แม่โร่แจ้งตำรวจพบลูกสาววัย 25 ปี เชื่อว่าถูกทำร้ายเนื่องจากที่ข้อมือทั้งสองข้างมีร่องรอยคล้ายถูกมัดด้วยเชือก ตามร่างกายมีร่องรอยคล้ายถูกซ้อมมาจนสะบักสะบอมจนใบหน้าบวมปูด และเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งจนเห็นหน้าอก เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ให้แม่พาลูกสาวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ
เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565 พ.ต.ท.กมล ศิลปะปัญญา สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีหญิงถูกทำร้ายที่บริเวณป่าละเมาะข้างทางภายในชุมชนบางโปรง ใกล้เคียงโรงพยาบาลตำบลบางโปรง หมู่ 3 ต.บางโปรง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและอาสามูลนิธิป่อเต็กตึ้งเดินทางเข้าตรวจสอบ
ข่าวน่าสนใจ:
- สูงวัยตรัง ปลื้ม เตรียมตัวรับเงินหมื่น ฝันใช้ยามแก่-ต่อยอดอาชีพบั้นปลาย
- ชวนชิม 'ศรีบุญเรือน' ร้านข้าวต้มต้นตำรับ สืบทอดสามรุ่น เสน่ห์ร้านข้าวต้มยามค่ำคืน ที่รวมอาหารจีน อาหารเหลา อาหารใต้ไว้ในร้านเดียว
- ตรัง สับปะรดทอด-ข้าวเม่าทอด ดาวเด่นประจำร้านสมพร รสชาติอร่อย ราคาเป็นกันเอง
- ค่ายรถยนต์ ผุดบูธเพิ่มช่องทางปั๊มยอดช่วงปลายปี หลังตลาดยังซบยาวต่อเนื่อง
ที่เกิดเหตุได้พบชาวบ้านกันช่วยเหลือ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 25 ปี ที่ถูกทำร้ายจนใบหน้าบวมปูดเสื้อขาดรุ่งริ่งจนเห็นหน้าอก และที่ข้อมือทั้งสองข้างมีร่องรอยคล้ายถูกมัดด้วยเชือก ตามร่างกายมีร่องรอยคล้ายถูกซ้อมมาจนสะบักสะบอม จากการสอบถามหญิงสาวคนดังกล่าวเบื้องต้นไม่สามารถให้การใด ๆ ได้พูดเพียงสั้น ๆ ว่าไม่รู้ คาดว่ายังอยู่ในอาการช็อกจนสับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่มูลนิธิได้ให้การปฐมพยาบาลก่อนนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ
จากการสอบถามแม่ของผู้บาดเจ็บ ได้เล่าว่า ก่อนหน้านี้ลูกสาวตนเคยติดสารเสพติดจนมีอาการทางสมองและต้องเข้ารับการรักษาพออาการดีขึ้นจึงกลับมาอยู่บ้าน ส่วนตนก็ต้องออกไปทำงาน ที่ผ่านมาบุตรสาวก็มักจะออกมาเดินเล่นในละแวกบ้านเป็นประจำ แต่ก็ไม่คิดว่าเกิดเรื่อง จนกระทั่งเมื่อช่วงหัวค่ำที่ผ่านมาตนได้เห็นลูกสาวเดินกลับมาที่บ้าน แต่ตนเห็นสภาพของลูกสาวที่อยู่ในสภาพเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งจนเห็นหน้าอกใบหน้าบวมปูดและเขียวช้ำตามร่างกาย และที่ข้อมือก็มีร่องรอยคล้ายถูกมัดด้วยเชือกทั้งสองข้าง ด้วยความตกใจตนจึงรีบเปลี่ยนเสื้อให้และพยายามสอบถามว่าใครเป็นคนทำ แต่ลูกสาวตนบอกว่าไปล้มมาแต่ตนไม่เชื่อ เนื่องร่องรอยที่ใบหน้าและตามลำตัวรวมทั้งเสื้อที่ขาดโดยเฉพาะร่องรอยที่ข้อมือทั้งสองข้างที่เป็นรอยคล้ายถูกมัดด้วยเชือก และมีอาการเจ็บหน้าอก แต่ลูกตนก็ยังยืนยันว่าไปหกล้มมา ไม่มีใครทำ แต่ตนไม่เชื่อเพราะอยู่ในสภาพแบบนั้นใครจะเชื่อ และเพื่อนบ้านได้มาบอกว่า เมื่อช่วงหัวค่ำขณะที่น้องชายขับรถไปซื้ออาหารสุนัขที่ปากซอยวัดสวนส้ม ได้พบเห็นน้องคนนี้วิ่งออกมาจากซอยปลาป่น ในสภาพถูกมัดมือตาบวมและมีผู้ชายวิ่งไล่ตามมาจำนวน 2 คน เหมือนว่าจะมาจับตัวลูกสาวตนกลับไปอีกหรือเปล่าไม่รู้ และอาจถูกคนร้ายฉุดไปหวังข่มขืนด้วยหรือไม่นั้นยังไม่ทราบ เพราะเพราะสมองเขาไม่ดี ได้แต่บอกว่าตนเองไปล้มมาอย่างเดียว ตนจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ
ขณะที่เพื่อนบ้านได้ให้ข้อมูลว่า เมื่อช่วงหัวค่ำน้องชายตนขับรถออกไปซื้ออาหารสุนัขปากซอยวัดสวนส้มได้เห็นน้องคนนี้ วิ่งออกมาจากซอยปลาป่น ถูกมัดที่ข้อมือ ใบหน้าบวมปูด น้องชายตนได้มาบอกให้ตนโทรไปบอกแม่ของน้อง กระทั่งมาทราบอีกครั้งว่าน้องกลับมาถึงบ้านแล้ว ซึ่งจากสภาพที่เห็นสอดคล้องกับคำบอกของน้องชายมั่นใจว่าถูกทำร้ายร่างกายแน่แน่นอน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ให้แม่พาลูกสาวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ เพื่อตรวจหาร่องรอยว่าถูกข่มขืนหรือไม่ หลังจากนั้นจะทำการสอบปากคำเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพื่อหาหลักฐานในการติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: