บิณฑ์ บันลือฤทธิ์ นำทีมงานมูลนิธิร่วมกตัญญูทำกับข้าว พร้อมจัดเตรียมถุงยังชีพ และน้ำดื่ม เข้าช่วยบรรเทาทุกข์ให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมขัง กว่า 400 ครัวเรือน ภายในหมู่บ้านแสงตะวัน หมู่ 4 ตำบลบางเพรียง อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ
จากกรณีที่มีฝนถล่มในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอบางบ่อ และ อำเภอบางเสาธง อำเภอบางพลี ทำให้หลายหมู่บ้านน้ำท่วมสูง จนทรัพย์สินภายในบ้าน รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ซึ่งที่ผ่านมาหลังเกิดน้ำท่วม หลายหน่วยงานในพื้นที่ ได้ลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือชาวบ้าน โดยบ้างหมู่บ้านที่ถูกน้ำท่วมได้เริ่มลดระดับลงจนเข้าสู่สภาวะปกติ แต่ยังมีอีกหลายหมู่บ้านที่ยังมีน้ำท่วมขังอยู่
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 12 กันยายน 2565 ที่มูลนิธิร่วมกตัญญู อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ผู้จัดการฝ่ายกิจกรรมพิเศษมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้รับการขอความช่วยเหลือ จากเจ้าหน้าที่ อบต.บางเพรียง ให้ช่วยสนับสนุน ข้าวกล่องและน้ำดื่มช่วยเหลือชาวบ้านในหมู่บ้านแสงตะวัน หมู่ 4 ตำบลบางเพรียง อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ เนื่องจากถูกน้ำท่วมขังมาแล้วหลายวันและชาวบ้านต้องการน้ำดื่มและข้าวกล่องเพื่อบรรเทาทุกข์ โดย บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ได้ประสาน ประธานมูลนิธิร่วมกตัญญู และผู้จัดการมูลนิธิ เพื่อเปิดโรงครัว โดย บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ได้ลงมือทำกับข้าวด้วยตัวเอง จำนวน 730 กล่อง และได้จัดเตรียมน้ำดื่ม ขนม เพื่อไปมอบให้กับผู้ประสบภัย
ต่อมาเมื่อเวลา 17.00 น. บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ พร้อมทีมงานมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้นำข้าวปรุงสุกใหม่ที่พึ่งทำ พร้อมน้ำดื่มและขนม เดินทางมายังหมู่บ้านแสงตะวัน พบว่าในชุมชนมีบ้านพักประมาณ 400 ครัวเรือน ระดับน้ำที่ท่วมขังบนถนนในหมู่บ้านสูง 15-40 เซนติเมตร ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถออกไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ เนื่องจากรถเล็กไม่สามารถสัญจรเข้าออกหมู่บ้านได้จะต้องใช้รถยกสูงเท่านั้น โดยชาวบ้านต่างพากันดีใจที่พบว่าทีมงานของมูลนิธิร่วมกตัญญู นำโดย บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ นำข้าว น้ำดื่มและขนม เข้ามาช่วยเหลือในครั้งนี้ ชาวบ้านบางรายถึงกับน้ำตาคลอ โดยชาวบ้านระบุเป็นเสียงเดียวกันว่า ชุมชนแสงตะวันแห่งนี้ ถูกน้ำท่วมขังมาแล้ว 5 วัน จนน้ำเริ่มเน่าเสียเนื่องจากระบายน้ำลงสู่คลองข้างหมู่บ้านไม่ได้ ที่ผ่านมาไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาดูแลช่วยเหลือชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้าน จนเริ่มขาดแคลนอาหารและน้ำดื่ม
บิณฑ์ บันลือฤทธิ์ กล่าวว่า หลังจากได้รับการร้องขอจากชาวบ้านในหมู่บ้านแสงตะวัน ตนและอาสามูลนิธิ จึงรีบลงมือ จัดการอาหารกล่องพร้อมน้ำดื่มและของใช้อีกหลายอย่างลงพื้นที่ ในหมู่บ้านแสงตะวัน โดยวันนี้ ถือได้ว่าหนักกว่าเมื่อวาน วันนี้ได้ลงมือทำข้าวกล่องจำนวน 730 กล่อง และทำมาเผื่อแล้วจำนวน 730 กล่อง โดยร้องขอมาเพียง 400 กล่อง เป็นภารกิจที่ร้องขอมา คิดว่าน่าจะพอ เราก็น่าเห็นใจว่า และคิดว่าน่าจะพอ และตอนแจกถามว่าอยู่กี่คน เราก็แจกตามจำนวนตามที่บอก เช่น อยู่ 7 คนก็แจก 7 กล่อง กลับเป็นว่าตอนแจกอยู่คา 3 คน อีก 4 คนยังไม่กลับมา ที่จริงแล้วเราตั้งใจจะให้คนเฉพาะที่อยู่ ข้าวที่เตรียมมาจะพอดี ประมาณอีก 5 หลังสุดท้ายข้าวหมด เรามีความรู้สึกสงสารคนที่ยังไม่ได้กินข้าวมาก จึงเอาข้าวสาร อาหารแห้งที่มีมาในรถ ออกมาแจกให้จนครบทุกครัวเรือน ซึ่งของเหล่านั้นสามารถดำรงชีพอยู่ได้ โดยนำท่วมมาแล้ว 3-4 วัน แต่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานไหนเลย ตรงนี้น่าจะมีตัวแทนหมู่บ้านร้องขอไปยังหน่วยราชการที่รับผิดชอบ แต่มูลนิธิร่วมกตัญญูเป็นองกรหนึ่งเป็นเอกชนแต่ไม่ได้มองข้ามตรงนี้ไป เพราะมีแจ้งมาเราสามารถช่วยได้ จึงเข้ามาช่วยกันไปก่อนดีกว่า จะมัวแต่รอหน่วยงานที่รับผิดชอบคงไม่ทัน โดยร้องขอมาเราจัดให้ทันที เข้าพื้นที่ทันที จึงทำให้รู้สึกมีกำลังใจขึ้น ว่ายังมีเราเข้าไปช่วยเหลือไม่มีใครทอดทิ้งเขา โดยมีหน่วยงานอกชนที่มอบของมาแจกชาวบ้านที่เดือดร้อนหลายที่ โดยน้ำปีนี้มามากกว่าทุกปี ในหมู่บ้านผมไม่เคยท่วมในหมู่บ้านก็ท่วมหมด แต่เราสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ แต่คนอื่นที่หาเช้า กินค่ำ ที่ต้องออกไปทำงานและกลับมา ยังไม่รู้ว่าที่บ้านเป็นอย่างไรบ้าง หรือบางคนก็ยังออกไปไม่ได้น้ำท่วมสูงมาก น้ำก็ไม่มีดื่ม ข้าวก็ไม่มีกิน ตรงนี้น่าเห็นใจมาก ส่วนตรงที่อื่นที่ร้องขอมาพรุ่งจะรีบดำเนินการให้อย่างเร่งด่วน จะออกไปสำรวจดูก่อนว่ามีอยู่กี่ครอบครัว และจำรวนเท่าไร จะได้จัดเตรียมของไปให้ครบ ตามที่เราสามารถช่วยเหลือเข้าได้ อย่างน้อยเบื้องต้นเข้าไปให้กำลังใจเขาก่อน ไม่ว่าจะเป็นใครก็แล้วแต่ เขาจะได้อุ่นใจไม่ต้องคิดว่าอยู่โดดเดี่ยว เราให้กำลังใจเต็มที่ มูลนิธิร่วมกตัญญู ท่านประธาน มูลนิธิก็สั่งมา ในรอบนี้ บางเสาธงบางพลี บางบ่อ ปีนี้หนักมาก ร่วมกตัญญู เต็มที่ครับ
