สาวคลังสินค้าย่านบางพลี โพสต์คลิปภาพจากวงจรปิด รถจักรยานยนต์ถูกรถยนต์เก๋งพุ่งชนท้ายจนทั้งคนและรถกระเด็นไปนอนกับพื้นถนน ก่อนจะซิ่งรถหลบหนีไป
จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ Jittima Pomwisuth ซึ่งเป็นหญิงสาวผู้เสียหาย ได้โพสต์คลิปกล้องวงจรปิดที่บันทึกเหตุการณ์ขณะที่ผู้เสียขี่รถจักรยานยนต์และถูกรถเก๋งฮอนด้า แจ้ส แต่งซิ่งพุ่งชนท้ายจนร่างกระเด็นก่อนที่รถคันดังกล่าวจะขับรถหนีไป โดยระบุเหตุเกิดเมื่อช่วงเที่ยงคืนของวันเสาร์ที่ผ่านมา พร้อมข้อความว่า ต้องเกิดมาแบบไหน อยู่ในสังคมแบบไหน ถึงมาทำแบบนี้ ขี่รถชนแล้วหนี ตอนนี้แจ้งความไว้แล้ว เราไม่รู้ตำรวจจะช่วยเราได้แค่ไหน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ เวลา 00.35 น.เป็นญาติใครก็ขอก็บอกให้มารับผิดชอบกับสิ่งที่ตัวเองทำด้วยค่ะ ฝากหน่อยนะคะ ชนหน้าโรงพยาบาลบางพลี หน้าตลาดเทพนิมิต แจ๊สส้มดำ สมุทรปราการ
ล่าสุดในวันนี้ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 นางสาว จิตติมา ผลวิสุทธิ์ อายุ 27 ปี สาวชาวจังหวัดอุบลราชธานี พนักงานคลังสินค้าแห่งหนึ่งในย่านอำเภอบางพลี ได้เข้าพบ พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.บางพลี สมุทรปราการ เพื่อติดตามความคืบหน้า โดยระหว่างผู้เสียหายเดินทางเข้าพบ ผกก.สภ.บางพลี ปรากฏว่ามีนายประพันธ์ ช่างหลก อายุ 31 ปี ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สภ.บางพลี พร้อมแสดงตนว่า เป็นคู่กรณีของผู้เสียหาย โดยอ้างว่าตั้งใจเดินทางมามอบตัว ไม่ได้หลบหนี ที่ไม่ได้จอดลงมาดูผู้บาดเจ็บในวันเกิดเหตุนั้น เนื่องจากตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงกลับไปตั้งหลักและตั้งใจมามอบตัวในวันนี้ พร้อมทั้งแสดงความรับผิดชอบชดใช้ทุกอย่างที่เกิดขึ้น
โดยนายประพันธ์ บอกว่า วันเกิดเหตุตนกำลังขับรถไปจังหวัดปทุมธานี ขณะขับถึงที่เกิดเหตุ ได้อ้างว่าก้มลงไปเก็บโทรศัพท์ที่ตกลงไปตรงพื้นที่พักเท้า แต่พอเงยหน้าขึ้นมาก็พุ่งชนท้ายรถจักรยานยนต์คู่กรณีแล้ว และตกใจมากจึงขับรถกลับมาห้องพักในซอยธนสิทธิ์ เพื่อตั้งหลักและเดินทางมามอบตัวในวันนี้ ขณะที่ผู้เสียหาย ได้ต่อว่า นายประพันธ์ คู่กรณี ว่าทำไมไม่จอดลงมาดูตนเองสักนิดแถมไม่ออกมาแสดงความรับผิดชอบในตอนแรกพอเป็นข่าวทางโซเซียลจึงออกมา แต่หากสำนึกผิดและขอโทษพร้อมทั้งชดใช้ความเสียหายตนก็พร้อมให้อภัย
ขณะที่ พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.บางพลี เปิดเผยว่า ในส่วนของทางคดีนั้นไม่ได้นิ่งนอนใจ ทราบจากพนักงานสอบสวนว่าอยู่ระหว่างตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางหลบหนีเนื่องจากมองป้ายทะเบียนไม่ชัด จนกระทั่งผู้เสียหายออกมาโพสต์และคู่กรณีออกมาแสดงตนและขอรับผิดชอบต่อคู่กรณี ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องดีกับทั้งสองฝ่าย ส่วนทางคดีจะต้องแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและหลบหนีออกจากจุดเกิดเหตุโดยไม่หยุดดูให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและไม่แจ้งเรื่องต่อเจ้าพนักงาน ก่อนทำการสอบสวนและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
