ความคืบหน้า เหตุไฟไหม้โรงงานกระดาษย่านสมุทรปราการ เบื้องต้นสามารถควบคุมเพลิงไว้ในวงจำกัดได้แล้ว ด้านผู้ว่าฯ ปากน้ำสั่งเร่งสำรวจชาวบ้านที่รับผลกระทบพร้อมจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกไปเจรจาพูดคุยเพื่อเป็นการเยียวยาจิตใจชาวบ้านในเบื้องต้น ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่คงต้องรอให้เพลิงสงบก่อน
ความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้โรงงานผลิตกระดาษขนาดใหญ่ ในจังหวัดสมุทรปราการ ล่าสุดหลังจากที่มีการร้องขอรถส่งน้ำแรงดันสูงจากเจ้าหน้าที่ ปภ.จากปราจีนบุรี เข้ามาช่วยส่งน้ำระยะไกลเพื่อเพิ่มแรงดันให้กับรถดับเพลิงฉีดสกัดอัดใต้กองกระดาษอัดแท่ง จนกระทั่งช่วงเช้าวันนี้เจ้าหน้าที่สามารถดับเพลิงไปได้แล้วกว่าร้อยละ 70 ที่บริเวณด้านหลังจุดต้นเพลิง เหลือเพียงฝั่งที่อยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาที่เพลิงยังคงลุกไหม้กองกระดาษอย่างต่อเนื่อง จากสภาพที่มีลมทะเลพัดเข้ามาตลอดเวลาทำให้เพลิงลุกไหม้ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
ข่าวน่าสนใจ:
- ข้าวหลามตำบลโคกเจริญคว้ารางวัลชนะเลิศ "ข้าวหลามดี ศรีทับปุด" ปี 2567
- ศึกชิงเก้าอี้ "นายก อบจ." เดือดแน่..ลุ้นใครล้มช้าง 5 สมัย?
- สวนสัตว์ขอนแก่น ต้อนรับเทศกาลคริสต์มาส มอบของขวัญอาหารให้กับหนูยักษ์คาปิบาร่า และฝูงกวางซิก้า และเนื้อทราย เพื่อส่งต่อความสุข…
- ขอนแก่น จัดงานสุดยอดมหกรรมเทศกาลอาหาร “ขอนแก่นแซ่บเวอร์ Soft power foodThailand”พบการแสดงศิลปวัฒนธรรมอีสาน และศิลปินชื่อดังระหว่างวันที่ 25-29…
ล่าสุดเมื่อช่วงสายของวันนี้ที่ 22 พฤศจิกายน 2561 นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ได้เดินทางมาดูความคืบหน้าในการดับไฟของเจ้าหน้าที่ดับเพลิง พบว่าขณะนี้สามารถดับเปลวไฟไปได้แล้วกว่าร้อยละ 70 ยังคงเหลือเพียงฝั่งที่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาเท่านั้นที่ยังคงมีเพลิงลุกไหม้อยู่อย่างต่อเนื่อง เพราะมีลมทะเลพัดเข้าตลอดเวลา ขณะเดียวกันได้มีประสานขอรถแบคโฮจากภาคเอกชนเข้ามาร่วมในการคุ้ยกองกระดาษเพิ่มอีก 1 คัน เพื่อให้ทำงานได้เร็วขึ้น
นอกจากนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ยังสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบในเรื่องฝุ่นละอองที่เกิดจากไฟไหม้ในครั้งนี้ โดยจัดส่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดและเจ้าหน้าที่ อสม.ออกสำรวจชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้เพื่อให้การเยียวยาในเบื้องต้น โดยได้แจกจ่ายแมสปิดปากปิดจมูกเพื่อป้องกันระบบทางเดินหายใจ ซึ่งผลการสำรวจพบว่าชาวบ้านได้ผลกระทบเพียงฝุ่นละอองปลิวเข้าไปในบ้านพักอาศัยเท่านั้น
นางสลินดา เขียวพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาลตำบลท้ายบ้าน กล่าวว่าว่า ในวันนี้เราได้ระดมกำลัง อสม.มาลงพื้นที่สำรวจพื้นที่โดยรอบโรงงานที่เกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร โดยลงพื้นที่สำรวจชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบไม่ว่าจะเป็นระบบผิวหนัง หรือระบบทางเดินหายใจ รวมถึงผู้ป่วยติดเตียง และนำผลการสำรวจไปสรุปที่อนามัยอีกครั้งเพื่อวางแผนให้การช่วยเหลือ ส่วนโรงพยาบาลสมุทรปราการเป็นหน่วยตั้งรับ ในส่วนนี้เราขอสำรวจข้อมูลที่แท้จริงก่อน แล้วถ้ามีผลกระทบอย่างไรเราก็จะประสานงานต่อ แต่ในเบื้องต้นเรายังไม่ได้รับรายงานว่ามีชาวบ้านได้รับผลกระทบต่อสุขภาพแต่อย่างใด มีเพียงผลกระทบในเรื่องฝุ่นละอองไปตกในที่พักอาศัยเท่านั้น
ด้านนายชาติชาย อุทัยพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า สถานการณ์ล่าสุดเราถือว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว แต่เนื่องจากว่ากระดาษที่เป็นเชื้อเพลิงอาจจะต้องใช้เวลานานหน่อย ส่วนเรื่องการจำกัดบริเวณต่าง ๆ หรือเรื่องการลุกไหม้ของเปลวเพลิงที่สูง ๆ ไม่มีแล้ว ก็จะเหลือเพียงที่คุขึ้นมาเป็นหย่อม ๆ เท่านั้น ซึ่งตอนนี้เราได้ประสานขอเครื่องส่งน้ำระยะใกล้มาจากสำนักงาน ปภ.เขต 3 ปราจีนบุรีมาช่วย ก็ทำให้การลำเลียงน้ำได้ง่ายขึ้นทำให้รถน้ำไม่ต้องวิ่งเติมน้ำบ่อย ๆ ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังหาจุดที่จะคุ้ยกระดาษที่ยังคุอยู่เพื่อที่จะฉีดน้ำเข้าไป คงต้องใช้เวลาอีกหลายชั่วโมงเช่นกันกว่าจะดับไฟทั้งหมดได้เนื่องจากเชื้อเพลิงมันเป็นกระดาษ ซึ่งคาดว่าในช่วงเย็นของวันนี้น่าจะดับเปลวไฟทั้งหมดได้ อีกส่วนหนึ่งเจ้าหน้าที่เองก็ยังไม่ได้พักยังคงเป็นเจ้าหน้าที่ชุดเดิมอยู่ แต่คงต้องมีการสับเปลี่ยนกำลังกันออกมาบ้าง ในส่วนของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบเท่าที่ทราบมีเถ้ากระดาษที่ปลิวไป ผลกระทบก็คงไม่รุนแรงมากนัก แต่มันมีเศษเถ้าไปมันจะสกปรกบ้าง แต่วันนี้เราก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและ อสม.ไปสำรวจผลกระทบของชาวบ้านแล้ว แต่ยังไม่ได้รับรายงานเข้ามาว่ามีใครได้รับผลกระทบบ้าง พร้อมจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกไปเจรจาพูดคุยเพื่อเป็นการเยียวยาจิตใจชาวบ้านในเบื้องต้น ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่คงต้องรอให้เพลิงสงบก่อน เพราะว่าเราเองก็ยังไม่ทราบชัดเจนถ้าพูดไปมันก็ไม่มีหลักฐาน รอให้ทางวิทยาการตำรวจมาดูอีกทีถึงจะทราบสาเหตุ ส่วนค่าเสียหายเบื้องต้นเท่าที่คุยกับเจ้าของโรงงานที่เกิดเหตุคาดว่ามูลค่าความเสียหายไม่น่าต่ำกว่า 100 ล้านบาท เพราะเฉพาะกองกระดาษเองก็ประมาณ 1 หมื่นตัน หรือประมาณ 10 ล้านกิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 6 บาท ก็ตกประมาณ 60 ล้านบาท ไม่นับตัวโครงสร้างของโครงหลังคาเหล็กและเครื่องจักรก็คงประมาณ 80-90 ล้านบาท หรืออาจจะกว่า 100 ล้านบาทก็อยู่ประมาณนี้ อันนี้เป็นเพียงคร่าว ๆ ตัวเลขยังไม่เป็นทางการ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: