ตำรวจบางพลีโชว์ผลงานรวบหนุ่มหนองคายขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า ฟีโน่ สีเขียว-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ตระเวนก่อเหตุกระชากสร้อยทองวันเดียว 3 ราย ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวได้ที่หน้าตึก 1 เอื้ออาทรเทพารักษ์ 3 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 30 มีนาคม 2565 พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.บางพลี สมุทรปราการ พร้อมกำลังชุดสืบสวนได้ร่วมกันคุมตัวนายสุพิศ หรืออาท เปล่าขำ อายุ 30 ปี จังหวัดหนองคาย ผู้ต้องหา วิ่งราวทรัพย์ หมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 200 / 65 ลงวันที่ 30 มีนาคม 2565 มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณตลาดเรือบิน ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ และอีกหลายแห่ง
ข่าวน่าสนใจ:
- นนทบุรี หนุ่ม 16 ขับเบนช์ เสียหลักเหินขึ้นไปคาอยู่บนรถ 6 ล้อรอดตายปาฏิหาริย์
- สอ.สามัญศึกษาเพชรบูรณ์ประชุมใหญ่ โชว์กำไร 52 ล้าน พร้อมเลือกตั้งกรรมการและผู้ตรวจสอบกิจการ
- ชายวัย 50 ปี เปลี่ยนถังแก๊สเอง จุดเตาทำกับข้าวไฟพรึ่บคลอกเจ็บหนัก
- ชมรมโฮปฯ ร่วมกับชุมชน จัดกิจกรรม ซานตาโฮป แจกของขวัญให้กับเด็กในชุมชนกว่าพันชิ้น
ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี ได้รับแจ้งมีคนร้ายเป็นชาย 1 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า ฟีโน่ สีเขียว-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ก่อเหตุ วิ่งราวทรัพย์ สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 1 บาท ที่บริเวณร้านขายของส่ง ตลาดเรือบิน แต่คนร้ายไม่ได้ทรัพย์สินไปเนื่องจากผู้เสียหายสามารถจับสร้อยคอไว้ได้ทัน หลังก่อเหตุคนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์กลับไปที่ห้อง ก่อนที่จะออกไปก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 1 บาท ที่บริเวณเอื้ออาทรเทพารักษ์ 3 ตึก 27 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งคนร้ายได้ทรัพย์สินบางส่วนไป และในคืนเดียวกันคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์กลับมาก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ สร้อยคอทองคำ หนัก 1 บาท ที่บริเวณหน้าร้านปราโมทย์การเกษตร ตลาดเรือบิน ซึ่งเป็นช่วยเวลาที่มีคนเดินพลุกพล่าน ได้สร้อยคอทองคำไปทั้งเส้น ก่อนที่จะนำทองทั้งหมด 1 บาทกว่า ไปขายโรงรับจำนำ ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวได้ที่หน้าตึก 1 เอื้ออาทรเทพารักษ์ 3 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ นายสุพิศ (ผู้ต้องหา) ให้การรับสารภาพ อ้างว่านำเงินไปจ่ายหนี้สิน
พ.ต.อ. วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.บางพลี เปิดเผยว่าสำหรับคนร้ายรายนี้หลังก่อเหตุแบบไม่เกรงกลัวกฎหมายและมีการก่อเหตุต่อเนื่องในวันเดียวกันถึง 3 ราย ถือเป็นภัยสังคมจึงต้องเร่งติดตามจับกุมตัวให้ได้โดยเร็ว จนกระทั่งฝ่ายสืบสวนสามารถตามจับกุมตัวได้ที่ห้องพักดังกล่าว ซึ่งผู้ต้องหาได้ทรัพย์สินไปเป็นสร้อยคอทองคำรวมแล้วน้ำหนักบาทกว่า เนื่องจากสร้อยขาดขณะก่อเหตุ หลังได้สร้อยไปก็นำไปขายที่โรงรับจำนำได้เงินมากว่าสองหมื่นบาท อ้างว่าไม่มีเงินใช้ ตกงาน จึงลงมือก่อเหตุเพื่อหาเงินมาใช้จ่าย ซึ่งอ้างว่าก่อเหตุวันแรก และทำถึง 3 จริง จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรไม่พบประวัติเคยก่อเหตุ แต่ก็ยังไม่ปักใจเชื่อ จึงฝากประชาสัมพันธ์หากผู้เสียหายรายได้เคยถูกผู้ต้องหารายนี้พยามก่อเหตุหรือถูกก่อเหตุให้มาชี้ตัวที่ สภ.บางพลี และฝากเตือนประชาชนที่ชอบใส่เครื่องประดับทรัพย์สินมีค่าต่างๆต้องเพิ่มความระมัดระวังตัวเนื่องจากปัจจุบันคนร้ายไม่เลือกเหยื่อหรือสถานทีในการลงมือ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกลางตลาดนั้นในชุมชนซึ่งมีผู้คนพุกพล่านทำให้เห็นว่าปัจจุบันคนร้ายไม่ได้เกรงกลัวต่อกฎหมายจึงอยากฝากเตือนประชาชนให้ระวังตัวมากขึ้น
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: