นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เป็นประธานในการวางแนวทางการแก้ไขสถานการณ์ปัญหาความคับคั่งของผู้โดยสาร ที่บริเวณอาคารผู้โดยสารขาเข้าชั้น 2 ประตู 8 อาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งมีการขยายพื้นที่บริการเพิ่มเคาน์เตอร์โรงแรม ให้สอดคล้องกับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นในแต่ละวัน ด้วยการขยายพื้นที่จัดตั้งเคาน์เตอร์บริเวณจุดนัดหมายระหว่างผู้โดยสารกับโรงแรมเพิ่มเติม จากเดิม 8 เคาน์เตอร์ เป็น 17 เคาน์เตอร์
เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 11 เมษายน 2565 นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ได้เป็นประธานในการวางแนวทางการแก้ไขสถานการณ์ปัญหาความคับคั่งของผู้โดยสาร ที่บริเวณอาคารผู้โดยสารขาเข้าชั้น 2 ประตู 8 อาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งมีการขยายพื้นที่บริการเพิ่มเคาน์เตอร์พร้อมปรับรูปแบบการเรียงลำดับรายชื่อโรงแรม จากเดิมที่ก่อนหน้านี้มีการบริการจัดเคาน์เตอร์รายชื่อโรงแรม 8 เคาน์เตอร์ ในบริเวณโซนดังกล่าวเพื่อให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศ ได้รับความสะดวกสบายใจ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่ได้มีการจองโรงแรมไว้แล้ว ซึ่งทางโรงแรมต้องจัดรถมารอรับส่ง และมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ดำเนินการบูรณาการให้บริการร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงประจำท่าอากาศยาน (EOC) และทุกภาคส่วน ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยปรับการบริการให้สอดคล้องกับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นในแต่ละวัน ด้วยการขยายพื้นที่จัดตั้งเคาน์เตอร์บริเวณจุดนัดหมายระหว่างผู้โดยสารกับโรงแรมเพิ่มเติม จากเดิม 8 เคาน์เตอร์ เป็น 17 เคาน์เตอร์ พร้อมทั้งกำหนดให้ติดป้ายแสดงชื่อโรงแรมเรียงตามตัวอักษรเพื่อให้เกิดความชัดเจนในการเข้ารับบริการของผู้โดยสาร
นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตามที่ได้มีผู้เผยแพร่ภาพการเดินทางของผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ในสื่อสังคมออนไลน์ ที่แสดงให้เห็นความแออัดและไม่ได้รับความสะดวก ณ จุดนัดหมายระหว่างผู้โดยสารกับโรงแรมบริเวณห้องโถงผู้โดยสารขาเข้านั้น ในเรื่องนี้ทางผู้ใหญ่ได้ให้ตนและอีโอซีเข้ามาดูแลเราแก้ปัญญาไขที่เกิดขึ้น เมื่อบ่ายของวันนี้อีโอซี ได้รีบประชุมด่วนถึงแนวทางแก้ไขสถานการณ์ความคับคั่งของผู้โดยสาร เรามีแนวทางที่ได้กล่าวการชี้แจ้งไปแล้วนั้น เรามีการเพิ่มเคาน์เตอร์ของโรงแรมตามที่เห็นจากเดิม 8 เคาน์เตอร์ เป็น 17 เคาน์เตอร์ จากเดิมที่มีทางออกแค่ 2 ทางออกคือประตุ 9 และประตู 10 เพื่อที่จะให้ผู้โดยสารไปพบกับตัวแทนของโรงแรมและพาไปขึ้นรถยนต์ วันนี้เราได้เปิดประตู 8 เพิ่มอีกประตู และในพรุ่งนี้เราก็จะเปิดประตู 6-10 ดังนั้นหลังจากที่มีปรับกายภาพแล้ว การเข้าออกของผู้โดยสาร ณ พื้นที่ของห้องโถงผู้โดยสาร จะทำให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เพราะเรามีการขยายกายภาพออกไป สำคัญที่สุดคือเรามีกระประชุมบ่ายนี้ มีการพูดกับตัวแทนของสมาคมการโรงแรม ว่าเรามีความจำเป็นที่เราต้องเพิ่มพื้นที่นี้ ตัวแทนของโรงแรม ต้องเพิ่มตาม เพื่อให้ผู้โดยสาร พบเจอกับตัวแทนของโรงแรม โดยในวันพรุ่งนี้เดิมช่องทางออกเป็นช่องทางเดียวคือ ช่อง C ที่อยู่กันในตอนนี้ เราจะเปิดอีกช่อง B ที่เราปิดมาโดยตลอดโดยมีการประสานหน่วยงานทีเกี่ยวข้องกับพื้นตรงนั้น พร้อมที่จะรับปฏิบัติ อันนี้เป็นแนวทางการแก้ไข หลังจากที่ผู้โดยสารเพิ่มมากขึ้น EOC จึงปฏิบัติอย่างไร เราพยายามแก้ไขปัญญาตามสถานการณ์ แต่กราบแบบนี้ว่า ตามมาตรการณ์ การคัดกรองอย่างนี้ เมื่อผู้โดยสารจะต้องเจอกับตัวแทนโรงแรม มันอาจจะต้องใช้เวลาหลังจากที่ผ่านด่านศุลกากรออกมาเรียบร้อย ฉะนั้นผู้ตัวแทนโรงแรมก็ต้องพยายามทำหน้าที่ของตัวเองทำให้ดีที่สุด วันนี้ต้องร้องว่าจำนวนของตัวแทนของโรงแรมต้องมีเพียงพอกับจำนวนผู้โดยสารที่กำลังจะเพิ่มมากขึ้น เมื่อทั้งสองอย่างถ้ามันแมท ผมมั่นใจว่าขบวนการคัดครองต่าง ๆ ได้ก็จะได้รับสะดวกมากขึ้น
