สาวชาวบุรีรัมย์ ขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านหลังเลิกงาน ระหว่างทางได้ขี่รถไปจ่ายค่าบัตรเครดิต ก่อนจะถูกคนร้ายตามฉกกระเป๋าสตางค์ ขณะจอดรถลงไปซื้อยา ในร้านขายยาหน้าปากซอยบ้าน สูญเงินกว่าหมื่นบาท วอนเจ้าหน้าที่ตำรวจตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 29 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือ จากนางสาววิลัยพร บางพิมาย ว่าถูกคนร้ายขโมยกระเป๋าสตางค์ ซึ่งภายในมีเงินสด 1 หมื่นบาท และเอกสารสำคัญหลายรายการ พร้อมมอบคลิปกล้องวงจรปิด ซึ่งภายในปรากฏภาพของผู้เสียหายที่ขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปในซอย ห่างกันไม่ไกลได้มีชายรูปร่างใหญ่ ขี่รถจักรยานยนต์ ทรงรถป๊อบ ตามหลังเข้ามาในซอย ผ่านไปไม่ได้ ชายดังกล่าวได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากซอย โดยมีผู้เสียหายตามมาหลังมา
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปพูดคุยกับนางสาววิลัยพร ซึ่งเป็นผู้เสียหาย ที่บ้านพักแห่งหนึ่งย่านบางเสาธง สมุทรปราการ โดยผู้เสียหาย เล่าว่า ตัวเธอทำงานเป็นพนักงานโรงงานย่านบางเสาธง วันเกิดเหตุคือวันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา เธอเลิกงานและแวะร้านสะดวกซื้อที่ริมถนนเทพารักษ์กม 26 เพื่อจ่ายค่าบัตรเครดิต ระหว่างนั้นสังเกตเห็นชายคนหนึ่งยืนมองเธออยู่ เธอก็ไม่ได้เอะใจอะไร จนกระทั่งออกมาจากร้านสะดวกซื้อและนำกระเป๋าใส่ไว้ใต้เบาะและขับรถกลับบ้าน ก่อนถึงบ้านจึงแวะร้านขายยาและเข้าไปซื้อยาโดยที่เธอลืมถอดกุญแจรถไปด้วยพอออกมาจากร้านก็เห็นว่ามีชายคนหนึ่งกำลังปิดเบาะรถเธอพอมาดูที่เบาะก็พบว่ากระเป๋าหายไปแล้วพยามขับไล่ตามแต่ก็ไม่ทัน จึงไปขอกล้องวงจรปิด อบต.บางเสาธง พบว่าคนร้ายติดตามเธอมาตั้งแต่ร้านสะดวกซื้อจนเข้าซอยบ้าน ซึ่งจากภาพวงจรปิดจะเห็นว่าเธอขับรถจักรยานยนต์สีขาวมาตามถนนเทพารักษ์แล้วเลี้ยวเข้าซอยบ้านโดยมีคนร้ายชายหนึ่งคนรูปร่างท้วมขี่รถจักรยานยนต์คันหนึ่งไม่ติดป้ายทะเบียนขับตามหลังเธอมาและหลังก่อเหตุได้ขับออกจากซอยหลบหนีไป ซึ่งเธอได้เข้าแจ้งความกับทางตำรวจ สภ.บางเสาธง แล้ว ด้วยความที่เงินจำนวนดังกล่าวกว่าหมื่นบาทสำคัญกับเธอมากทั้งค่างวดรถค่าไฟรวมถึงเงินที่ต้องไว้ซื้อกิน และบัตรเครดิตอีกหลายใบจึงอยากให้ตำรวจช่วยติดตามทรัพย์สินมาคืนให้จึงออกมาร้องนักข่าวในครั้งนี้
