โชเฟอร์รถบรรทุกพ่วงหัวร้อน ถูกหนุ่มขับรถยนต์เก๋งมากับลูกเมีย บีบแตรใส่ ก่อนจะจอดรถกลางถนนแล้วพยายามถอยหลังมาเพื่อชน เหตุเกิดภายในซอยวัดศรีวารีน้อย ตำบลศีรษะจรเข้ใหญ่ อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ
จากกรณีมีผู้โพสต์คลิปรถบรรทุกขับส่ายไปมา ถอยหลังทำท่าจะชนรถเก๋ง โดยเจ้าของคลิปถามมาว่า แจ้งความข้อหาพยายามฆ่า ได้หรือเปล่า ท่านใดมีความรู้เรื่องนี้ คอมเมนท์บอกเขาหน่อยครับ เหตุเกิดช่วงเย็นของวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา
ล่าสุดในวันนี้ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2565 ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังเจ้าของคลิปเพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นพบกับ นาย เจษฎา ทาชารี อายุ 42 ปี คนขับรถเก๋งคันดังกล่าว ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถเก๋งยี่ห้อ มิตซูบิชิ สีขาว ทะเบียน 4กล 5738 กรุงเทพมหานคร กลับมาจากซื้อของที่ตลาดสี่มุมเมือง มุ่งหน้ากลับบ้านพักในซอยวัดศรีวารีน้อย โดยมีนางสาว บุปผา หาญเชิงชัย อายุ 33 ปี ภรรยา และลูกสาว 2 คนนั่งมาภายในรถขณะที่ขับมาถึงซอยวัดศรีวารีน้อย ตำบลศีรษะจรเข้ใหญ่ อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ โดยขับมาในเลนขวา เมื่อมาถึงก่อนทางโค้งสะพานคลองบางนา ได้มีรถบรรทุกพ่วงวิ่งมาในเลนซ้าย แล้วขับเบี่ยงมาในเลนขวา ปาดหน้ารถตนในระยะกะชั้นชิด ตนจึงบีบแตรเตือนไป 1 ครั้ง ทำให้คนขับรถบรรทุกคันดังกล่าวไม่พอใจได้ขับส่ายไปมา จนกระทั่งมาถึงบริเวณสะพานลอยหน้าทางเข้าวัดศรีวารีน้อย รถบรรทุกได้ขับจอดกลางถนนขวาง 2 เลน ไม่ให้รถคันอื่นแซงขึ้นไป ก่อนที่จะใส่เกียร์ถอยหลังพยายามจะมาชนรถของตนทำให้ลูกสาวทั้งสองรวมทั้งภรรยาตกใจมากต่างพากันส่งเสียงหวีดร้อง ตนพยายามจะถอยหลังหนีแต่ก็ถอยไม่ได้เพราะมีรถตามหลังมาอีกหลายคัน ก่อนที่รถพ่วงคันดังกล่าวจะขับเดินหน้าไปอย่างช้า ๆ และส่ายไปมาคล้ายจะชะลอให้ตนแซงขึ้นไป แต่ตนไม่กล้าแซงจึงขับตามไปอย่างช้า ๆ ก่อนที่จะเลี้ยวเข้าหมู่บ้านที่ตนพักอาศัยอยู่
ขณะที่นางสาว บุปผา ผู้เป็นภรรยา ได้บอกว่า ตอนที่รถบรรทุกถอยหลังจะมาชน ตนรู้สึกตกใจและกลัวมาก ห่วงทั้งลูกที่นั่งมาภายในรถ และพยายามเตือนสติสามีไม่ให้ไปยุ่งกับเขา ขณะที่ลูกสาวตกใจกลัวร้องไห้ และร้องบอกให้พ่อขับรถถอยหลัง แต่ก็ถอยไม่ได้เนื่องจากติดรถคันหลัง โดยหลังจากนี้จะเดินไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรบางเสาธง เพื่อดำเนินคดีกับคนขับรถบรรทุก ต่อไป
