ความคืบหน้า เหตุไฟไหม้โรงงานผลิตกระดาษย่านถนนท้ายบ้าน หลังเปลวเพลิงปะทุ ล่าสุดสกัดได้แล้ว เจ้าหน้าที่ดับเพลิง ยังคงฉีดน้ำเลี้ยงไม่ให้เพลิงปะทุขึ้นมาอีก
จากกรณีเหตุเพลิงไหม้กองกระดาษอัดก้อนภายในบริษัท พี.ซี.ไอ. อุตสาหกรรมกระดาษ จำกัด เลขที่ 247 หมู่ 2 ถนนท้ายบ้าน หมู่ 2 ตำบลท้ายบ้าน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ที่เก็บอยู่กว่า 1 หมื่นตัน เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 21 พฤศจิกายน 2561 เจ้าหน้าที่ดับเพลิงพยายามดับเปลวไฟนานกว่า 30 ชั่วโมง ใกล้จะสำเร็จเหลือเพียงดับเชื้อปะทุในก้อนกระดาษ แต่เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมาได้เกิดมีฝนตกและมีลมพัดแรงทำให้เปลวไฟเกิดการปะทุลุกไหม้ขึ้นมาอีกกินพื้นที่กว้างกว่า 50 x 30 เมตร ต้องระดมกำลังเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่าง ๆ พร้อมไฟส่องสว่าง เข้าฉีดน้ำเพื่อดับเปลวไฟอีกครั้ง โดยใช้รถแบคโฮลุยกองเพลิงเข้าไปแยกก้อนกระดาษออกจากกันทีละก้อน ทำให้การดับเปลวไฟเป็นไปอย่างล่าช้า จนกระทั่งในช่วงสายของวันนี้จึงสามารถดับเปลวเพลิงที่เกิดปะทุลุกไหม้ขึ้นมาได้ สถานการณ์ทั่วไปกลับคืนเข้าสู่สภาวะปกติ เหลือเพียงกลุ่มควันที่พวยพุ่งออกมาจากก้อนกระดาษ ที่ยังคงมีเปลวไฟลุกไหม้อยู่ภายในก้อนกระดาษดังกล่าวเท่านั้น
ข่าวน่าสนใจ:
ล่าสุดเมื่อช่วงเที่ยงของวันนี้ที่ 23 พฤศจิกายน 2561 นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เดินทางเข้าติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับการดับเชื้อปะทุที่โรงงานดังกล่าว พร้อมสั่งการให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอกำลังคนเข้าเร่งดับเชื้อปะทุในกองกระดาษให้ได้โดยเร็ว หวั่นหากเกิดลมกระโชกแรงอีก จะทำให้เกิดเปลวไฟลุกไหม้ขึ้นมาอีก ก็จะกลายเป็นปัญหาซ้ำซากที่ไม่มีวันจบ
ขณะเดียวกันทางด้านผู้บริหารโรงงานที่เกิดเหตุ ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบริษัท ทำการปิดกั้นไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้าบันทึกภาพทำข่าวการดับเชื้อปะทุภายในที่เกิดเหตุ โดยอ้างว่าโครงสร้างเกิดการทรุดตัวต่อเนื่องเกรงจะเกิดอันตราย
ด้าน พ.ต.อ.ปรีชา เอี่ยมนุ้ย ผู้กำกับการสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานยังไม่สามารถเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุได้เนื่องจากไฟที่ลุกไหม้ยังดับไม่สนิท ต้องรอให้ไฟดับสนิทเสียก่อนถึงจะสามารถเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุได้ คาดว่าน่าจะเข้าตรวจสอบได้ในสัปดาห์หน้า ส่วนในเรื่องคดี ตนได้กำชับพนักงานสอบสวนไปแล้วให้นำพยานที่เห็นเหตุการณ์มาสอบปากคำเอาไว้บ้างแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนสาเหตุคงต้องรอกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเสียก่อนถึงจะสามารถระบุได้ว่าเกิดจากอะไร
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: