หนุ่มวัย 33 ปี หลอน พยายามงัดตู้เอทีเอ็มและเดินไล่เปิดรถชาวบ้าน ร้อนถึงกู้ภัยไล่จับรอตำรวจนานเกือบชั่วโมงกว่าจะมาถึง
เมื่อเวลา 22.30 น.วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 อาสามูลนิธิและชาวบ้านได้ร่วมกันควบคุมตัวนายเก่งพงศ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่พยายามงัดช่องรับเงินของตู้เอทีเอ็มจำนวน 3 ตู้ที่ตั้งอยู่ภายในปั้มน้ำมัน ปตท. ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนศรีนครินทร์ ใกล้ทางเข้าหมู่บ้านนันทวัน หมู่ 5 ต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ก่อนที่จะเดินหนีข้ามสะพานลอยมาอีกฝั่งหนึ่งและเข้าไปนั่งในรถยนต์เก๋งของชาวบ้านที่จอดอยู่ริมถนนและพยายามทำลายกุญแจสตาร์ทของรถเก๋งคันดังกล่าว จนชาวบ้านและอาสามูลนิธิที่เห็นเหตุการณ์ได้เข้าเปิดประตูและช่วยกันล็อกตัวชายคนดังกล่าวออกมาได้ก่อนควบคุมตัวเอาไว้ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง สมุทรปราการ ให้มารับตัวชายคนดังกล่าวไปทำการสอบสวนแต่กว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาถึงก็ใช้เวลานานเกือบ 1 ชั่วโมง ร้อนถึง พ.ต.อ.สุรวุฒิ แสงรุ่งเรือง รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ต้องเดินทางมาดูที่เกิดเหตุด้วยตัวเอง
จากการสอบถามชาวบ้านทราบว่าชายคนดังกล่าวขับรถยนต์มาจอดไว้ด้านในของปั้มน้ำมัน ปตท. จุดที่พยายามงัดช่องรับเงินตู้เอทีเอ็ม จึงคุมตัวชายคนดังกล่าวเดินทางมาตรวจหารถยนต์ที่ขับมา เนื่องจากตรวจค้นในตัวชายคนดังกล่าวได้พบกุญแจรถยนต์ยี่ห้อ มิตซูบีชิ อยู่ 1 ดอก จึงนำกุญแจดอกดังกล่าวมาทำการกดสัญญาณหารถจนกระทั่งพบ รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ มิตซูบีชิ ปาเจโร่ สีขาว ทะเบียน 5 กณ 6906 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ด้านในสุดของปั้มน้ำมันดังกล่าว ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะแสดงความบริสุทธิ์ และตรวจค้นภายในรถโดยที่ชายคนดังกล่าวยืนดูการตรวจค้นภายในรถอย่างใกล้ชิด ซึ่งได้พบซองยาที่หน้าซองระบุว่าเป็นยารักษาโรคซึมเศร้า และบัตรผู้ป่วยของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ที่ระบุชื่อนายเก่งพงศ์ พร้อมด้วยวัตถุที่มีลักษณะคล้ายดอกกัญชาบรรจุอยู่ในถุงซิบอีกจำนวนหนึ่งที่อยู่ในกระเป๋าหลังเบาะคนขับ จากการสอบถามชายคนดังกล่าวพูดแต่เพียงว่าตนเองป่วยเป็นโรคซึมเศร้า และเพิ่งกินยารักษาโรคซึมเศร้าเข้าไปและเกิดอาการมึน ส่วนที่ไปขึ้นนั่งในรถของชาวบ้านนั้นอ้างว่าจำรถผิด
นายวีระยุทธ เสียมคำ อายุ 30 ปี อาสามูลนิธิ ที่เห็นพฤติกรรมของชายคนดังกล่าว ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเข้าเวรจึงมาจอดรถอยู่ที่หน้าปั้มน้ำมันดังกล่าว พนักง่านของปั้มได้เดินมาบอกตนว่า ชายคนดังกล่าว ไปเดินวนไปมาอยู่ที่เคาว์เตอร์เก็บเงิน ก่อนที่จะเดินถอยออกมาและเดินเข้าไปที่ตู้เอทีเอ็ม 3 ตู้ที่ตั้งอยู่ในปั้มด้านหน้าและพยายามใช้มืองัดช่องรับเงิน โดยทำทีเหมือนไปกดเงินแต่ไม่ได้กดแต่พยายามใช้มืองัดช่องรับเงินของตู้เอทีเอ็มทั้ง 3 ตู้ ตนจึงเดินไปถามว่าทำอะไรชายคนดังกล่าวได้เดินหนีไปที่หน้าร้านสุกี่ ตี๋น้อยที่อยู่ติดกับปั้ม ก่อนที่จะเดินวนกลับมานั่งที่ร่านขายก๋วยเตี๋ยวทำท่าเหมือนจะสั่งก๋วยเตี๋ยวกิน แต่ไม่สั่งและเดินลุกหนีมาที่รถของตน ตนก็ถามว่ามาทำอะไรเขาบอกว่าหนีเพื่อนมา ก่อนที่จะเดินหนีขึ้นไปบนสะพานลอยและเดิมข้ามฝั่งก่อนที่จะเข้าไปงัดรถชาวบ้านที่จอดอยู่ริมถนน
ขณะที่ น.ส.ดวงพร เนตรบุตร อายุ 40 ปี ที่นั่งอยู่ในรถยนต์เก๋ง ที่จอดอยู่ข้างรถของชายคนดังกล่าว ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถเข้ามาจอดด้านในปั้มน้ำมันดังกล่าวขณะที่กำลังนั่งคุณโทรศัพท์อยู่ในรถชายคนดังกล่าวได้ตรงเข้ามาพยายามจะเปิดประตูรถของตนให้ได้แต่โชคดีที่ตนล็อกประตูรถเอาไว้ พอชายคนดังกล่าวเปิดประตูรถตนไม่ได้จึงได้เดินออกไปทางหน้าปั๊ม
ด้านนายวิชัย ควรแถลง อายุ 62 ปี พนักงานของปั้มน้ำมันดังกล่าว ได้เล่าว่า หลังจากที่ชายคนดังกล่าวพยายามจะเปิดประตูรถของหญิงสาวคนดังกล่าวแล้ว ก็ยังได้พยายามจะเปิดประตูรถยนต์ของลูกตนด้วย พอเปิดไม่ได้ เขาก็เดินออกไปทางหน้าปั้ม แม่บ้านของปั๊มจึงได้เดินตามไปบอกอาสามูลนิธิที่จอดรถอยู่หน้าปั้มให้ช่วยแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวชายคนดังกล่าว ไปสงบสติอารมณ์ที่โรงพักและบันทึกทำประวัติ ก่อนที่จะพยายามติดต่อประสานให้ญาติมารับตัวกลับไป
