หนุ่มขับกระบะตู้ทึบเมายาบ้าซิ่งแหกด่านชนรถชาวบ้านพังยับเกือบ 10 คัน หนีสุดชีวิตตำรวจไล่ล่าระทึก ตำรวจสำโรงเหนือ ขี่รถจักรยานยนต์สายตรวจไล่ล่าข้ามจังหวัด สุดท้ายไม่รอด
เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 9 สิงหาคม 2565 ขณะที่ ร.ต.อ.พินิจ แก้วบุญเรือง รอง สวป.สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดป้องกันและปราบปราม กำลังตั้งจุดตรวจ จุดสกัดบริเวณท้ายซอยไปรษณีย์ ถนนศรีนครินทร์ ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ได้มีรถยนต์กระบะตู้ทึบ ยี่ห้อ ฮีโน้ สีขาว ทะเบียน 3 ฒท 707 กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีนายณัฐพล อ้นอ่ำ อายุ 46 ปี ซึ่งทราบชื่อภายหลังเป็นคนขับ ซึ่งมีพฤติกรรมต้องสงสัย เจ้าหน้าที่จึงได้ส่งสัญญาณ เพื่อขอตรวจค้นสิ่งของผิดกฎหมาย
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรัง คู่ซี้ พระ-ฆราวาส เมาแอ๋ด่าทอชาวบ้านใกล้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อาละวาดอ้างมีปืน ทำชาวบ้านแตกตื่น ตร.หิ้วปีกบังคับสึก กร่างไม่เลิกบอกรู้จักพระผู้ใหญ่
- ตรัง จัดใหญ่ 12 วัน งานฉลองรัฐธรรมนูญและงานกาชาดจ.ตรัง 4-15 ธ.ค.นี้ รีแบร์นใหม่! ย้อนยุคงานเหลิมแต่แรก แสดงบินโดรนพิธีเปิด วธ.ทุ่ม 3.4 ล้าน…
- ขาดสภาพคล่องขั้นรุนแรง! อธิบดีกรมท่าฯ ร่อนนส.ด่วน! แจ้งบอกเลิกสัญญาทิ้งงานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารสนามบินตรัง 1.2 พันล.แล้ว…
- สูงวัยตรัง ปลื้ม เตรียมตัวรับเงินหมื่น ฝันใช้ยามแก่-ต่อยอดอาชีพบั้นปลาย
แต่ปรากฏว่าผู้ขับขี่ได้เหยียบคันเร่งขับรถแหกด่านหลบหนี และพุ่งชนรถยนต์ของชาวบ้านที่อยู่ด้านหน้าได้รับความเสียหายจำนวนหลายคัน ก่อนที่จะหลบหนีโดยใช้เส้นทางถนนศรีนครินทร์ มุ่งหน้าแยกศรีเทพา และเลี้ยวขวาเข้าถนนเทพารักษ์ ขาเข้านครบาล ก่อนที่จะเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านได้รับความเสียหายอีก 1 คัน และขับรถหลบหนีต่อด้วยความเร็ว และเลี้ยวซ้ายเข้าซอยศรีบุญเรือง 1 มุ่งหน้าซอยอุดมเดช ซึ่งตลอดเส้นทางเป็นซอยแคบ ทำให้รถของผู้ก่อเหตุเกิดการเฉี่ยวชน รถของชาวบ้านอีกหลายคัน ก่อนออกมาเข้าถนนสุขุมวิท และกลับรถช่วงช้างสามเศียร และขึ้นทางด่วนพระราม 2 มุ่งหน้าบางบัวทอง-บางแค มุ่งหน้าจังหวัดปทุมธานี ซึ่งระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไล่ติดตามไปอย่างกระชั้นชิดได้มีการประสานเจ้าหน้าที่ทางหลวงให้ปิดเส้นทางการ แต่ผู้ก่อเหตุยังขับรถหนีด้วยความเร็วไม่ยอมหยุด และพุ่งชนไม้กั้นเก็บค่าผ่านทาง มุ่งหน้าเข้าเขตพระนครศรีอยุธยา โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไล่ติดตามไปอย่างกระชั้นชิด จนสามารถสกัดและหยุดรถของผู้ก่อเหตุเอาไว้ที่บริเวณถนนทางหลวง 3111 หมู่ 3 ต.บ้านม้า อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา กำลังมุ่งหน้าเข้าเสนา เนื่องยางล้อรถผู้ก่อเหตุได้เกิดระเบิดขึ้น จึงทำให้รถไม่สามารถเคลื่อนตัวต่อไปได้ ผู้ก่อเหตุจึงจอดข้างทาง ก่อนที่จะพุ่งตัวออกทางหน้าต่างข้างซ้ายหลบหนี้ลงไปในน้ำ เจ้าหน้าที่จึงกระโดดลงน้ำไล่ติดตามไปอย่างกระชั้นชิดจะสามารถจับกุมตัวเอาไว้ได้ โดยที่ผู้ก่อเหตุได้พยายามถอดกางเกงยีนส์ขายาวทิ้ง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจค้นหาจนพบและจากการตรวจสอบพบว่าในกระเป๋ากางเกงข้างขวา บรรจุอยู่ในถุงพลาสติก กดปิด – ดึงเปิดจำนวน 1 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงได้คุมตัวและตรวจยึดรถยนต์กระบะตู้ทึบคันที่ก่อเหตุ และนำตัวและของกลางกลับมาทำการสอบสวนที่โรงพัก สภ.สำโรงเหนือ
จากการสอบสวนนายณัฐพล ผู้ก่อเหตุ ได้ให้การรับสารภาพว่า ตนเสพยาบ้ามา 1 เม็ด ก่อนที่จะขับรถมาเพื่อขึ้นสินค้า โดยเก็บยาบ้าเอาไว้เสพอีกจำนวน 1 เม็ดโดยเก็บไว้ในรกระเป๋ากางเกง ขณะที่ตนขับรถมาได้พบเห็นด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงแกล้งทำใจดีสู้เสือโดยขับรถเข้าด่านมาแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่เรียกเพื่อขอตรวจค้นในรถ ตนจึงกลัวว่าจะโดนจับ จึงได้รีบเหยียบคันเร่งแหกด่านหนีออกมาและไปเฉี่ยวชนรถชาวบ้านเสียหายอีกหลายคัน
ขณะที่ จ่าสิบตำรวจ อิทธิกร ธีรศรัณยานนท์ ผบ.หมู่ ป้องกันและปราบปราม สภ.สำโรงเหนือ ได้เล่านาทีระทึก ขณะที่ตนต้องขี่รถจักรยานยนต์สายตรวจไล่ล่าติดตามผู้ก่อเหตุไปจนถึงจุดจับกุมกระบะได้ ซึ่งเป็นระยะทางเกือบร้อยกิโลเมตร ข้ามไปจนถึง 5 จังหวัด โดยเจ้าตัวบอกว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่กำลังตั้งจุดตรวจจุดสกัด ได้พบว่ามีรถคันดังกล่าวพุ่งชนแหกด่านเข้ามา จึงตัดสินใจขี่รถจักรยานยนต์สายตรวจไล่ติดตามไปสองคันรถกระบะสายตรวจอีก 1 คัน ไล่ล่าไปจนถึงด่านเก็บเงินพระรามสองปรากฏ ว่ารถจักรยานยนต์ของตนน้ำมันหมดจนต้องจอดรถไว้แล้วขึ้นรถสายตรวจอีกคันไล่ล่าต่อ ซึ่งในใจยังคิดว่าในรถคันดังกล่าวจะต้องมีของผิดกฎหมายหรือยาเสพติดล็อตใหญ่ ทำให้คนขับซิ่งหนีการจับกุมได้ขนาดนี้ จนไล่ล่าไปถึงปลายทางพบว่าคนขับได้พุ่งตัวออกมาทางด้านข้างช่องกระจกพุ่งลงไปในคูน้ำข้างทาง ตำรวจที่ไล่ติดตามจึงตัดสินใจกระโดดน้ำตามจับตัวเอาไว้ได้ โดยทำให้ทรัพย์สินที่ติดตัวตำรวจสายตรวจขณะนั้นไม่ว่าจะโทรศัพท์มือถือ กล้องติดอกของหลวง วิทยุสื่อสารและอื่น ๆ จมน้ำพังเสียหาย แต่พอมาค้นรถและตัวผู้ต้องหากลับพบเพียงยาบ้าเม็ดเดียว ขณะเดียวกันผู้เสียหายหลายรายที่ถูกนายณัฐพล ขับรถเฉี่ยวชน ได้รับความเสียหายเกือบสิบราย ได้พากันเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ เพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจหาสารเสพติดในร่างกายของผู้ก่อเหตุแล้วพบว่ามีสารเสพติดอยู่ในร่างกาย จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า เป็นผู้ขับขี่รถยนต์เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ยาบ้า โดยผิดกฎหมาย และขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ยาบ้า ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ก่อนควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: