สาวเจ้าของร้านอาหารอีสานย่านพระประแดง โร่แจ้งตำรวจหลังถูกอดีตแฟนเก่าลูกจ้างในร้านขับเก๋งมาปาขวดโซดาใส่ร้านกลางดึกหวั่นเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 20 มกราคม 2565 ขณะที่ ร.ต.อ.ธีรศักดิ์ ไชยมณี รองสารวัตรสอบสวน ภ.พระประแดง สมุทรปราการ กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก ได้มี น.ส.รุ่งนภา นันสุนีย์ อายุ 42 ปี เจ้าของร้านอาหารอีสานลาบกลางทุ่ง ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนเพชรหึง หมู่ 9 ต.บางยอ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ได้นำภาพคลิปกล้องวงจรปิดซึ่งเป็นหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์ หลังจากที่ถูกมือดีเป็นชายและจำได้ว่าคือนาย อธิวัฒน์ บัวหุ่ง อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นอดีตสามีเก่าของพนักงานในร้านที่เลิกรากันมาได้เกือบ 1 ปีแล้ว ที่เป็นคนก่อเหตุปาขวดโซดาเข้ามาในร้าน และกล้องวงจรปิดบันทึกภาพเอาไว้ได้ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 14 มกราคม ที่ผ่านมา และเกรงในเรื่องความปลอดภัย โชคดีในเวลาเกิดเหตุเป็นเวลากลางดึกที่ร้านปิดแล้ว จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ จึงได้รวบรวมหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้ หวั่นเรื่องความปลอดภัยของคนในร้าน
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรัง จัดใหญ่ 12 วัน งานฉลองรัฐธรรมนูญและงานกาชาดจ.ตรัง 4-15 ธ.ค.นี้ รีแบร์นใหม่! ย้อนยุคงานเหลิมแต่แรก แสดงบินโดรนพิธีเปิด วธ.ทุ่ม 3.4 ล้าน…
- ตรัง คู่ซี้ พระ-ฆราวาส เมาแอ๋ด่าทอชาวบ้านใกล้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อาละวาดอ้างมีปืน ทำชาวบ้านแตกตื่น ตร.หิ้วปีกบังคับสึก กร่างไม่เลิกบอกรู้จักพระผู้ใหญ่
- ชวนชิม 'ศรีบุญเรือน' ร้านข้าวต้มต้นตำรับ สืบทอดสามรุ่น เสน่ห์ร้านข้าวต้มยามค่ำคืน ที่รวมอาหารจีน อาหารเหลา อาหารใต้ไว้ในร้านเดียว
- ขาดสภาพคล่องขั้นรุนแรง! อธิบดีกรมท่าฯ ร่อนนส.ด่วน! แจ้งบอกเลิกสัญญาทิ้งงานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารสนามบินตรัง 1.2 พันล.แล้ว…
น.ส.รุ่งนภา เจ้าของร้าน ได้เล่าว่า ในคืนที่เกิดเหตุตนกำลังนอนอยู่และได้ยินเสียงเหมือนมีคนปาของเข้ามาในร้าน จึงลงมาดูและพบว่ามีขวดโซดาแตกอยู่หน้าร้าน ตอนแรกตนก็ไม่รู้ว่าเป็นใครที่ปาเข้ามา แต่พอมาเปิดกล้องวงจรปิดดู ก็พบว่าเป็นอดีตแฟนเก่าของพนักงานในร้าน ที่เคยมาก่อเหตุมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปีที่แล้วและรอบนี้เป็นครั้งที่สอง ซึ่งก่อตุ 2 ครั้งในคืนเดียวรอบแรกตอนสามทุ่ม รอบสองตอนเที่ยงคืน ทำให้ตนก็รู้สึกกลัวเรื่องความปลอดภัย ตนก็เคยให้ลูกน้องในร้านไปโทรคุยกับอดีตแฟนมาแล้วครั้งหนึ่งแต่ก็ไม่จบ ตนจึงโทรไปเองพอฝ่ายผู้ก่อเหตุรับสายก็ได้ต่อว่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย ทั้งที่ไม่รู้ว่าคนโทรเป็นใคร หลังจากนั้นเขาก็กลับมาก่อเหตุอีก ตนก็กลัวเรื่องความปลอดภัย ชีวิตและทรัพย์สินภายในร้านเพราะอยู่กันหลายคน ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง อยากจะให้ตำรวจช่วยเรียกคนก่อเหตุมาคุย ถ้ายังทำอีกจะขอดำเนินคดี เพราะตนก็ไม่ได้นอนมา 2 คืนแล้ว ต้องมานั่งระแวงว่าจะมีใครมาทำร้ายหรือทำลายทรัพย์สิน
น.ส.อิสริยา คำแพง อายุ 38 ปี อดีตภรรยาผู้กอเหตุและเป็นพนักงานในร้านที่เกิดเหตุ ได้เล่าว่า เคยอยู่กินกับผู้ก่อเหตุจนมีลูกด้วยกัน 1 คน อายุ 6 ขวบ และเกิดมีปัญหากันเรื่องลูก จึงขอแยกทางกัน แต่ก็ยังคุยกันอยู่มาเกือบจะ 1 ปีแล้ว และมีตกลงกันว่าจะแบ่งกันดูแลลูก โดยในวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ผู้ก่อเหตุจะมารับลูกไปเลี้ยงที่บ้าน แต่วันจันทร์ถึง พฤหัสบดี ลูกต้องมาอยู่กับตน แต่มาหลัง ๆ ผู้ก่อเหตุก็ไม่ทำตามสัญญาไม่ยอมเอาลูกมาส่งให้ตน ตนจึงตามไปรับลูกมาอยู่กับตนและยกเลิกสัญญาที่เคยให้ไว้ เพราะผู้ก่อเหตุก็มีครอบครัวใหม่ไปแล้ว และเอาลูกไปไม่ได้เลี้ยง แต่ไปให้ปู่กับย่าเป็นคนเลี้ยง ซึ่งทั้งสองก็แก่แล้วตนรู้สึกสงสารจึงไม่อยากให้ไปเป็นภาระของแก่ทั้งสองด้วย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และจะได้เชิญตัวผู้ก่อเหตุมาเจรจาพูดคุยตกลงกันเพื่อไม่ให้มาก่อเหตุอีก
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: