ชายวัย 48 ปี เมาสุราซิ่งรถยนต์กระบะ ชนรถชาวบ้านที่จอดอยู่ริมถนนได้รับความเสียหาย 7 คัน เจ้าตัวอ้างไม่ได้ชนสุด ท้ายยอมจำนนด้วยกล้องวงจรปิด เหตุเกิดบนถนนซอยวัดศรีวารีน้อย ช่วงหน้าตลาดแฟร้งค์ ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
เมื่อเวลา 20.52 น วันที่ 18 มิถุนายน 2565 พ.ต.ต.พัชร์ธนพล รัชตาธารากาญจน์ สารวัตรสอบสวน สภ.บางพลี สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีอุบัติรถยนต์กระบะเฉี่ยวชนรถยนต์ที่จอดอยู่ริมถนนจำนวนหลายคันได้รับความเสียหายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณถนนซอยวัดศรีวารีน้อย ช่วงหน้าตลาดแฟร้งค์ ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยอาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเดินทางเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะยี่ห้อ อีซูซุ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน ณง 8003 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ในสภาพด้านหน้าพังยับเยิน และยังมีรถยนต์เก๋งและรถยนต์กระบะถูกเฉี่ยวชนได้รีบความเสียหายอีกจำนวน 7 คัน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย เจ้าหน้าที่มูลนิธิได้ช่วยให้การปฐมพยาบาลก่อนรีบนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลใกล้เคียง โดยมีกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ในละแวกที่เกิดเหตุบันทึกเหตุการณ์เอาไว้ได้ เป็นภาพขณะที่รถยนต์กระบะคันดังกล่าวที่ขับมาด้วยความเร็วจากด้านลาดกระบัง ก่อนเสียหลักพุ่งเข้าเฉี่ยวชนรถยนต์ที่จอดข้างทางจำนวนหลายคันอย่างแรง จนให้รถยนต์ได้รับความเสียหาย
จากการสอบถามชาวบ้านที่เห็นเห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ได้พบเห็นรถกระบะคันดังกล่าวได้ขับเบี่ยงเลนพุ่งเข้ามา โดยที่ตอนแรกขับมาทางเลนขวาก่อนเบี่ยงเลนพุ่งเข้ามารถยนต์ที่จอดอยู่ข้างทางอย่างแรง จนชนต่อกันเป็นโดมิโน โดยที่ไม่มีการเบรก จนคนที่อยู่ตรงนี้และตนเองต้องวิ่งหาหลบกันจ้าระหวั่น
ขณะที่นายวานิ วิลัยรัมย์ อายุ 48 ปี คนขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวซึ่งอยู่ในอาการคล้ายคนเมาสุรา และพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง ได้บอกว่า ตนเองขับรถกระบะออกมาจากบริษัทที่อยู่ในซอยดังกล่าว หลังจากที่ดื่มเบียร์ไปจำนวน 4 ขวด ตั้งแต่ช่วงเวลา 18.00 น.และกำลังจะขับรถกลับบ้านพักแถวรามคำแหง จนมาเกิดเหตุดังกล่าว ซึ่งเจ้าตัวอ้างว่าไม่ได้ชน เขาชนกันอยู่ก่อนแล้ว สุดท้ายจำนนด้วยหลักฐานจากภาพวงจรปิด เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวนายวานิ มาทำการตรวจวัดแอลกอฮอล์ พบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์สูงถึง 226 มิลลิกรัมเปอร์เซน ซึ่งเกินจากที่กฎหมายกำหนด เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวว่า เมาแล้วขับเป็นเหตุทำให้มีผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย ก่อนควบคุมตัวไว้เพื่อดำเนินตามกฎหมายต่อไป
