บิ๊กโจ๊ก เปิดปฏิบัติการ Joint Mission by IUU Hunter ตรวจประมงกว่าหนึ่งพันลำ ก่อนออกใบอนุญาต ที่ท่าเทียบเรือองค์การสะพานปลา จังหวัดสมุทรปราการ ตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 กำหนดให้เรือประมงพาณิชย์ที่จะออกทำการประมงต้องได้ใบอนุญาตจากกรมประมง คราวละ 2 ปี นับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 31 มีนาคม โดยได้ปฏิบัติต่อเนื่องกันมา 3 ครั้งแล้ว
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ท่าเทียบเรือองค์การสะพานปลา จังหวัดสมุทรปราการ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. ในฐานะประธานคณะทำงานเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบ ควบคุม และเฝ้าระวังการทำประมง IUU ได้เดินทางมาเป็นประธานในการเปิดปฏิบัติการการตรวจเครื่องมือประมงแบบบูรณาการ เพื่อประกอบการออกใบอนุญาตประมงพาณิชย์ รอบปี 2565 – 2567 โดยมีหน่วยงานเข้าร่วมประกอบด้วย กรมประมง กรมเจ้าท่า กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ศูนย์รักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.)
ข่าวน่าสนใจ:
- ลำพูน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลำพูน จัดแข่งวิ่งเทรล LTR ท่ามกลางวิวเหมืองรูปหัวใจ
- อัยการคุ้มครองสิทธิ์ร้อยเอ็ด พาชาวบ้าน. บุกร้อง ป.ป.ช.หลังถูกเจ้าหน้าที่ ธ.ก.ส.หลอกขณะไปยื่นกู้ทำให้เป็นหนี้บาน
- นักท่องเที่ยวแห่ชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอก ที่จุดชมวิวหยุนไหล บ้านสันติชล ปาย แม่ฮ่องสอน
- 3 ร่างผู้เสียชีวิตรัวยิงยกครัวถูกลำเลียงมาถึงวัดแล้ว ด้านลูกชายผู้เสียชีวิต อโหสิกรรม ให้ผู้ก่อเหตุ
ตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 กำหนดให้เรือประมงพาณิชย์ที่จะออกทำการประมงต้องได้ใบอนุญาตจากกรมประมง คราวละ 2 ปี นับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 31 มีนาคม โดยได้ปฏิบัติต่อเนื่องกันมา 3 ครั้งแล้ว ได้แก่ ช่วงปี 2559 – 2561 ช่วงปี 2561 – 2563 และช่วงปี 2563 – 2565 โดยที่ใบอนุญาตทำการประมงกำลังจะสิ้นสุดอายุลงในวันที่ 31 มีนาคม 2565 เจ้าของเรือประมงพาณิชย์จึงต้องยื่นขอใบอนุญาตรอบใหม่ 2565 – 2567 ซึ่งกรมประมงจะต้องออกใบอนุญาตให้ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2565 ในการยื่นขอใบอนุญาตทำการประมงดังกล่าว ปกติกรมประมงจะดำเนินการตรวจสอบมาตรฐานเครื่องมือประมงและจัดเก็บข้อมูลเรือประมงทุกลำ แต่ยังมีข้อมูลบางประการที่ต้องการความรู้ ความชำนาญ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมเจ้าท่า กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน มาร่วมเติมเต็มให้ระบบตรวจสอบ ควบคุม และเฝ้าระวังการทำประมง มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นในการขอรับใบอนุญาตทำการประมงของเรือประมงพาณิชย์ครั้งนี้
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. จึงได้ประสานกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจเรือประมงพาณิชย์จากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งระบบ ครบวงจร โดยกรมประมงรับผิดชอบการตรวจมาตรฐานเครื่องมือประมง กรมเจ้าท่ารับผิดชอบการตรวจอัตลักษณ์เรือประมง และกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานรับผิดชอบการตรวจเรือประมงเพื่อส่งเสริมให้แรงงานบนเรือประมงมีสภาพการทำงานที่สอดคล้องตามกฎหมายว่าด้วยความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน
ยิ่งไปกว่านั้น พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. ยังได้จัดชุดปฏิบัติการจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือหน่วย “IUU Hunter” เข้าร่วมการตรวจเรือประมงในครั้งนี้ด้วย เพื่อยกระดับการติดตาม ควบคุม และเฝ้าระวัง (Monitoring Control and Surveillance : MCS) ให้การประมงไทย ปราศจากการประมง IUU ปราศจากแรงงานบังคับ ปราศจากการค้ามนุษย์ อย่างแท้จริง โดยดำเนินการตรวจเรือประมงพาณิชย์ 10,000 ลำ ที่จะขอรับใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม 2565 นี้ ซึ่งพี่น้องชาวเรือประมงพาณิชย์ทุกท่านสามารถนัดหมายการตรวจได้ที่ ศูนย์แจ้งเข้าออกเรือประมง (PIPO) หรือสำนักงานประมงจังหวัดทุกแห่ง
การบูรณาการตรวจเรือประมงทั้งระบบครั้งนี้ เป็นปฏิบัติการยกระดับประสิทธิภาพการตรวจสอบ ติดตาม และเฝ้าระวังการทำประมง (MCS) ของประเทศไทย เพื่อมุ่งสู่บทบาท “ผู้นำการต่อต้านประมง IUU ในภูมิภาคอาเซียน” นอกจากนั้นยังเป็นการขับเคลื่อนให้เห็นถึงความพยายามของประเทศไทยอย่างเต็มที่ในการบังคับใช้กฎหมาย ปรับปรุงระบบการทำงาน เพิ่มพูนความรู้ความสามารถของเจ้าหน้าที่ และประสานความร่วมมือจากพี่น้องชาวประมง เพื่อเลื่อนอันดับการค้ามนุษย์จาก Tier 2 Watchlist เป็น Tier 2
โดยจัดชุดกำลังชุดปฏิบัติการ IUU Hunter จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวนกว่า 100 นาย เข้าร่วมปฏิบัติการตรวจครั้งนี้ด้วย เจ้าหน้าที่ชุด IUU Hunter จะลงพื้นที่ทุกจุดตรวจใน 22 จังหวัดชายทะเล ร่วมกับ กรมประมง กรมเจ้าท่า และกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน และจากการที่ผมกำลังรื้อฟื้น สืบสวนสอบสวน ทุกคดีที่เกี่ยวข้องกับกรณีลูกเรือประมงตกน้ำสูญหาย 231 ราย ในรอบ 2 ปี ซึ่งเป็นที่จับตามองของภาคประชาสังคม เพื่อทำความกระจ่างให้เกิดขึ้นกับเหตุการณ์ความสูญเสียที่ผ่านมา ครั้งนี้ผมจึงได้จัดให้มีการตรวจเพื่อส่งเสริมมาตรฐานความปลอดภัย และอาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานบนเรือประมง ขึ้นเป็นครั้งแรกของภูมิภาคอาเซียน เพื่อแสดงความมุ่งมั่นตั้งใจของประเทศไทยที่จะแก้ไขปัญหา และกำหนดมาตรการส่งเสริม ป้องกัน มิให้เกิดเหตุขึ้นต่อไปในอนาคต แต่หากมีเหตุเกิดขึ้น การบังคับใช้กฎหมายจะมีความเป็นระบบ ชัดเจน สามารถนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้อย่างทันท่วงที รวมทั้งเพิ่มความรวดเร็วในการเยียวยาความเสียหายให้กับครอบครัวหรือญาติมิตร ในฐานะเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ซึ่งผมมั่นใจว่านี่คือการทำงานอย่างมาตรฐานสากล
ในการตรวจครั้งนี้ ท่านนายกรัฐมนตรี ท่านรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ในฐานะประธานกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติ ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกคน อำนวยความสะดวก ให้กับพี่น้องชาวประมง ดำเนินการตรวจให้รวดเร็ว คล่องแคล่ว ว่องไว เรือที่ผ่านการตรวจจะได้รับเครื่องหมายติดไว้บริเวณหน้าเก๋ง เป็นสัญลักษณ์ว่า เรือประมงลำนี้มีความมุ่งมั่น ตั้งใจที่จะทำการประมงอย่างยั่งยืน สามารถเข้าถึงนโยบายการสนับสนุนต่าง ๆ จากภาครัฐที่จะมีขึ้นต่อไปในอนาคต
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: