ผู้เสียหายได้มีการเจรจากับคนขับแท็กซี่ซึ่งได้ตกลงค่าเสียหายกันอยู่ 2 หมื่นบาท แต่คนขับแท็กซี่ ขอแบ่งจ่ายซึ่งจ่ายมาแล้ว 5 พันบาท และนัดจ่ายครั้งที่2 แต่ไร้เงาแท็กซี่หัวร้อนที่ถูกต่อว่าจอดรถกีดขวางการจราจรขับรถพุ่งชนจักรยานยนต์ 2 ครั้งซ้อน และไม่สามารถติดต่อได้
จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก เจ๊ม้อยv + ได้โพสต์ข้อความ “#แท๊กซี่จงใจขับชนเหมือนจะเหยียบซ้ำ เป็นสิ่งที่ไม่ ควรทำอย่างยิ่ง อันตรายถึงชีวิตมีปัญหาก็ควรจะคุย ด้วยดี ทำเช่นนี้ไม่สมควรค่ะ แค่บีบแตรไปหนึ่งครั้งคับพี่ เขาก็ลดกระจกมาด่าบีบหาพ่..มรึงเหรอ ผมก็บอกดี ๆ ว่าจอดไม่ได้แค่นั้น พอผมขึ้นคล่อมมอไซรเขาก็ขับมาชนเลยตามคลิปคับพี่ เหตุเกิดที่ปากซอยกิ่งแก้ว 37 วันอาทิตย์ที่ 20 ตอนบ่าย 4 โมงเย็น บาดเจ็บ 1 มีแผลที่หัวเข่าทั้งสองข้าง คับพี่” พร้อมคลิป วีดีโอ ความยาว 1.11 นาที ซึ่งในคลิปปรากฏภาพ แท็กซี่ สีเหลือ-เขียว จอดรถในลักษณะเฉียงท้ายรถโผล่ออกไปเลนกลาง ก่อนรถจักรยานยนต์ซึ่งมีคนมากับรถ 2 คน ขับมาจอดด้านหน้ารถ ก่อนที่ทั้งคู่จะลงจากรถเดินไปคุยกับคนขับแท็กซี่ แล้วเดินกลับมาขึ้นรถจักรยานยนต์ ก่อนที่รถแท็กซี่จะขับรถพุ่งชนรถจักรยานยนต์จนทั้งคนและรถล้มไปกับพื้น คนขี่รถจักรยานยนต์ตั้งหลักได้จึงได้วิ่งไปพยายามเปิดประตูรถแท็กซี่ ซึ่งกำลังขับถอย ส่วนคนซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ยังคงนั่งเจ็บอยู่พื้นถนน ก่อนที่รถแท็กซี่จะขับพุ่งชนอีกครั้ง คนเจ็บที่นั่งอยู่กับได้กลิ่งตัวหลบรถ ก่อนที่คนขี่รถจักรยานยนต์จะมาช่วยพยุงหนี ก่อนที่คนขี่รถจักรยานยนต์จะเดินกลับไปเปิดประตูรถแท็กซี่พยายามดึงตัวคนขับรถแท็กซี่ลงมาจากรถก่อนที่คลิปจะตัดไป ในส่วนคลิปที่สองที่ผู้สื่อข่าวได้รับมาจากผู้เสียหาย เป็นภาพที่ต่อจากคลิปที่เผยแพร่ในเพจดังกล่าว ซึ่งเป็นภาพขณะที่ไรเดอร์ได้เข้ามาห้ามคนขี่รถจักรยานยนต์ที่กำลังพยายามดึงตัวคนขับแท็กซี่ออกมาจากรถก่อนจะหันเดินไปดูคนเจ็บ ก่อนที่คนขับแท็กซี่จะปิดประตูรถและเร่งเครื่องหนีไป
ข่าวน่าสนใจ:
- นราธิวาส-กรรมกำลังทำงาน - ปมสังหาร "นายกอาร์ม"
- ผู้ว่าตรังสั่งซ่อมด่วนหลังคาท่าเรือปากเมง หวั่นอันตรายนทท. กระทบภาพลักษณ์จว. ลั่นพร้อมออกเงินส่วนตัว 2.3 หมื่นค่าวัสดุ…
- เปิดฉาก! สีฐานเฟสติวัล 2024 ลอยกระทงปีนี้ที่ มข.แบบ “วิถีแห่งอีสาน สีฐานมูเตลู”
- สมเด็จพระสังฆราช โปรดประทานผ้าพระกฐินทอดถวาย ณ วัดเขาไกรลาศ หัวหิน
ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ที่ 31 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ เพื่อพบกับนายสมพร เยาวสังข์ อายุ 46 ปี และนางสาวจันทร์ธิมา ออนรอด อายุ 45 ปี สองสามีภรรยา ซึ่งได้เดินทางมาพบ พ.ต.ท.ฐานธิษณ์ แดนราศี สารวัตรสอบสวน สภ.บางแก้ว ซึ่งเป็นเจ้าของคดี เพื่อสอบถามถึงความคืบหน้าของคดี หลังนายชาญชัย อังศุวรพฤกษ์ คนขับรถแท็กซี่ หลังจากเข้ามาเจรจากันได้แค่ครั้งแรก ซึ่งได้ตกลงค่าเสียหายกันอยู่ 2 หมื่นบาท แต่นายชาญชัย ขอแบ่งจ่ายซึ่งจ่ายมาแล้ว 5 พันบาทแรก พอนัดเจรจาในครั้งที่สอง นายชาญชัย ไม่ยอมเดินทางมา และไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้เดินทางเข้ามาสอบถามถึงความคืบหน้าของคดี ซึ่งเจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวนได้ส่งหนังสือไปเชิญตัวแล้ว
นายสมพร เยาวสังข์ อายุ 46 ปี และนางสาวจันทร์ธิมา ออนรอด อายุ 45 ปี สองสามีภรรยา ได้เล่าว่า หลังจากตนเองกลับจากซื้อของที่ตลาดแถวบ้านโดยขี่รถจักรยานยนต์มาถึงบริเวณบากซอยกิ่งแก้ว 37 ก็พบรถแท็กซี่คันดังกล่าวจอดอยู่บริเวณหน้าปากซอยดังกล่าว ลักษณะจอดกีดขวางจนตนเองขี่รถจักรยานยนต์เข้าซอยไม่ได้ ตนเองจึงบีบแตรไป 1 ครั้ง ก่อนที่โชเฟอร์แท็กซี่จะเปิดกระจกมาด่าว่า บีบแตรหาพ่อมึงหรือ ตนเองจึงลงจากรถจักรยานยนต์ไปบอกโชเฟอร์รถแท็กซี่ว่าบริเวณนี้จอดไม่ได้ คนอื่นจะเข้าออกนั้นลำบาก แฟนตนเองจึงดึงตัวตนเองกลับเพราะไม่อย่างมีเรื่อง แต่จังหวะที่ตนเองกับแฟนกำลังขึ้นรถจักรยานยนต์นั้น รถแท็กซี่คันดังกล่าวก็ได้พุ่งชนจนรถจักรยานยนต์ล้มตามคลิปดังกล่าว ก่อนที่จะมีการโต้เถียงกัน และ รถแท็กซี่ได้ชนซ้ำมาอีก
โดยที่เหตุดังกล่าวเกิดเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุตนเองพร้อมแฟนสาวได้เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ บางแก้ว จังหวัดสมุทรปราการ ก่อนที่วันรุ่งขึ้น เจ้าหน้าที่ได้ติดตามโชเฟอร์รถแท็กซี่มาได้ โดยที่โชเฟอร์รถแท็กซี่คันดังกล่าวได้รับผิดกับเหตุการณ์ดังกล่าว ก่อนที่จะมีการตกลงค่าเสียหายที่ 20, 000 บาท แต่ทางโชเฟอร์รถแท็กซี่ไม่มีเงิน วันนั้นจึงได้เงินมา แค่ 5,000 บาท แต่หลังจากวันนั้นก็ติดต่อโชเฟอร์รถแท็กซี่คันดังกล่าวไม่ได้
พ.ต.อ.มงคล อ่อนแก้ว ผกก.สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ เปิดเผยว่า สำหรับคดีนี้ ก่อนหน้านี้ทั้งสองฝ่ายเคยเจรจากันแล้วรอบหนึ่งแต่ไม่เป็นไปตามนัด ทำให้ผู้เสียหายออกมายืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ซึ่งทางพนักงานสอบสวนก็อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานและออกหมายเรียกฝ่ายแท็กซี่มาสอบปากคำหากออกหมายเรียกไม่มาพบก็จะขออนุมัติหมายจับ ในส่วนว่าเข้าข่ายพยามฆ่าได้หรือไม่ ขณะนี้ยังไม่ฟันธงข้อหาดังกล่าวจะต้องสอบปากคำทั้งสองฝ่ายรวมถึงตรวจพยานหลักฐานต่าง ๆ หากเข้าข่ายความผิดพยายามฆ่าก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมภายหลัง ส่วนผู้เสียหายหากไม่ได้รับความเป็นธรรมทางคดีสามารถเข้าพบตนเองได้ทุกวันเวลาราชการที่ห้องทำงานโดยตรง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: