รวบสองโจ๋วัย 19 ปี ขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนลักแบตเตอรี่รถบรรทุก และราวสแตนเลสสถานีรถไฟฟ้า นำไปขายรถเร่รับซื้อของเก่า นำเงินที่ได้มาแบ่งกันเอาไว้ใช้ในชีวิตประจำวันและเที่ยวเตร่ พอเงินหมดก็จะพากันตระเวนก่อเหตุ ก่อเหตุมาแล้วหลายพื้นที่
เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 17 มกราคม 2565 พ.ต.อ.อาทิตย์ ซิ้มเจริญ ผกก.สภ.สำโรงเหนือ พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ รอง ผกก.สส. พ.ต.ต. ธนกร จุปะมะตัง สว.สส.พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายวี (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี และ นายเอก (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี สองผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ จ.16 / 2565 ลงวันที่ 17 มกราคม 2565 ในข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด การพาทรัพย์นั้นไป หรือ เพื่อให้พ้นการจับกุม พร้อมด้วยของกลาง รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ 110 ไอ สีเทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งเป็นพาหนะในการก่อเหตุ แบตเตอรี่รถบรรทุกขนาด 120 แอมป์ ที่ก่อเหตุมาจำนวน 2 ลูก โดยจับกุมตัวได้ขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนหาเหยื่ออยู่ภายในซอยด่านสำโรง 24 / 66 แยก 18 ม.4 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
ทั้งนี้สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้มีผู้เสียหายหลายรายซึ่งส่วนใหญ่ที่คนขับรถบรรทุก ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ ว่าถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนก่อเหตุลักแบตเตอรี่รถบรรทุกที่จอดอยู่ริมถนน โดยมีภาพกล้องวงจรปิดบันทึกภาพคนร้ายเอาไว้ได้ หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงกระจายกำลังออกสืบสวนหาข่าว จนกระทั่งในวันนี้ได้รับแจ้งจากสายลับว่าได้พบเห็นชายต้องสงสัยซึ่งมีรูปร่างลักษณ์คล้ายกับคนร้ายที่ก่อเหตุลักแบตเตอรี่ ขี่รถจักรยานยนต์วนเวียนอยู่ภายในซอยด่านสำโรง 24 / 66 แยก 18 ม.4 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ จึงได้นำกำลังเข้าตรวจสอบ ได้พบนายวี นั่งคร่อมอยู่บนรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว ซึ่งตรงกับที่ภาพกล้องวงจรปิดบันทึกภาพไว้ได้ จึงเข้าทำการจับกุม ก่อนคุมตัวมาทำการสอบสวนที่โรงพัก
นายวี ได้ให้การรับสารภาพว่า ตนและนายเอก ได้ร่วมกันตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์แบตเตอรี่รถบรรทุกจริงโดยล่าสุดเมื่อวันที่ 7 มกราคม ที่ผ่านมาเพิ่งไปก่อเหตุลักแบตเตอรี่รถบรรทุก ที่จอดอยู่ริมถนนภายในซอยศรีด่าน 3 / 1 ซอยหลังโรงเรียนคลองบางกระทุ่ม ต.สำโรงเหนือ ขนาด 12 แอมป์ มาจำนวน 2 ลูก และนำไปขายให้กับรถเร่รับซื้อของเก่า ในราคาลูกละ 600 บาท ก่อนที่จะเอาเงินมาแบ่งกันเอาไว้ใช้ในชีวิตประจำวันและเที่ยวเตร่ พอเงินหมดก็จะพากันตระเวนก่อเหตุอีก โดยทำมาแล้วในหลายพื้นที่ทั้งในพื้นที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ สภ.สำโรงเหนือ และ พื้นที่ สน.บางนา นอกจากนี้ยังเคยขึ้นไปก่อเหตุลักราวสแตนเลส บนสถานีรถไฟฟ้าในย่านถนนเทพารักษ์ ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างและเอาไปขายให้ร้านของเก่า
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด การพาทรัพย์นั้นไป หรือ เพื่อให้พ้นการจับกุม ก่อนควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
