เก๋งซิ่งชนท้ายจักรยานยนต์ก่อนเสียหลักชนราวสะพานและหมุนไปชนรถเสียหายอีก 3 คันบาดเจ็บ 6 รายเหตุเกิดบนถนนเทพารักษ์ กม.8 ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
เมื่อเวลา 20.30 น วันที่ 5 สิงหาคม 2565 ร.ต.อ.นิพนธ์ คงพูล รองสารวัตรสอบสวน สภ สำโรงเหนือ สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเสียหลักชนราวสะพานข้ามคลอง ก่อนแฉลบไปชนรถที่ขับอยู่ด้านข้างเสียหาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ที่บริเวณถนนเทพารักษ์ หลังกิโลเมตรที่ 8 ขามุ่งหน้าบางพลี ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินทางเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ ฮอนด้า แอคคอร์ด สีขาว ทะเบียน 9 กล 5965 กทม. จอดอยู่ในสภาพพังยับเยิน ตัวถังรถด้านคนขับฉีกขาดถึงด้านหลัง หลังจากพุ่งชนราวสะพานข้ามคลอง อย่างรุนแรง จนทำให้รถคันดังกล่าวเสียหาย และ หมุนไปชนกับ รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ ฮอนด้า ซิตี้ สีขาว ทะเบียน 1 กธ 486 กทม. ที่ขับอยู่ด้านหน้า จนพุ่งขึ้นไปบนฟุตบาทชนติดอยู่กับกองแผ่นปูน บริเวณหน้าร้านขายวัสดุก่อสร้างได้รับความเสียหาย ทำให้ผู้ขับขี่ และ ผู้โดยสาร รถยนต์ทั้ง 2 คัน ได้รับบาดเจ็บรวม 5 ราย และ ในที่เกิดเหตุยังพบรถจักรยานยนต์ ยีห้อ ฮอนด้า ฟอซ่า สีเทา ทะเบียน 4 ขจ 5995 กทม. ซึ่งถูกรถคันดังกล่าวเฉี่ยวชนท้าย ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 ราย ทำให้รถติดบนถนนเทพารักษ์ยาวหลายกิโลเมตร
จากการสอบถามผู้ที่โดยสารมากับรถคันดังกล่าว ได้เล่าว่า ตนนั่งมากับเพื่อนรวม 3 คน เพื่อนที่เป็นคนขับได้ขับรถตรงมาตามถนนเทพารักษ์ มุ่งหน้าบางพลี โดยใช้เลนกลางก่อนจะเปลี่ยนเป็นเลนขวา จนมาถึงที่เกิดเหตุ มีรถจักรยานยนต์ ฟอซ่า ขี่ออกมา เพื่อนตนจึงหักหลบไปชนราวสะพานอย่างจัง หลังจากนั้นตนเองก็จำอะไรไม่ได้ ส่วนคนขับรถเก๋ง ซิตี้ เล่าว่า ตนเองเห็นจากกระจกด้านข้าง ตอนที่รถคันดังกล่าวเสียหลักราวสะพานแล้วพุ่งมาชนรถของตน โดยที่ตนขับรถมาในเลนกลางตามปกติ จนรถตนเองหมุนขึ้นไปบนฟุตบาทชนเข้ากับกองแผ่นปูนดังกล่าว
ด้านผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า ฟอซ่า เล่าว่า ตนก็ขี่รถตามปกติ เปิดไฟเลี้ยวก่อนออก จังหวะออกรถนั้น รถยนต์คันดังกล่าวไม่รู้มาจากไหน ชนท้ายรถตนก่อนที่รถยนต์คันดังกล่าวจะเสียหลักไปชนราวสะพาน และ หมุนไปชนกับรถยนต์อีกคัน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวผู้ขับขี่รถทั้ง 3 คัน และผู้เกี่ยวข้องมาสอบสวน หลังจากรักษาอาการบาดเจ็บเรียบร้อย พร้อมจะตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่อยู่ในจุดเกิดเหตุ และ บริเวณใกล้เคียง เพื่อหาสาเหตุของอุบัติเหตุที่แท้จริง และ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
