หนุ่มวัย 39 ปี เมาซิ่งรถยนต์กระบะชนท้ายรถสองแถวซึ่งมีผู้โดยสารอยู่ท้ายรถได้รับบาดเจ็บ 4 ราย เหตุเกิดบริเวณทางเข้าวัดอโศการาม ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 22 พฤษภาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.เมืองสมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีอุบติเหตุรถยนต์กระบะชนท้ายรถสองแถวโดยสารที่บริเวณสุขุมวิทมุ่งหน้าเข้าตลสดปากน้ำบริเวณทางเข้าวัดอโศการาม ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บหลายราย หลังรับแจ้งจึงด้วยมูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการเดินทางเข้าตรวจสอบ
ข่าวน่าสนใจ:
ที่เกิดเหตุพบมีผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งเป็นผู้โดยสารนั่งมาบนรถสองแถวจำนวน 4 เป็นผู้ใหญ่ 2 รายและเด็ก 2 ราย ซึ่งมีบาดแผลตามร่างกายเล็กน้อย มูลนิธิได้ให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลศิครินทร์ สมุทรปราการ ในที่เกิดเหตุที่สองแถวโดยสารสาย 36 ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน 10-33560 สมุทรปราการ จอดอยู่สภาพยุบและด้านท้ายข้างขวาพังยับเยิน ห่างกันเล็กน้อยรถยนต์กระบะยี่ห้อ มิตซูบิชิ ไทรทั่น สีดำ ทะเบียน กว 5138 ระยอง จอดอยู่ในสภาพด้านหน้าฝั่งซ้ายพังยับเยิน โดยมีนายกรภพ หงส์พระ อายุ 39 ปี เป็นคนขับ ซึ่งอยู่ในอาการคล้ายมึนเมา และยังมีรถยนต์กระบะยี่ห้อ มาสด้า สีดำ ทะเบียน 2 ฒอ 1687 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ในสภาพข้างฝั่งขวายุบ
จากการสอบถามนาย สำรวย นามวงษ์ อายุ 46 ปี คนขับรถสองแถวคันดังกล่าว ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ตระเวนรับผู้โดยสารมาตามถนนสุขุมวิทมุ่งหน้าเข้าตลาดปากน้ำ ขณะที่ขับรถมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางเข้าออกวัดอโศการาม โดยขณะนั้นรถยนต์กระบะยี่ห้อ มาสด้า สีดำ ได้ขับออกมาจากซอยกำลังเลี้ยวออกมาถนนใหญ่ ตนจึงได้จอดและปล่อยรถคันดังกล่าวเลี้ยวออกมา ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกับที่รถยนต์กระบะยี่ห้อ มิตซูบีชิ สีดำ ที่ขับตามหลังมาด้วยความเร็วได้พุ่งชนเข้าที่ท้ายรถฝั่งขวาของตนอย่างแรงจนท้ายพังยับเยินผู้โดยสารที่นั่งอยู่บนท้ายรถได้รับบาดเจ็บ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า ในระหว่างที่นายกรภพ ที่ขับรถกระบะคันดังกล่าวมา โดยไม่ทันระวังที่รถสองแถวที่ขับอยู่หน้ารถจะเบรกให้กระบะที่ออกจากซอยเลี้ยวออกมา จึงได้พุ่งชนท้ายรถสองแถวอย่างแรงและสองแถวได้พุ่งไปชนด้านข้างรถกระบะที่ออกจากออกจาด้านข้างยุบ ทำให้โดยสารสารที่นั่งมาด้านท้ายได้รับบาดเจ็บดังกล่าว อย่าไรก็ตามจะได้ทำการสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: