จากกรณีหนุ่มพนักงานขนสัมภาระในสนามบินสุวรรณภูมิ ถูกกลุ่มคู่อรินับสิบยกพวกไล่ฟัน เจ็บสาหัส ล่าสุด ผู้ก่อเหตุทั้ง 7 คน เข้ามอบตัวแล้ว อ้างมีปัญหาขัดแย้งเรื่องส่วนตัว มองหน้ากัน ก่อนเกิดเหตุได้ชักชวนเพื่อมุสลิมที่ทำงานด้วยกันไปเพื่อเคลียร์ใจกับคนเจ็บแต่ยังไม่ทันคุยอะไรกันก็เกิดมีปากเสียงจนเกิดการต่อสู้และบานปลาย จนมีคนเจ็บ
อ่านข่าว พนักงานขนสัมภาระถูกคู่อรินับสิบยกพวกไล่ฟันกลางสนามบินสุวรรณภูมิ
จากเมื่อช่วงกลางดึงคืนวันที่ผ่านมาได้มีชายถูกร้ายร่างกาย บริเวณถนนทางเข้าประตู คอนโทรลโพสต์ 4 ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสเป็นชายชื่อ นาย ยุทธศาสตร์ บัวจัตุรัส อายุ 23 ปี ซึ่งเป็นพนักงานขนถ่ายสัมภาระของบริษัทซับพลายเออร์แห่งหนึ่ง ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ ถูกมีดฟันเข้าที่สะโพกข้างขวาเป็นแผลฉกรรจ์ รวมทั้งลำตัวอีกแห่ง ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 ส่วนกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นคนงานที่เดียวกันกว่า 10 คน หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปหมดแล้ว
ข่าวน่าสนใจ:
- สองแม่ลูกปีนหน้าต่างชั้น 2 หนีตายไฟไหม้บ้านกลางดึก คาดไฟฟ้าลัดวงจร
- "เลยดั้น" แค่มุมภาพเดียว กลายเป็นไวรัล ดึงดูด นทท.แห่เช็คอินถ่ายภาพ อ.น้ำหนาวเตรียมดันเป็นซอฟพาวเวอร์
- ภาคธุรกิจเอกชนหอการค้าชัยภูมิชี้แนวทางรัฐบาลพลิกวิกฤตเศรษฐกิจไทยฝ่าวิกฤตโลก!
- ทนายเกรียง พา สาวนักแข่งรถจักรยานยนต์ทีมชาติไทย แจ้งความดำเนินคดีกับนายกสมาคม ข้อหาหมิ่นประมาท และ พรบ.คอม
ล่าสุดความคืบหน้าที่วันที่ 12 เมษายน 2565 ที่ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ส่วนหน้า นาย นิมูฮัมหมัด หรือเฮง หะยีมามุ อายุ 25 ปี (เสื้อยืดฟ้า) และนายสุไลมาน มีนาดาโอะ อายุ 26 ปี เสื้อสีดำ สองผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุใช้มีดพกแทง นายยุทธศาสตร์ บัวจัตุรัส อายุ 23 ปี พนักงานขนสัมภาระภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดริมบริเวณถนนสาย 25 ก่อนเข้า Control Post 4 ประมาณ 200 เมตร เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หลังจากได้รับการติดต่อให้มอบตัวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องภาพวงจรปิดบริเวณดังกล่าวจับภาพได้ชัดเจนขณะที่ ภาพมุมแรกจะเห็นว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุ ได้พากันขับขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ทั้งหมด 4 คันมาจอดซุ่มดักรอผู้บาดเจ็บ บริเวณดังกล่าว จากนั้นกล้องอีกมุมที่อยู่ฝั่งตรงข้ามจับภาพได้ขณะที่ผู้บาดเจ็บเดินมากับกลุ่มเพื่อนเพื่อจะเข้าทำงาน โดยมีกลุ่มของนายนิมูฮัมหมัด พร้อมเพื่อนเดินเข้าไปประกบตัวผู้บาดเจ็บ ทำทีเหมือนจะมีการพูดคุยอะไรกันบ้างอย่างจากนั้น กล้องตัวเดิมจับภาพนาทีที่ร่วมกันก่อเหตุจนเกิดการต่อสู้กันและจากภาพวงจรปิดจะเห็นว่าจังหวะที่นาย ยุทธศาสตร์ ผู้บาดเจ็บกำลังวิ่งหนีตายและถูกนายเฮง ใช้มีดแทงเข้าที่สะโพกด้านหลังขวาจนล้มลงจากนั้นนายเฮงได้วิ่งหลบหนีไป
หลังจากที่สองผู้ต้องหาเดินทางมามอบตัว ซึ่งให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง โดยนายเฮง ให้การว่า นายสุไลมาน มีนาดาโอะ เป็นคนเปิดใส่คู่กรณีก่อนด้วยการชกเข้าที่ใบหน้าจากนั้นจึงเกิดการต่อสู้และชุลมุน จังหวะที่ตนวิ่งตามคู่กรณีไปจึงชักมีดที่พกเหน็บเอวมาจ้วงแทงใส่ไปหนึ่งครั้งจนคู่กรณีล้มลงแล้วพากันแยกย้ายหลบหนีกลับไปที่ห้องพักจนมีตำรวจโทรแจ้งให้มามอบตัว ส่วนสาเหตุนายเฮง อ้างว่า ตนและผู้บาดเจ็บเป็นพนักงานบริษัทเดียวกันคือ บริษัท A and P. ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบขนสัมภาระขึ้นเครื่องบินภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แล้วเกิดมีปัญหาความขัดแย้งส่วนตัวกัน ซึ่งนายเฮงอ้างว่า เกิดการมองหน้ากันทั้งสองฝ่ายแล้วถูกฝ่ายตรงข้ามคือผู้บาดเจ็บเข้ามาหาเรื่อง คืนวันเกิดเหตุจึงชักชวนเพื่อนมุสลิมด้วยกันที่ทำงานเดียวกันรวมกลุ่มประมาณ 7 คนประกอบด้วย 1.นายมูฮัมหมัด บือราเฮง อายุ 24 ปี / 2.นายซับรี กาจะลากี อายุ 23 ปี / 3.นายฮาซัน อามิง อายุ 28 ปี / 4.นายแวยา มามะ อายุ 21 ปี / 5.นายอูลุลอัซมี วามะ อายุ 23 ปี มาเพื่อเคลียร์ใจกับผู้บาดเจ็บแต่ยังไม่ทันคุยอะไรกันก็เกิดมีปากเสียงจนเกิดการต่อสู้และบานปลายดังกล่าว
นายนิมูฮัมหมัด ได้ให้การอ้างว่า มาจากการที่กลุ่มตนทำงานมานานแล้วไม่พอใจที่ฝ่ายผู้บาดเจ็บเพิ่งเข้ามาทำงานแล้วได้ดีกว่านั้น ไม่เป็นความจริง กลุ่มของตนเองยอมรับ ทำงานที่นี่มา 3 ปี จริง ตนจากบ้านเกิดเมืองนอนมาไกลเพื่อตั้งใจมาทำงานหาเลี้ยงครอบครัว โดยทราบดีว่าการทำงานในสนามบินแห่งนี้มีกฎระเบียบมากมาย จึงพึงระวังตัวกันมาตลอด ส่วนที่บอกว่าฝ่ายตนเคยมีเรื่องกับผู้บาดเจ็บนั้น ยืนยันไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน อีกทั้งยังทำงานกันคนละกะ จะเจอหน้ากันแค่บางครั้งช่วงทำโอทีเท่านั้น ก่อนหน้านี้ที่อ้างว่า เคยมีเรื่องกันมาก่อนนั้น เป็นฝ่ายของรุ่นน้องที่เป็นมุสลิม ทำงานกะเดียวกับผู้บาดเจ็บ และเคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันในไซต์งานจนถึงขั้นรุ่นน้องมุสลิมถูกตีจนต้องเย็บถึง 12 เข็ม และถูกทางบริษัทให้ออกจากงาน แต่ฝ่ายผู้บาดเจ็บกลับไม่ถูกลงโทษจากทางบริษัท ทำให้ฝ่ายผู้บาดเจ็บได้ใจ และมักใช้ความเคยเป็นอดีตนักมวยเก่า มาข่มเหงพี่น้องชาวมุสลิมที่ทำงานในที่แห่งนี้ ซึ่งกลุ่มของตนเอง ก็เช่นกันจังหวะที่ทำโอทีแล้วต้องเจอหน้าผู้บาดเจ็บ คืนวันเกิดเหตุจึงตั้งใจพากันไปดักรอเจอผู้บาดเจ็บที่แยกสุขสมาน เพื่อหวังเคลียร์ใจ แต่ฝ่ายคู่กรณีขับรถหนีจนมาถึงทางเข้าคอนโทรลโพสต์ 4 จึงดักรอ แต่ฝ่ายผู้บาดเจ็บไปตามเพื่อนมาสมทบกว่าสิบคน เพื่อเคลียร์ปัญญากัน แต่กลับถูกฝ่ายตรงข้ามประกบ 3 ต่อ 1 ทำให้นายสุไลมานตัดสินใจเปิดฉากชกกลุ่มของผู้บาดเจ็บก่อน ที่เข้ามารุมจะทำร้ายจนเกิดการชุลมุนกัน นายเฮง ซึ่งพกมีดติดตัวมาด้วยจึงเข้าไปช่วยเพื่อนที่ถูกรุมทำร้ายจนกระทั่งตามไปแทงผู้บาดเจ็บดังกล่าว ซึ่งหลังจากนี้ฝ่ายของผู้ก่อเหตุก็เตรียมจะแจ้งความกลับผู้บาดเจ็บและพวกด้วยเช่นกัน
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ข้อมูลผู้ต้องหาที่เหลือจึงโทรตามให้มามอบตัวและล่าสุดผู้ต้องหาทั้งหมดเดินทางมามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว โดยถูกแจ้งข้อหา ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ ส่วนนายนิมูฮัมหมัด หรือเฮง ถูกแจ้งข้อหาเพิ่มคือ พกพาอาวุธมีดไปในทางเมือง ชมชนสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: