แม่หอบหลักฐานวงจรปิดร้องขอความเป็นธรรมต่อ ด๊อกเตอร์ เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความชื่อดัง หลังลูกสาววัย 9 ขวบถูกพ่อเลี้ยงลวงไปข่มขืนขณะที่แม่ไปกักตัวโควิด
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 มีนาคม 2565 น.ส.พร (นามสมมุติ) อายุ 26 ปี แม่ของ เด็กหญิง เอ ได้หอบหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิด เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับ ด๊อกเตอร์ เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความชื่อดังของจังหวัดสมุทรปราการ หลังจากที่ทราบเรื่อง เด็กหญิงเอ ซึ่งเป็นบุตรสาวถูกนาย ฮอล อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงข่มขืน ขณะที่ตัวเองไปกักตัวโควิดที่โรงพยาบาลร่วมชัยประชารักษ์ หลังเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.บางเสาธง แล้วเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงเข้าขอความช่วยเหลือจาก ทนายเกรียงศักดิ์ หลังตรวจสอบหลักฐานแล้วจึงเดินทางเข้าสอบถามข้อเท็จจริงกับเด็กหญิงเอ ซึ่งอยู่ระหว่างกักตัวเนื่องจากติดโควิดอยู่กับป้าที่บ้านพักหลังหนึ่งในตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่ง น.ส.พร ได้เล่าว่า ลูกสาวตนกำลังเรียนอยู่ ชั้น ป.3 อายุ เพียง 9 ขวบ ถูกสามีใหม่ของตนที่เพิ่งอยู่กินกันมาได้ 3 ปี ที่มีชื่อเล่นว่านายฮอล หลอกไปข่มขืนที่ห้องเช่าภายในซอย ซี 3 เคหะบางพลีโครงการ 3 หลังก่อเหตุได้หลบหนีไป
ข่าวน่าสนใจ:
โดย ด.ญ.เอ ได้เล่าว่า ในวันนั้นหลังจากที่พ่อเลี้ยงพาไปแต่ไม่ได้พาไปหาหมอ แต่กลับพามาที่ห้องเช่า ซึ่งอยู่ในเคหะบางพลีโครงการ 3 หลังจากนั้นก็ให้ตนกินยาและเกิดอาเจียน เขาก็มาเช็ดตัวให้ก่อนที่ถอดเสื้อของตนออกและเอามาปิดตาตนเอาไว้ และถอดกางเกงของตนออกและยกขาทั้งสองข้างของตนขึ้นพาดบ่าและก็รู้สึกว่ามีอะไรมาโดนของตนรู้สึกเจ็บมากจนตนก็ร้องไห้ เขาบอกว่าไม่ต้องร้องเดี๋ยวก็หายไข้เขาทำอยู่ประมาณ 10 นาที ก่อนที่จะเอาผ้ามาเช็ดของตนให้ และพามาส่งที่บ้าน
ด้านป้าของ ด.ญ.เอ เปิดเผยว่า หลังจากที่ก่อนหน้านี้แม่ของน้องติดโควิดและไปรักษาตัวอยู่นั้นจนมาวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา น้องเริ่มมีอาการตัวร้อน ตนจึงบอกให้คุณตาพาน้องไปตรวจโควิด แต่ทางคุณตาให้หลานเขย ก็คือพ่อเลี้ยงของน้องพาไปแทน จนช่วงสายของวันที่ 10 มีนาคม นายฮอล ก็มาพาน้องออกไปโดยอ้างว่าจะไปหาหมอ ซึ่งตนยังให้เงินไปด้วย จากนั้นก็หายไปพักใหญ่ก็กลับเข้ามา ทำเนียนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ตนเห็นผิดสังเกตที่น้องมีอาการซึมลงผิดปกติพอเรียกจะถามนายฮอล ก็มองหน้าคล้ายขู่น้อง จนกระทั่งนายฮอล ออกจากบ้านไปน้อง จึงมาเล่าให้ฟังว่านายฮอล ไม่ได้พาไปหาหมอแต่พาไปห้องพักแทนแล้วให้กินยาแต่น้องอ้วกออกจึงจับน้องถอดเสื้อผ้าและกางเกงออกหมดก่อนจะนำเสื้อมาปิดหน้าน้องแล้วก่อเหตุข่มขืนจนน้องร้องไห้และบอกกับน้องห้ามบอกใครเด็ดขาด ตนเองพอทราบเรื่องจึงรีบโทรบอกแม่น้องที่กักตัวโควิดอยู่ที่โรงพยาบาล
น.ส.พร ผู้เป็นแม่ ได้กล่าวว่า หลังทราบเรื่องได้โทรหาแฟนหนุ่ม เพื่อสอบถามแต่เจ้าตัวปฎิเสธ ตนจึงขอทางคุณหมอ ออกจากการกักตัวเพื่อมาดูบุตรสาว และกลับมาดูที่ห้องเช่าก็ไม่พบหน้าแฟนหนุ่มแล้ว และสอบถามลูกสาวถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งลูกสาวบอกว่าถูกกระทำจริง ตนจึงย้อนกลับไปที่ห้องพักที่เคหะบางพลีพบว่ามีกล้องวงจรปิดของห้องพักจับภาพได้ชัดเจน ว่าแฟนหนุ่มพาบุตรสาวเข้าห้องจริงและหายไปราว 30 นาที ก่อนจะพาออกมา ตนจึงมั่นใจว่าเหตุเกิดขึ้นจริงจึงพาบุตรสาวไปแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางเสาธง แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวลูกสาวตนให้มาตรวจหาร่องรอยที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในย่านบางเสาธง ที่ทางโรงพยาบาลตรวจไม่ได้ต้องไปตรวจที่โรงพยาบาลบางพลี หรือโรงพยาบาลสมุทรปราการ และไม่มีรถไปส่ง จนเจ้าหน้าที่ต้องประสานให้รถกู้ภัยช่วยนำตัวน้องไปตรวจที่โรงพยาบาลบางพลี และอยู่ระหว่างผลการตรวจสอบของโรงพยาบาล แต่ตนเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงเข้าร้องเรียนต่อทนายเกรียงศักดิ์ และสื่อมวลชน
ด้าน ทนาย เกรียงศักดิ์ ได้กล่าวว่า สำหรับคดีนี้ หลังจากที่ตนได้รับการขอความช่วยเหลือก็ลงพื้นที่มาตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งจากการพูดคุยกับผู้เสียหายพบว่าการกระทำของพ่อเลี้ยงรายนี้เป็นการกระทำที่เลวร้ายสำหรับครอบครัวนี้ แถมยังอาศัยช่วงที่มารดาไปรักษาโควิด อีกทั้งน้องเองก็ติดโควิดแต่กลับถูกหลอกไปกระทำชำเราแทนที่จะไปหาหมอตรวจและรักษา ตนจึงลงพื้นที่เก็บข้อมูลและหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อส่งให้ทางพนักงานสอบสวนและพาผู้เสียหายเข้าพบพนักงานสอบสวนที่โรงพัก สภ.บางเสาธง เพื่อให้เร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับตัวผู้ก่อเหตุรายนี้ ส่วนน้องซึ่งขณะนี้อยู่ในอาการหวาดผวาและมีสภาพจิตใจที่ย่ำแย่จึงต้องประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาดูแลทั้งเรื่องของโควิดและสภาพจิตใจ ส่วนทางคดีมั่นใจในพยานหลักฐานและพนักงานสอบสวนจะสามารถขออนุมัติหมายจับ และติดตามจับกุมตัวพ่อเลี้ยงรายนี้มาดำเนินคดีได้ในเร็ววันนี้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: