รวบแล้วหนุ่มเจ้าของบริษัทขนส่งชื่อดังย่านทุ่งครุ วัย 29 ปี เย้ยกฎหมายชักปืนยิงหน้าโรงพักพระประแดง ตำรวจบุกค้นบ้านตะลึงพบอาวุธปืนเพียบทั้งปืนยาวปืนสั้น พร้อมลูกกระสุนอีกนับร้อยนัด เจ้าตัวอ้างเครียดหาที่ระบายใช้ลูกแบงขนาด .38 ออกมายิง ขณะตำรวจคุมตัวพร้อมแจ้ง 3 ข้อหนัก
อ่านข่าว เย้ยกฎหมายควบเก๋งชักปืนกระหน่ำยิงหน้าโรงพักพระประแดง ผบ.ตร.ฉุนขาดสั่งไล่ล่า
ภาพวงจรปิดที่หน้าสถานีตำรวจภูธรพระประแดง จับภาพขณะที่มีชายคนหนึ่งขับขี่รถเก๋ง ฮอนด้า สีเหลือง ทะเบียน 2 ขต 8807 กรุงเทพมหานคร ผ่านหน้าโรงพัก สภ.พระประแดง ก่อนที่ชายคนขับจะเปิดกระจกข้างคนขับและใช้อาวุธปืน ออกมากระหน่ำยิงขึ้นฟ้าหลายนัด ก่อนที่จะหลบหนีไป โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณห้ามทุ่มครึ่งของวันที่ 14 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุถูกปิดเงียบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ไม่รอดสายตาเหยี่ยวข่าว ได้นำเรื่องออกมาเปิดเผย จนร้อนถึงหู ผบ.ตร. ถึงกับฉุนขาด สั่งการณ์ล่าตัวให้ได้ภายใน 24 ชั่วโมง
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อ เวลา 12.30 น. วันที่ 16 มกราคม 2565 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.พระประแดง ได้สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ได้ร่วมกันนำหมายจับจากศาลจังหวัดสมุทรปราการ เข้าทำการจับกุมนายธัญญ์นิธิ (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี กรรมการบริหารบริษัทขนส่ง ชื่อดังแห่งหนึ่ง ในขณะที่กำลังขับรถจะออกหน้าหมู่บ้านชื่อดั่งย่านเลียบด่วนทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร โดยเจ้าตัวได้ใช้รถเก็งจอดปิดทางออกของหมู่บ้านเพื่อป้องกันการหลบหนี และสามารถควบคุมตัวเอาไว้ได้ ซึ่งตอนแรกเจ้าตัวอ้างว่า เป็นปืนแก๊บ จากพฤติการณ์ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ จนมีการสอบเค้น จนยอมรับว่าปืนที่ใช้ก่อเหตุนั้นเป็นปืนแบงกัน เจ้าหน้าที่จึงขออนุมัติหมายค้นจากศาลอาญาธนบุรี เข้าตรวจค้นบ้านพักเลขที่ 88 / 233 ถนนเลียบทางด่วนทุ่งครุ แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร ซึ่งได้พบรถยนต์เก๋งสีเหลือง คันที่ก่อเหตุจอดทิ้งอยู่ริมถนนในหมู่บ้านดังกล่าว และที่กระจกหน้ารถคันก่อเหตุ มีสติ๊กเกอร์ผ่านประตูเข้าออกของกองทัพอากาศ ระบุกองบินแห่งนึ่ง และพึ่งหมดอายุ 2564 ที่ผ่านมา และพบกระสุนปืนตกอยู่ที่เบาะหลังจำนวน 1 นัด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยผู้ก่อเหตุอ้างว่ารถคันดังกล่าว เป็นรถของน้องสาว แต่ตนเอาไปขับในขณะก่อเหตุ ส่วนสาเหตุ ผู้ก่อเหตุอ้างว่า ทำไปเพราะความเมาและคึกคะนอง เนื่องจากวันดังกล่าวตนเองไปนั่งดื่มสังสรรค์กับเพื่อน ย่านพระประแดง จนกระทั่งเมาได้ที่จึงขับรถจะกลับบ้านพอมาถึงที่หน้าโรงพักจึงเกิดความคึกคะนอง เอาปืนที่พกมาออกมายิงขึ้นฟ้า
ผลการตรวจค้นในบ้านพักหลังดังกล่าว โดยเจ้าของบ้านได้อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าได้เท่านั้น และห้ามผู้สื่อข่าวเข้าภายในบ้าน ซึ่งจากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ถึงกับตะลึงพบอาวุธปืนจำนวนมากพร้อมเครื่องกระสุนขนาด .38 จำนวน 175 นัด ขนาด .22 จำนวน 500 นัด และลูกแบง จำนวน 50 นัด มีทั้งปืนสั้น ปืนยาวติดลำกล้อง จำนวนหลายกระบอก ซึ่งทางผู้ก่อเหตุอ้างว่าเป็นปืนแบงกันและมีใบอนุญาต แต่ขณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นผู้ก่อเหตุไม่สามารถนำใบอนุญาตมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้ เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุพร้อมด้วยตรวจยึดอาวุธปืนทั้งหมดที่พบนำมาตรวจสอบที่โรงพัก สภ.พระประแดง พร้อมด้วยรถยนต์เก๋งของกลางที่ใช้เป็นพาหนะในการก่อเหตุ โดยที่เจ้าตัวไม่ยอมเปิดปากพูดแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวเข้าห้องสอบสวนชั้นสองโดยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าร่วมรับฟังแต่อย่างใด
ด้าน พ.ต.ท.ธนกฤต รวยอารี รอง ผกก.สส.สภ.พระประแดง ได้เปิดเผยว่า สำหรับอาวุธปืนที่ตรวจยึดมานั้นทางเจ้าของอ้างว่ามีทะเบียนทุกกระบอก แต่เราก็ต้องตรวจยึดมาตรวจสอบตามกฎหมาย ซึ่งเป็นยาวที่พบเป็นปืนขนาด .22 เป็นปืนที่ใช้ซ้อมในสนาม และขนาด .38 ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุทางผู้ก่อเหตุได้ให้การว่าเป็นปืนแบบแบงกันที่มีแต่เสียง โดยผู้ก่อเหตุอ้างว่าเครียด จึงไปดื่มเหล้าที่บ้านเพื่อนในย่านพระประแดงจนเมาและมาก่อเหตุ ส่วนกระแสข่าวว่าเป็นผู้ทรงอิทธิพล ซึ่งในเรื่องก็ยังไม่ทราบแต่เบื้องต้นผู้ก่อเหตุก็มีหน้าที่การงานและมีอาชีพเป็นหลักแหล่ง ส่วนที่ว่าจะรู้จักกับผู้ใหญ่หรือไม่นั้นตนก็ไม่ทราบ แต่เบื้องต้นทางผู้ก่อเหตุก็ไม่ได้เอาใครมาอ้างและให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดีและให้การรับสารภาพ และในวันที่เกิดเหตุผู้ก่อเหตุยังให้การรับสารภาพว่าได้ยิงปืนขึ้นฟ้าใน 2 จุด จุดแรกหน้าองค์พระ และอีกจุดเป็นหน้าโรงเรียนวิสุทธิ์ หรือหน้าโรงพัก สภ.พระประแดง ส่วนปืนที่ก่อเหตุเป็นปืนลูกโม่ขนาด .38 และใช้ลูกแบงกัน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า พกพาปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณโดยไม่มีเหตุสมควร และ ยิงปืนซึ่งดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมชน ก่อนควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.พระประแดง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
