาก็บอกว่าพบสารเสพติด ตนก็ก้มกราบเขาเขาก็ใช้เท้าเตะที่ใบหน้าตน และก็ปาซองที่ค้นเจอในรถใส่หน้าตน และก็ยืนยันได้ว่าซองที่พบเป็นสารการบูร ไม่ใช่สารเสพติด และตอนที่ถูกกระทำตนเองก็จำไม่ได้ พอมาเห็นคลิปจากสื่อทั้งตนและแม่ถึงกับน้ำตาไหลว่าทำไมเราต้องไปอ้อนวอนเขาถึงขนาดนี้เลย และตนเองก็ยืนยันว่าไม่ได้หลบด่าน และไม่เห็นด้วยซ้ำว่ามีการตั้งด่านเพราะจุดที่ตนจอดรถอยู่ก็ไกลอยู่ มาเจอแบบนี้ก็รู้สึกตกใจมาก ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงตอนนี้มันเหมือนฝังอยู่ในใจส่วนที่ว่าจะเอาอย่างไร เดี๋ยวก็ต้องมีการพูดคุยกัน หลังจากที่เมื่อวานนี้ท่านผู้กำกับเข้าไปพูดคุยด้วยก็รู้สึกสบายใจขึ้นส่วนหนึ่ง แต่อย่างไรก็ต้องมาตกลงคุยกันและคนที่มาทำร้ายตนมีทั้งตำรวจและอาสาซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่มีคำขอโทษจากคนที่จับกุมตนแต่อย่างใด มีแต่ท่านผู้กำกับคนเดียวที่เข้าไปขอโทษ มาวันนี้ตนก็อยากที่จะให้ตัวคนที่ทำร้ายตนมาพูดคุยด้วย

หลังจากนั้นทนายไพศาล ได้พาผู้เสียหายและญาติเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน โดยมี พ.ต.อ.อาทิตย์  ซิ้มเจริญ ผกก สภ.สำโรงเหนือ รอให้การต้อนรับพร้อมจัดทีมพนักงานสอบสวนไว้รอรับ โดย ผกก.สภ.สำโรงเหนือ พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจได้ยกมือไหว้ขอโทษผู้เสียหายและญาติที่เดินทางมาในวันนี้ พร้อมกล่าวยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายโดยไม่มีการเอนเอียงหรือเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน