โชเฟอร์รถหกล้อตู้ทึบ พุ่งชนท้ายรถบรรทุกสิบล้อ กลางสะพานข้ามถนนเทพารักษ์ จากหน้าคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ มุ่งหน้าถนนเทพรัตน ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ คนขับติดคาซากรถ
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถบรรทุกหกล้อตู้ทึบชนท้ายรถบรรทุกสิบล้อจอดอยู่บนสะพานข้ามถนนเทพารักษ์จากหน้าคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ มุ่งหน้าถนนเทพรัตน ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ มีผู้บาดเจ็บติดอยู่ภายใน หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งพร้อมเครื่องตัดถ่างเดินทางเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกหกล้อตู้ทึบสีขาว ทะเบียน 62-7806 กรุงเทพมหานคร ชนท้ายรถบรรทุกสิบล้อยี่ห้อ ฮีโน่ สีขาว ทะเบียน 52-5901 กรุงเทพมหานคร ที่จอดอยู่กลางสะพานข้ามถนนเทพารักษ์มุ่งหน้าถนนเทพรัตน โดยมีผู้บาดเจ็บติดอยู่ภายในซากรถบรรทุกหกล้อซึ่งเป็นคนขับ เจ้าหน้าที่มูลนิธิได้ช่วยกันใช้เครื่องตัดถ่างทำการตัดโครงเหล็กซากรถก่อนช่วยเหลือนำร่างผู้บาดเจ็บออกมาได้ ทราบชื่อนายนิรุต แก้วม่วงพะเนา อายุ 44 ปี ชาวจังหวัดนครราชสีมา ได้รับบาดเจ็บที่ขาทั้งสองข้าง มูลนิธิเร่งนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลเปาโลสมุทรปราการ
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุรถบรรทุก 10 ล้อคันดังกล่าวจอดอยู่กลางสะพานในเลนซ้าย และคนงานอยู่ระหว่างทำงานวางท่อร้อยสายไฟลงใต้ดิน โดยมีการวางกรวย และป้ายสัญญาณเตือนไว้ที่ท้ายรถ โดยเปิดให้รถสามารถวิ่งได้ที่เลนขวาเพียงเลนเดียว ระหว่างนั้นรถบรรทุก 6 ล้อ คันดังกล่าวได้วิ่งขึ้นมาบนสะพานด้วยความเร็ว ฝ่าแนววางกรวยและป้ายเตือน พุ่งชนท้ายรถบรรทุก 10 ล้อ เข้าอย่างแรงเสียงดังสนั่น ทำให้คนขับรถหกล้อถูกคอนโซนหน้ารถทับเข้าที่ขาทั้งสองข้างติดภายใน ขณะที่หัวหน้างานของผู้บาดเจ็บบอกว่า ได้รับแจ้งจากผู้บาดเจ็บทางโทรศัพท์ ว่าขับรถชนท้ายรถบรรทุก จึงรีบออกมาดู โดยผู้บาดเจ็บขับรถบรรทุกออกมาจากโรงงานย่านคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ มุ่งหน้าไปรับสินค้าที่สนามบินสุวรรณภูมิ ก่อนมาประสบอุบัติเหตุดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าระหว่างที่ผู้บาดเจ็บขับรถเพื่อจะรีบไปรับสินค้าโดยไม่ทันสังเกตว่ามีการวางกรวยและมีป้ายสัญญาณวางเตือนอยู่ทางด้านซ้ายจึงขับขึ้นสะพานมาด้วยความเร็ว แต่พอมาเห็นสัญญาณและกรวยตั้งอยู่ในเลนซ้ายจึงหักหลบไม่ทันเนื่องจากขวามีรถวิ่งอยู่จึงพยายามเบรกแต่เอาไว้อยู่จึงพุ่งชนท้ายเข้าอย่างจัง อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้ทำการสอบสวนเพิ่มเติมอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
