รวบหนุ่มสกล วัย 29 ปี อ้างตัวเองเป็นตำรวจ หลอกเหยื่อสาว วัย 37 ปี จะช่วยตามหาคนร้ายที่อ้างตัวเองเป็นอัยการ หลอกให้ร่วมลงทุนเกี่ยวกับการซื้อขายรถยนต์มือสอง จนสูญเงินไปเกือบแสน
จากกรณีเมื่อ 30 พ.ย. 2564 น.ส.สาสนา เบ้าสุวรรณ อายุ 37 ปี ได้แจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ หลังจากถูกคนร้ายซึ่งเป็นชายรู้จักกันทางแอพพลิเคชั่น TiK ToK ได้อ้างเป็นอัยการ ได้มาหลอกลวงให้ร่วมลงทุนเกี่ยวกับการซื้อขายรถยนต์มือสอง โดยเสนอผลตอบแทนเมื่อขายได้กำไรอย่างน้อยสัปดาห์ 2 คัน ก็จะได้กำไรประมาณ 150,000 บาท แบ่งส่วนกันแล้วจะได้ประมาณ 30,000 บาทเป็นอย่างน้อย ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงโอนเงินไปลงทุนด้วยกว่า 105,000 บาท และมารู้ภายหลังว่าถูกหลอกและไม่สามารถติดต่อชายคนดังกล่าวได้ จึงเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์เอาไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ เพื่อติดตามจับกุมชายคนดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ข่าวน่าสนใจ:
- นักท่องเที่ยวแห่ชมดอกไม้งามดอยตุง ชิมอาหารพื้นถิ่น ถ่ายรูปดอกไม้สวย
- รับสมัคร นายกอบจ.-ส.อบจ.ตรัง วันแรกคึกคัก! บ้านใหญ่ตระกูลโล่ฯ-ส.ส.ตรังทุกพรรค-กองเชียร์นับพัน แห่ให้กำลังใจ “ทีมนายกบุ่นเล้ง” สู้ศึกอีกสมัย…
- ศึกชิงนายก อบจ.สมุทรปราการ คึกคัก
- “วิทยา แก้วภราดรัย” รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ยันการแก้ปัญหาน้ำมันแพง เป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อประชาชน ไม่หวั่นปัญหาพรรคที่เกิดขึ้น
ขณะที่ผู้เสียหายเองก็ได้ทำการสืบค้น คนร้ายที่ก่อเหตุว่าเป็นใคร โดยการโพสต์ข้อความตามหาตัวคนร้ายคนดังกล่าวในแอพพลิเคชั่น TiK ToK ต่อมาได้มีชายอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชื่อ จ.ส.อ.วุฒิพงศ์ สิอิ้น ซึ่งเป็นตำรวจ ปนพ. อยู่ที่นราธิวาส เสนอตัวมาให้การช่วยเหลือในการติดตามตัวคนร้ายในคดี ให้กับผู้เสียหาย โดยขอข้อมูลคนร้ายไป และในวันต่อมาคนร้ายคนดังกล่าว ได้อ้างว่า ตนได้กลับมาที่บ้านเกิดในจังหวัดสกลนคร กำลังจะเดินทางมาที่กรุงเทพ เนื่องจากติดต่อคนร้ายได้แล้วและนัดหมายให้มาเจอกันที่ห้างเมกาบางนา ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงสถานที่ไปเป็นห้างแถวพระราม 9 และขอค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ผู้เสียหายได้โอนเงินไปให้จำนวน 3 พันบาท แต่คนร้ายที่อ้างเป็นอัยการได้แจ้งว่า ถ้าอยากได้เงินให้ลงไปเอาเงินที่จังหวัดภูเก็ต ด้วยความเป็นผู้เสียหายเริ่มไว้ใจผู้ต้องที่อ้างเป็นตำรวจเข้ามาช่วยติดตาม ผู้เสียหายจึงได้โอนเงินจำนวน 5 พันให้เป็นค่าเดินทาง
ต่อมาในวันรุ่งขึ้นคนร้ายที่อ้างเป็นตำรวจได้โทรมาบอกว่าคนร้ายที่อ้างเป็นอัยการได้เปลี่ยนแผนไปเป็นสถานที่แห่งงหนึ่งไกลออกไป และขอค่าเดินทางเพิ่มอีก 5 พันบาท ต่อมาในวันที่ 22 พ.ย.64 คนร้ายที่อ้างเป็นตำรวจได้แจ้งกลับมาว่า เห็นคนร้ายที่อ้างเป็นอัยการอยู่ในขบวนการโจรใต้และจับได้แล้ว และคนร้ายที่อ้างเป็นตำรวจได้ขอค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเพื่อเดินทางกลับมาเก็บสัมภาระที่จังหวัดสกลนครเพื่อกลับไปทำงานที่นราธิวาส เพื่อเอาเพื่อนมาช่วยอีก 3 คน ผู้เสียหายโอนเงินให้อีก 21,000 บาท และลันที่ 27 พ.ย.64 คนร้ายที่อ้างตัวเป็นตำรวจ ได้โทรมาขอค่าใช้จ่ายให้กับกองปราบจำนวน 15,000 บาท ต่อมาวันที่ 28 พ.ย.64 อ้างว่ารถหม้อน้ำแตก ผู้เสียหายจึงได้โอนเงินไปให้อีก 10,000 บาทและต่อมาในที่วัน 29 พ.ย.64 คนร้ายที่อ้างเป็นตัวเป็นตำรวจได้แจ้งมี ได้นำตัวผู้ต้องงหาที่อ้างเป็นตัวอัยการในคดีดังกล่าวมาที่ สภ.บางแก้ว
แต่ตอนนี้ออกมาอยู่ บิ๊กซีบางบอน และกลับอ้างว่า ไม่ได้ส่งตัวผู้ต้องหาให้ร้อยเวร เนื่องจากตำรวจที่ปัตตานี จับกุมตัวผู้ร่วมขบวนการฉ้อโกงตัวหลักได้แล้วจึงพาตัวกลับไป ผู้เสียหายจึงเกิดความสงสัย จึงได้โทรศัพท์สอบถามร้อยเวรเจ้าของคดีเดิม สภ.บางแก้ว จึงรู้ตัวว่าโดนหลอกอีกเป็นครั้งที่สอง จึงรวบรวมพยานและหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้งเป็นสองในคดีเดียวกัน
ล่าสุดในช่วงเย็นของวันนี้ที่ 19 พฤษภาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายนายวุฒิพงศ์ สิอิ้น อายุ 29 ปี ชาวจังหวัดสกลนคร ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ 32 /2565 ลงวันที่ 20 มกราคม 2565 ฐานฉ้อโกงแสดงตนเป็นคนอื่นและโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดคามเสียหายแก่ผู้อื่น โดยจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 53 / 2 หมู่ 6 ต.แร่ อ พังโคน จ.สกลนคร ก่อนคุมตัวกลับมายังโรงพัก สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ เพื่อให้ผู้เสียหายชี้ตัวยืนยันเพื่อดำเนินตามกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: