นายธีรพล ชุนเจริญ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบางปู แจงปัญหามอเตอร์ไซค์ขึ้นมาขี่บนทางจักรยานที่สมุทรปราการ เบื้องต้น ได้ส่งเจ้าหน้าที่เทศกิจไปเฝ้าระวัง เข้าไปจับกุมผู้กระทำผิดบนทางเท้าหรือทางจักรยานโดยเฉพาะในเวลาเร่งด่วนในช่วงเย็นตั้งแต่ 4 โมงเย็นถึง 4 ทุ่มในทุก ๆ วัน หากพบผู้กระทำผิด จะส่งแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตาม พ.ร.บ.สาธารณสุขในการจับกุมค่าปรับตั้งแต่ 500 บาทไปจนถึง 5,000 บาท เราทำมาแล้ว 2-3 เดือนแล้ว ปรากฏว่าในสถิติต่อเดือนมีผู้กระทำผิดกว่า 100 รายในช่วงเวลาเพียง 3-4 ชั่วโมงในช่วงเย็น
จากกรณีเมื่อวานนี้ รถจักรยานยนต์ที่ขี่บนทางจักรยานหรือทางเท้า ที่หน้าปากซอยลาดพร้าว 69 ชนเด็กนักเรียนได้รับบาดเจ็บ หลังจากนั้นมีผู้รีทวีต ทวิตเตอร์จำนวนมาก และยังแชร์ต่อในโลกออนไลน์อย่างกว้างขวาง พร้อมประณามคนขี่มอเตอร์ไซค์บนทางเท้าหรือทางปั่นจักรยาน ล่าสุดในโลกออนไลน์ได้มีการชี้เป้ามาที่ตำบลบางปู จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเทศบาลตำบลบางปูได้สร้างทางปั่นจักรยานหรือทางวิ่งออกกำลังกายให้กับชาวบ้านเลาะริมถนนสุขุมวิท ตั้งแต่หน้าหมู่บ้านการเคหะสมุทรปราการทอดยาวไปจนถึงทางแยกเข้าวัดตำหรุ ระยะทางยาวกว่า 10 กิโลเมตร ซึ่งก็มีรถจักรยานยนต์ขึ้นมาขี่บนทางจักรยานเช่นกันและเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง
นายธีรพล ชุนเจริญ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบางปู กล่าวว่า ในเรื่องนี้เทศบาลเองก็ทราบดีว่ามอเตอร์ไซค์ก็สร้างปัญหาในพื้นผิวที่เราทำทางจักรยานให้สำหรับคนที่มาออกกำลังกาย วันนี้เรามีแนวทางหลายส่วน ซึ่งปัจจุบันนี้เรามีป้ายประกาศตามแยกต่าง ๆ ที่ติดให้เห็นอยู่แล้วว่าทางจักรยานนี้ใช้เฉพาะจักรยานและผู้ใช้ทางเท้าเท่านั้น ซึ่งเราส่งเจ้าหน้าที่เทศกิจเข้าไปเฝ้าระวัง เข้าไปจับกุมผู้กระทำผิดบนทางเท้าหรือทางจักรยานโดยเฉพาะในเวลาเร่งด่วนในช่วงเย็นตั้งแต่ 4 โมงเย็นถึง 4 ทุ่มในทุก ๆ วันที่ผ่านมา อันนี้คือที่เราวางมาตรการไป ส่วนมาตรการที่สองก็คือเราทำเหล็กกั้นบนทางจักรยานระยะทางทั้งหมด 10 กิโลเมตร วันนี้เราทำมาได้ครึ่งหนึ่งแล้ว เหล็กที่เอาไปกั้นมีความกว้างแต่ละช่องไม่เกิน 50 เซนติเมตรซึ่งรถจักรยานผ่านได้ แต่รถจักรยานยนต์ผ่านไม่ได้ วันนี้ในบริเวณที่เราทำเหล็กกั้นแล้ว ปัญหาดังกล่าวก็ลดลง เราเหลือระยะทางอีกประมาณ 4-5 กิโลเมตร ต้องขอเวลาอีกไม่เกิน 20 วัน ในการติดตั้งอุปกรณ์เหล็กกั้นไม่ให้รถจักรยานยนต์ผ่าน และในขณะนี้ก็กำลังจะมีการเรียกประชุมขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการจักรยานยนต์รับจ้างที่อยู่ในแนวเส้นทางทั้งหมด ปากซอยทุก ๆ ปากซอย เพราะปัจจุบันมีความมักง่ายของคนที่ใช้ และบริเวณที่มีปัญหามากที่สุดคือบริเวณที่พวกเขาไปยูเทิร์นลำบาก ที่กลับรถอยู่ไกลๆ เราจะเห็นรถวิ่งสวนอยู่ในทางมากมาย เพราะฉะนั้นจุดที่มีปัญหาเราจะเชิญผู้ประกอบการทั้งหมดมาประชุมและอธิบายถึงข้อกฎหมายต่าง ๆ การมีส่วนร่วมและการเฝ้าระวังในการอยู่ร่วมกัน เรากำลังจะทำโครงการนี้ขึ้นมา
วันนี้อย่างที่บอกเราใช้ พ.ร.บ.สาธารณสุขในการจับกุมค่าปรับตั้งแต่ 500 บาทไปจนถึง 5,000 บาท เราทำมาแล้ว 2-3 เดือนแล้ว ปรากฏว่าในสถิติต่อเดือนมีผู้กระทำผิดกว่า 100 ราย ในช่วงเวลาเพียง 3-4 ชั่วโมงในช่วงเย็น แต่อย่างไรเราก็ต้องประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่างตำรวจเห็นแล้วจับได้เลย แต่ของเราต้องมีงานกฎหมายมีนิติกร มีที่เกี่ยวข้องอธิบายตักเตือนแล้วก็ปรับ และก็มีอีกอย่างหนึ่งคือเราจับแล้วไม่ยอมมาเสียค่าปรับ มีมากถึง 70-80 เปอร์เซ็นต์ แต่เราก็ส่งต่อให้ตำรวจเป็นผู้ดำเนินการ และบางจุดเรามีป้ายประกาศเตือนว่า เส้นนี้ใช้เฉพาะจักรยานและทางเท้าเท่านั้น หากฝ่าฝืนจะดำเนินการตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข ปรับ 500 ถึง 5,000 บาท ในส่วนเหล็กกั้นที่เกิดชำรุดเราก็เก็บมาปรับแต่ตอนนี้กำลังไล่ทำอยู่ ขอเวลาอีก 20 วัน ที่เหลืออีก 4-5 กิโลเมตรน่าจะดำเนินการแล้วเสร็จ
