หนุ่มขับเก๋งถูกพ่วงเปลี่ยนเลนตัดหน้าพุ่งชนท้ายถุงลมระเบิด หลอดลมเป็นแผลขนาดใหญ่ดับคาที่ บริเวณถนนบางนา-ตราด ขาออก ช่องทางด่วนหลักกิโลเมตรที่ 15 ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 ร.ต.อ.อนันต์ ทองเหลือ รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางพลี สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีอุบัติรถยนต์เก๋งชนท้ายรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อบรรทุกตู้คอนเทรนเนอร์ มีผู้เสียชีวิต ที่บริเวณถนนบางนา-ตราด ขาออก ช่องทางด่วนหลักกิโลเมตรที่ 15 ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยมูลนิธิป่อเต๊กตึ้งเดินทางเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อ ฮอนด้า แจ๊ส สีดำเทา ทะเบียน 4 กช 5205 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ในช่องทางด้านขวาในสภาพด้านหน้าพังยับเยินภายในรถฝั่งคนขับได้พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชายชื่อนายแจ๊ส (นามสมมุติ ) อายุ 29 ปี นั่งจมกองเสียชีวิตอยู่ที่เบาะข้างคนขับที่ลำคอมีบาดแผลขนาดใหญ่ และที่พวงมาลัยและคอนโซนหน้ารถฝั่งคนนั่งถุงลมแอแบ๊คทำงานทั้งสองข้าง ห่างไปเล็กน้อย ได้พบรถบรรทุกพ่วงไม่ทราบยี่ห้อ สีขาว ทะเบียนหัวลาก 74-9910 กรุงเทพมหานคร ทะเบียนหางพ่วง 73-9768 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ในสภาพเหล็กกันชนด้านท้ายข้างขวายุบ โดยมีนายนัด (นามสมมุติ) อายุ 44 ปี ชาวจังหวัดสระแก้วเป็นคนขับ
จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิต ได้ขับขี่รถยนต์เก๋งคันดังกล่าวกลับจากทำธุระในกรุงเทพมหานคร และกำลังจะขับรถกลับบ้านพักที่พัทยาจังหวัดชลบุรี โดยนั่งกันมา 3 คนคนมีแม่ของผู้เสียชีวิตนั่งคู่มากับผู้ตายด้านหน้าส่วนน้องสาวนั่งมาที่เบาะหลัง ก่อนที่จะมาเกิดอุบัติเหตุขึ้น และถุงลมแอร์แบคทำงานทั้งสองลูก หลังเกิดเหตุพบว่าผู้ตายมีเลือดจำนวนมากไหลออกมาจำลำคอจึงเอ็นเบาะลงมาดูพบว่ามีบาดแผลขนาดใหญ่ที่ลำคอช่วงหลอดลมซึ่งไม่ทราบว่าโดนอะไร ทางแม่และน้องสาวได้ช่วยกันนำกระดาษทิชชูมาช่วยกันซับเลือดก่อนโทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่จากการสอบสวนนายนัด คนขับรถพ่วงเบื้องต้นยอมรับว่ามีการเปลี่ยนเลนกะทันหันส่วนรถเก๋งขับมาในเลนขวาจึงทำให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่สาเหตุบาดแผลที่ลำคอผู้ตายได้เนื่องจากการตรวจสอบในรถของผู้ตายไม่พบวัตถุใดที่จะสามารถทำให้เกิดบาดแผลได้มีเพียงถุงลมแอร์แบคเท่านั้นที่ระเบิดออกมา ส่วนสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุจะได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ในละแวกที่เกิดเหตุเพื่อเป็นแนวทางในการสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนร่างผู้เสียชีวิตมูลนิธิได้นำส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลรามาสมุทรปราการ เพื่อตรวจสอบว่าเกิดจากอะไรและเป็นสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตหรือไม่
