แม่ลูกอ่อน ถูกโรงพยาบาลของรัฐ ตามทวงเงินค่าคลอด จำนวน 3 หมื่นบาท แต่ไม่มีให้ เครียดคิดสั้นผูกคอลาโลก ปล่อยสามลูกน้อยเผชิญชะตากรรม
เมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ที่ 29 พฤศจิกายน 2561 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เปร็ง สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีหญิงสาวผูกคอเสียชีวิตภายในพักไม่มีเลขที่ ตำบลเปร็ง อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและมูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางเข้าตรวจสอบภาย
บ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียวหลังเล็ก ๆ ที่ปลูกสร้างแบบง่าย ยกพื้นเล็กน้อย ที่บริเวณกลางบ้านหลังดังกล่าวได้พบร่างของนางสาวน้ำฝน ไม่ทราบนามสกุล อายุประมาณ 30 ปี นอนหงายลิ้นจุกปากอยู่บนพื้น โดยที่ลำคอมีเชือกรัดคาอยู่ ในลักษณะถูกตัดลงมา ส่วนด้านบนเหนือศพบริเวณคานเหล็กของบ้าน พบเชือกไนล่อนผูกติดคานเหล็กโดยมีร่องรอยของการตัดจนขาด จากการตรวจสอบสภาพศพไม่พบร่องรอยหรือบาดแผลการถูกทำร้ายแต่อย่างใด จึงได้มอบศพให้มูลนิธินำส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวช
จากการสอบถามเพื่อนบ้านทราบเพียงว่าผู้ตายมีลูก 3คน คนล่าสุดเพิ่งคลอดจาก รพ.ของรัฐบาลแห่งหนึ่งได้ไม่กี่เดือน และกลับมาพักฟื้นที่บ้านหลังนี้ ส่วนสามีก็ทำงานรับจ้างได้ค่าแรงบ้างไม่ได้บ้าง ทำให้ที่ผ่านมาทั้งสองมักมีปากเสียงกันบ่อยครั้งเรื่องไม่มีเงินซื้อนมให้ลูกๆกิน จนสามีต้องออกจากบ้านไปทำงานและหากู้เงินมาซื้อนมให้ลูกๆ หนักสุด ผู้ตายเคยบ่นว่าถูกโรงพยาบาลที่ไปคลอดลูกมาทวงเงินค่าคลอดจำนวน 3 หมื่นบาท แต่ผู้ตายไม่มีเงินจ่าย จนเกิดความเครียดไม่รู้จะหาหยิบยืมใคร เพื่อนบ้านก็ได้แต่ปลอบใจจนกระทั่งมาได้ยินเสียงเด็ก ๆ ร้องอยู่ในบ้านนานผิดสังเกต จึงเปิดประตูเข้าไปดูพบว่าผู้ตายใช้เชือกผูกคอกับคอบ้านเสียชีวิต จึงตัดเชือกลงมาหวังช่วยชีวิตแต่ไม่ทัน ท่ามกลางเสียงร้องหาแม่ของลูก ๆทั้ง 3 คน
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่เบื้องต้นยังไม่พบเอกสารใด ๆ ของผู้ตายซึ่งคาดว่าผู้ตายอาจจะเกิดความเครียดที่ไม่มีเงินจ่ายค่าคลอดลูกให้โรงพยาบาลดังกล่าว จึงใช้เชือกผูกคอตัวเองตาย ปล่อยลูกน้อยทั้งสามเผชิญชะตากรรมตามลำพัง อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
