นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร พร้อมด้วยนายกิตติพงษ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมสามผู้ต้องหาชาวบราซิลลักลอบยาเสพติดประเภทโคเคน จำนวน 15.5 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 46.5 ล้านบาท เดินทางมาจากกูรีตีบา บราซิล ไปยัง เซาเปาโล บราซิล เพื่อต่อเครื่องที่โดฮา กาต้า มายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ทำการศุลกากรหน่วยปราบปรามยาเสพติดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร พร้อมด้วยนายกิตติพงษ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ศุลกากรชุดปราบปรามยาเสพติดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมสามผู้ต้องหาชาวต่างชาติเป็นชายและหญิง ชาวบราซิล พร้อมด้วยของกลางยาเสพติดประเภทโคเคน จำนวน 15.5 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 46.5 ล้านบาท ที่เดินทางมาจากกูรีตีบา บราซิล ไปยัง เซาเปาโล บราซิล เพื่อต่อเครื่องที่โดฮา กาต้า มายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทยด้วยสายการบินกาต้าแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ QR 830 และซุกซ่อนยาเสพติดมาในช่องลับบริเวณด้านล่างและด้านหลังของกระเป๋าเดินทางทรงอ่อน จำนวน 3 ใบ เป็นยาเสพติดประเภทโคเคนห่อหุ้มด้วยพลาสติกสีดำจำนวน 9 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 27 ล้านบาท นอกจากนี้ในวันเดียวกันเจ้าหน้าที่ศุลกากรชุดปราบปรามยาเสพติดประจำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ยังได้จับกุมผู้ต้องหาเป็นชายอายุ 24 ปี สัญชาติบราซิล ที่ซุกซ่อนยาเสพติดประเภทโคเคนห่อหุ้มด้วยพลาสติกสีดำ จำนวน 6.5 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 19.5 ล้านบาท ที่ซุกซ่อนมาในช่องลับกระเป๋าเดินทางทรงอ่อน จำนวน 2 ใบ ซึ่งได้เดินทางจากบราซิล ด้วยสายการบินกาต้าแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ QR 836 มายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยจับกุมได้บริเวณช่องตรวจศุลกากรชั้น 2 ไม่มีของต้องสำแดง (ช่องเขียว) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ทั้งนี้สืบเนื่องจากการบูรณาการกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอื่นทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง อาทิ ป.ป.ส. บช.ปส. ศรภ. หน่วยงานศุลกากรของไทยในต่างประเทศ ศุลกากรต่างประเทศ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สถานทูตต่าง ๆ องค์การตำรวจสากล (Interpol) สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (Drug Enforcement Administration: DEA) เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลการข่าว จนกระทั่งทราบว่าจะมีชาวต่างชาติลักลอบขนยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทยเพื่อเดินทางผ่านไปยังประเทศปลายทาง เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ ร่วมทั้งเจ้าหน้าที่ศุลกากรประจำทางอากาศยานสุวรรณภูมิ จึงได้ร่วมกันวางแผนเข้าทำการสกัดจับกุมและเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตราผู้โดยสารชาวต่างชาติเพิ่มมากขึ้น
จนกระทั่งในเวลา 07.00 น.ของวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 ได้พบสองชายหญิงชาวบราซิล ต้องสงสัยที่เดินทางมาจากกูรีตีบา บราซิล ไปยัง เซาเปาโล บราซิล เพื่อต่อเครื่องที่โดฮา กาต้า มายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทยด้วยสายการบินกาต้าแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ QR 830 พร้อมด้วยกระเป๋าเดินทางทรงอ่อนจำนวน 3 ใบ จึงนำเข้าเครื่องเอ็กซเรย์เพื่อตรวจสอบสิ่งของในกระเป๋าทั้ง 3 ใบได้พบวัตถุต้องสงสัยซุกซ่อนอยู่ในช่องลับด้านหลังและด้านล่าง จึงได้ทำการตรวจค้นได้พบยาเสพติดประเภทโคเคนที่ห่อหุ้มด้วยพลาสติกสีดำจำนวน 9 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 27 ล้านบาท จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองเอาไว้เพื่อทำการสอบสวน
ต่อมาในวันเดียวกันเวลาประมาณ 12.40 น.เจ้าหน้าที่ศุลกากรประจำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิก็สามารถจับกุมชายชาวบราซิล อายุ 24 ปี ได้อีก 1 รายที่ซุกซ่อนยาเสพติดประเภทโคเคนน้ำหนัก 6.5 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 19.5 ล้านบาท มาในช่องลับกระเป๋าเดินทางทรงอ่อนจำนวน 2 ใบ ซึ่งมีลักษณะเดียวกัน ที่เดินทางมาจากบราซิล ด้วยสายการบินกาต้าแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ QR836 เข้ามายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามมาตรา 242 มาตรา 166 และมาตรา 252 แห่ง พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 และพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ฐานลักลอบขนยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 โคเคน เข้ามาในราชอาณาจักรไทย และ มียาเสพติดประเภทที่ 1 โคเคน ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย ก่อนควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อทำการสอบสวนขยายผลติดตามจับกุมผู้รวมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
