ตำรวจสำโรงเหนือรวบหนุ่มวัย 25 ปี ทุบกระจกประตูห้างดังย่านสำโรงเหนือ เข้าไปลักทรัพย์ ได้รับทรัพย์สินไปหลายรายการ จากการตรวจสอบประวัติพบหมายจับเพียบ
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2565 พ.ต.อ.อาทิตย์ ซิ้มเจริญ ผกก สภ สำโรงเหนือ จังหวัดสมุทรปราการ พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ รอง ผกก.สส. สภ.สำโรงเหนือ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ได้กันจับกุมตัว นายพัชรพงศ์ สุขเจริญ อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาทุบกระจกเข้าไปลักทรัพย์ภายในห้างชื่อดังย่านสำโรงเหนือ พร้อมของกลาง นาฬิกาข้อมือ จำนวน 36 เรือน พระเครื่อง 29 องค์ เครื่องมือซ่อมนาฬิกา 1 ชุด และทรัพย์สินอื่น ๆ อีกจำนวนมากนับร้อยรายการ
ข่าวน่าสนใจ:
- ศึกชิงเก้าอี้ "นายก อบจ." เดือดแน่..ลุ้นใครล้มช้าง 5 สมัย?
- ขอนแก่น จัดงานสุดยอดมหกรรมเทศกาลอาหาร “ขอนแก่นแซ่บเวอร์ Soft power foodThailand”พบการแสดงศิลปวัฒนธรรมอีสาน และศิลปินชื่อดังระหว่างวันที่ 25-29…
- สืบสวนบางพลีโชว์ผลงานตามรวบอดีตช่างกุญแจผันตัวเป็นโจรใช้ความรู้ที่มีทำกุญแจรีโมทขโมย จยย.หรู
- ตรัง "โลกเปลี่ยน เราไม่เปลี่ยน" บอกรักทะเลด้วยสองมือ ณ หาดฉางหลาง ทะเลตรัง ก้าวขา-พาสองมือเก็บขยะทะเล รังสรรค์งานศิลป์
พ.ต.อ.อาทิตย์ ซิ้มเจริญ ผกก. สภ. สำโรงเหนือ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 ช่วงเวลาประมาณ 06.00 น ได้รับแจ้งจากพนักงานความปลอดภัยของห้างสรรพสินค้า บิ๊กซี ซุปเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาสำโรง 2 ว่ามีคนร้ายเข้าไปทุบกระจกด้านหลังห้างแล้วเข้าไปลักทรัพย์ในห้างมีทรัพย์สินสูญหายไปจำนวนหลายรายการ นาฬิกาข้อมือ ประมาณ 103 เรือน / พระเครื่อง จำนวน 300 – 400 องค์ หลังรับแจ้งจึงพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบ ซึ่งพบว่าพฤติกรรมของคนร้ายกล้องวงจรปิดบันทึกภาพไว้ได้ จึงกลยายเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญในการติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุ พบคนร้าย เป็นชายเข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์ภายในห้างดังกล่าวในช่วงเวลาประมาณ 01.00 น ได้พบเห็นคนร้ายเป็นชาย 1 คนเข้าไปลักทรัพย์ก่อนก่อเหตุลักทรัพย์สินตามร้านค้าต่าง ๆ ที่อยู่ภายในห้างจำนวนมาก ก่อนที่จะหลบหนีออกจากห้างไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสวนได้ใช้ภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐานในการสืบสวน จนกระทั่งทราบว่าผู้ก่อเหตุชื่อนายพัชรพงศ์ สุขเจริญ อายุ 25 ปี จึงกระจายกำลังออกสืบสวนหาข่าวจนกระทั่งพบตัวนายพัชรพงศ์ กำลังปั่นรถจักรยาน อยู่ภายในซอย สุขุมวิท 115 ตำบลเทพารักษ์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ จึงนำกำลังเข้าทำการจับกุมตัวเอาไว้ได้ ก่อนคุมตัวไปตรวจค้นที่บ้านพัก พบของกลางจำนวนมากที่ก่อเหตุลักทรัพย์มา จึงยึดเอาไว้เป็นของกลาง ก่อนคุมตัวมาทำการสอบสวนที่โรงพัก
นายพัชรพงศ์ ได้ให้การยอมรับว่าสารภาพว่า เป็นบุคคลที่ก่อเหตุลักทรัพย์ดังกล่าวจริง โดยก่อเหตุทำนองเดียวกันมาแล้วหลายครั้ง หลายท้องที่ ก่อนที่จะนำทรัพย์สินไปขายเอาเงินมาซื้อยาเสพติดเสพและเที่ยวเตร่หลังเงินหมดก็จะตระเวนก่อเหตุอีกโดยทำมาแล้วหลายครั้งในหลายพื้นที่ และจากการตรวจสอบประวัติผู้ก่อเหตุพบว่ายังมีหมายจับของเจ้าหน้าที่ตำรวจในหลายท้องที่อีก กว่า 10 หมาย ในคดีเดียวกัน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำลายสิ่งกีดกั้น และทำให้เสียทรัพย์ ก่อนควบคุมตัวเอาไว้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: