พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง ผบก.ภว.จ.สมุทรปราการ พ.ต.อ.ประเสริฐสุข เฮงสุวรรณ์ ผกก.สภ.พระประแดง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.พระประแดง ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ 3 คดีใหญ่ ลักทรัพย์ แผ่นเหล็กกั้นแบริเออร์ บนสะพานภูมิพล , เครือข่ายจำหน่ายอาวุธปืน และเครือข่ายยาเสพติด
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 23 กรกฎาคม 2565 ที่โรงพัก สภ.พระประแดง สมุทรปราการ พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง ผบก.ภว.จ.สมุทรปราการ พ.ต.อ.ประเสริฐสุข เฮงสุวรรณ์ ผกก.สภ.พระประแดง พ.ต.ท.กฤต รวยอารี รอง ผกก. สืบสวน พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุม ผู้ต้องหารายสำคัญในพื้นที่ สภ.พระประแดง จำนวน 3 คดี คดีแรก ลักทรัพย์ แผ่นเหล็กกั้นแบริเออร์ บนสะพานภูมิพล ส่วนคดีที่สอง เครือข่ายจำหน่ายอาวุธปืน และคดีที่สาม เครือข่ายยาเสพติด นายพีระหรืออั้น ยาสาไชย
พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง ผบก.ภว.จ.สมุทรปราการ ได้เปิดเผยว่า คดีแรกเป็นคดีลักทรัพย์แผ่นเหล็กครอบคอสะพาน บนสะพานภูมิพล เมื่อช่วงกลางดึกเมื่อคืนนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้นำกำลังเข้าจับกุมตัว นายทรงวุฒิ สุเลา อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ ข้อหา พยายามลักทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณะประโยชน์ในเวลากลางคืนโดยแปลงหรือปลอมตัวเป็นผู้อื่น หรือโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป การจับกุมพร้อมด้วยของกลาง รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีแดงดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน และอุปกรณ์ในการขันน็อต โดยขึ้นไปก่อเหตุลักทรัพย์แผ่นเหล็กครอบคอสะพาน บนสะพานภูมิพล 2 มาแล้วจำนวน 4 ครั้ง ประกอบด้วยวันที่ 18 มิถุนายน 2565 บนสะพานภูมิพล 1 เขตรับผิดชอบ สน.บางโพงพาง และในวันเดียวกันยังได้มาก่อเหตุบนสะพานภูมิพล 2 เขตรับผิดชอบ สภ.สำโรงใต้ / ต่อมาในวันที่ 14 กรกฎาคม 2565 ได้มาก่อเหตุบนสะพานภูมิพล 2 เขตรับผิดชอบ สภ.พระประแดง และล่าสุดในวันที่ 18 กรกฎาคม 2565 ได้มาก่อเหตุเกิดบนสะพานภูมิพล 2 เขตรับผิดชอบ สภ.พระประแดง อีกครั้งหนึ่ง
เจ้าหน้าที่สืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรเส้นทางที่คนร้ายใช้ก่อเหตุและเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนี จนทราบว่า ผู้ก่อเหตุ ชื่อนายทรงวุฒิ สุเลา อายุ 33 ปี และเป็นผู้ก่อเหตุลักทรัพย์แผ่นเหล็กครอบคอสะพาน บนสะพานภูมิพล 4 ครั้ง จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.พระประแดง เพื่อออกหมายจับและสามารถจับกุมตัวนายทรงวุฒิ ได้ที่บริเวณใต้สะพาน กม.3 ปากซอยสุขสวัสดิ์ 50 แขวงราษฎร์บูรณะ เขตราษฎรณ์บูรณะ กรุงเทพมหานคร
ส่วนในคดีที่สองเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.พระประแดง จับกุมเครือข่ายจำหน่ายอาวุธปืน จับกุมตัวนายพงษ์ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ข้อหา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมด้วยของกลาง / 1.อาวุธปืนยาว ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก / 2.อาวุธปืน ลูกโม่ ขนาด .357 จำนวน 1 กระบอก / 3.อาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก / 4.อาวุธปืนลูกชองพกสั้น(ไทยประดิษฐ์) จำนวน 6 กระบอก / 5.เครื่องกระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 20 จำนวน 2 นัด / 6.ชองพกหนังสีดำสำหรับใส่กับปืนลูกซองสั้น จำนวน 1 อัน
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากได้มีเหตุทะเลาะวิวาทของกลุ่มนักเรียนและนักศึกษาใน พื้นที่อำเภอพระประแดงและพื้นที่ใกล้เคียง ก่อให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตร่างกายและทรัพย์สิน รวมทั้งเป็นการสร้าง ความเดือดร้อนให้กับประชาชนและสังคมบ่อยครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระประแดง จึงได้สืบสวนหาข่าว จนทราบว่า นายพงษ์ อายุ 16 ปี มีพฤติการณ์จำหน่ายอาวุธปืนให้กับวัยรุ่นในพื้นที่พระประแดงอยู่บ่อยครั้ง จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอหมายค้นบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ทรงคนอง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ พบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง โดยนายพงษ์ ยอมรับว่า ได้ขายอาวุธปืนให้แก่กลุ่มวัยรุ่น และเครื่องกระสุนอีกจำนวนหลายขนาด ให้กลับกลุ่มวัยรุ่นโดยประกาศขายในโลกโซเชียล และมีคนเข้ามาซื้อกันจำนวนมาก ส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.พระประแดง ดำเนินคดีตามกฎหมาย
คดีที่สามเป็นการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญจำนวน 2 รายพร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 12,860 เม็ดประกอบด้วย นายพีระ หรืออั้น ยาสาไซย อายุ 30 ปี และ น.ส.ทัศนาวลัย แป้นจั่น อายุ 30 ปี พฤติการณ์ ด้วยศูนย์อำนวยการปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ได้มีคำสั่งระดมกวาดล้างอาชญากรรมด้านยาเสพติด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดของ สภ.พระประแดง ได้สืบสวนหาข่าวและได้รับแจ้งจากสายลับ ว่านายพีระ และน.ส.ทัศนาวลัย สองสามีภรยา มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดประเภทยาบ้าและยาไอซ์ ในพื้นประแดงโดยมีการประกาศขายผ่านเฟสบุ๊ค ชื่อ น.ส.ทัศนาวลัย หรือมด ฯเจ้าหน้าที่จึงวางแผนเข้าจับกุมตัวเอาไว้ได้พร้อมของกลางทั้งหมด เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันจำหน่ายโดยมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ยาบ้า โดยไม่ได้รับอนุญาต และพยายามจำหน่าย ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยไม่ได้รับอนุญาตพร้อมด้วยของกลางยาบ้าของกลางทั้งหมด จำนวน 12,860 เม็ด ดังกล่าว
