เด็กช่าง วัย 20 ปี ถูกกลุ่มวัยรุ่น จำนวน 3 คน รุมทำร้าย ก่อนชักมีดออกมาจี้บังคับเอาแหวนรุ่นและหมวก ขณะยืนกดเงินอยู่ที่ตู้เอทีเอ็มหน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ปากซอยบางโปรง ซอย 2 ต.บางโปรง อ.เมืองสมุทรปราการ
วันที่ 13 มีนาคม 2565 นายณัฐวัฒน์ เพ็งจันทร์ อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้น ปวส.2 สาขาช่างไฟฟ้า วิทยาลัยเทคนิคสมุทรปราการ นำภาพคลิปกล้องวงจรปิด เข้าร้องเรียนกับสื่อข่าว เพื่อให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัวกลุ่มวัยรุ่นจำนวน 3 คน ที่เข้ามารุมทำร้ายตน ขณะกำลังยืนกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม หน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ปากซอยบางโปรง ซอย 2 ต.บางโปรง อ.เมืองสมุทรปราการ โดยเหตุเกิดช่วงประมาณเที่ยงคืนวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา
ข่าวน่าสนใจ:
- ชายวัย 62 ยืมมอไซค์เพื่อนจะไปรับแฟนมากินข้าวด้วยกัน เกิดเฉี่ยวชนกับรถพ่วงถูกล้อทับดับคาที่
- ชวนชิม 'ศรีบุญเรือน' ร้านข้าวต้มต้นตำรับ สืบทอดสามรุ่น เสน่ห์ร้านข้าวต้มยามค่ำคืน ที่รวมอาหารจีน อาหารเหลา อาหารใต้ไว้ในร้านเดียว
- ตร.น้ำกระบี่ บุกรวบ 3 ลูกเรือประมง ยึดยาบ้า พบมั่วสุมเสพ ก่อนออกจับปลา
- ขาดสภาพคล่องขั้นรุนแรง! อธิบดีกรมท่าฯ ร่อนนส.ด่วน! แจ้งบอกเลิกสัญญาทิ้งงานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารสนามบินตรัง 1.2 พันล.แล้ว…
นายณัฐวัฒน์ ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านพัก ซึ่งอยู่ภายในซอยบางโปรง 2 เพื่อมากดเงินสดที่ตู้เอทีเอ็ม แต่ระหว่างยืนกดเงินที่ตู้ จู่ ๆ ได้มีชายวัยรุ่น 3 คน ขี่รถจักรยานยนต์มาสองคัน เข้ามาจอดที่หน้าร้านสะดวกซื้อ ก่อนที่วัยรุ่นสองคนจะเข้ามากระชากคอเสื้อตนและถามว่า เรียนที่ไหน ตนตอบไปว่าเรียนจบแล้ว แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุไม่ยอมฟังเข้ามาชกต่อยตนพร้อมกับใช้เท้าเตะจนปากแตกใบหน้าเขียวช้ำ ทั้งนี้หนึ่งในผู้ก่อเหตุยังได้ชักมีดออกมาจี้บังคับเอาแหวนรุ่นและหมวก ที่ตนสวมใส่อยู่ติดมือไปด้วย ตนเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย เนื่องจากฝ่ายตรงข้ามมีอาวุธ จึงไม่ได้ตอบโต้ หลังก่อเหตุทั้งหมดได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว จนรุ่งเช้าตนจึงเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ และไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่เกรงว่าจะไม่ปลอดภัยเนื่องจากกลุ่มที่ก่อเหตุยังไม่ถูกจับกุม จึงนำภาพวงจรปิดเข้าร้องกับผู้สื่อข่าว เพื่อเร่งให้ตำรวจติดตามตัวมาดำเนินคดีโดยเร็ว ทั้งนี้ตนยืนยันว่าไม่เคยมีเรื่อง และรู้จักกับกลุ่มที่ก่อเหตุมาก่อน แต่เชื่อว่าน่าจะเป็นนักเรียนคู่ขัดแย่งต่างสถาบัน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: