สาวบางพลีช้ำใจรอบสองถูกโจรคนเดียวกันก่อเหตุซ้ำแอบนำตั๋วจำนำแหวนทองของตนไถ่แหวนทอง จากร้านทองย่านบางโฉลง ทำให้เจ้าตัวรู้สึกไม่ปลอดภัยและงงทำไมตำรวจไม่ออกหมายจับ
เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 5 เมษายน 2565 นางสาวไอยรา ประคอง อายุ 32 ปี นำหลักฐานจากภาพวงจรปิดมาแจ้งความร้องทุกข์กับทาง พ.ต.ต.สิทธิพงษ์ ปานไทสง สารวัตรสอบสวน สภ.บางพลี สมุทรปราการ ให้ช่วยติดตามตัว นายสุรกิต สอนใจ อายุ 34 ปี ผู้ต้องหา นำตั๋วจำนำแหวนทองของตน แอบอ้างไปขอไถ่คืนจากร้านทองย่านบางโฉลง โดยมีหลักฐานเป็นภาพกล้องวงจรปิดและเอกสารใบขับขี่ของ นายสุรกิต ที่ใช้กับทางร้านทองมาแสดงต่อพนักงานสอบสวน
นางสาว ไอยรา ผู้เสียหายได้กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา ขณะตนเองกำลังเก็บของที่ร้าน ที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อภายในปั้มน้ำมันย่านบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ จากนั้นถูกคนร้ายชายหนึ่งฉกกระเป๋าสะพาย และโทรศัพท์มือถือของตนเองไปก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ซึ่งภาพวงจรปิดจับภาพได้ชัดเจน หลังจากนั้นตนเองก็นำหลักฐานมาโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก เพื่อเตือนภัย หลังจากที่โพสต์ได้ไม่นานปรากฏว่ามีผู้เสียหายอีกหลายราย ที่ถูกนายสุรกิต ก่อเหตุในลักษณะเดียวกันทั้งในท้องที่ สภ.บางเสาธง และ สภ.บางบ่อ ได้ติดต่อมาหาตน นอกจากนั้นยังมีผู้เสียหายบางรายออกมาให้ข้อมูลระบุที่อยู่ของคนร้ายซึ่งตนเองและผู้เสียหายรายอื่นได้รวมตัวกันพร้อมตำรวจบุกไปที่หน้าบ้านพักของคนร้าย ซึ่งไม่พบตัว พบเพียงภรรยาของคนร้าย ซึ่งอ้างว่าสามีไม่ได้ติดต่อกันมาสักพักแล้วและไม่ทราบว่าไปอยู่ไหน ยอมรับว่าสามี มีพฤติกรรมดังกล่าวจริง กระทั่งมาล่าสุดวันนี้ตนได้เดินทางเรื่องทำเอกสารสำคัญต่าง ๆ และเดินทางไปที่ร้านทองเพื่อแจ้งร้านทองว่าตั๋วรับจำนำที่นำแหวนทองมาจำนำไว้ถูกคนร้ายขโมยกระเป๋าไปจึงจะมาขอทำใบใหม่ แต่ตนต้องถึงกับช็อกเมื่อทางร้านแจ้งว่าไม่พบข้อมูลในระบบพอขอตรวจสอบกลับพบว่ามีคนมาไถ่ทองออกไปแล้ว โดยอ้างเป็นของแฟนตนเอง และพอตรวจดูเอกสารคนที่มาไถ่ทองนั้นคือคนร้ายคนเดียวกันกับที่ก่อเหตุกับตนเองก่อนหน้านี้ ทำให้ตนเองรู้สึกไม่ปลอดภัย แถมยังไม่เข้าใจการทำงานของทางตำรวจว่าเหตุใดถึงยังไม่ออกหมายจับผู้ก่อเหตุและยังตามจับกุมตัวไม่ได้ทั้งที่หลักฐานครบทุกอย่าง
