หนุ่มเมียนมา วัย 31 ปี เครียด เดินเลียบคลอง ตา ยวง ก่อนจะใช้เคเบิ้ลไทร์รัดคอหน้าทิ่มลงไปในคลองดับ เหตุเกิดภายในซอยสุขสวัสดิ์ 74 หมู่ 3 ตำบลบางจาก อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ
เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 28 กันยายน 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระประแดง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตอยู่ในคลอง ตา ยวง ภายในซอยสุขสวัสดิ์ 74 หมู่ 3 ตำบลบางจาก อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน พร้อมด้วยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเข้าจากปากซอยประมาณ 100 เมตร และเดินเรียบคลอง ตา ยวง ไปอีกประมาณ 20 เมตร พบร่างนายติฮา ทินวัน อายุ 31 ปี ชาวเมียนมาร์ นอนคว่ำ หน้าทิ่มอยู่ในน้ำ เสียชีวิต ที่ลำคอพบเคเบิ้ลไทร์ขนาดใหญ่รัดอยู่ ที่บริเวณด้านหลังต้นคอพบบาดแผลเหวะคาดถูกสัตว์กัดแทะ และที่บริเวณด้านหลังใบหูพบรอยคล้ายถูกกัด ใกล้กันยังพบรองเท้าแตะ สีดำ อยู่บริเวณบนหญ้า
จากการสอบถามนางอิมมี่ อายุ 34 ปี ภรรยาของผู้ตาย เล่าว่า ผู้ตายโดยปกติ ช่วง 3 โมงเย็น จะมาเอาข้าวที่ตน แต่อยู่ๆ ได้หายไปโทรไปก็ไม่รับ ตนเองจึงนั่งวินมอไซค์รับจ้างไปที่ห้อง และไปไขกุญแจดูภายในห้อง ก็พบจดหมาย 1 ฉบับ เขียนเป็นภาษาพม่า โดยแปลออกมาว่า “ขอโทษทุกสิ่ง เราขอฆ่าตัวตาย” ก่อนที่จะมาสามารถว่าผู้ตายเสียชีวิตอยู่ภายในคลอง
ก่อนหน้านี้ แม่ของผู้ตายได้ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตที่ประเทศพม่า แต่ผู้ตายไม่ได้เดินทางไปร่วมงานศพ ตั้งแต่นั้นมา ก็ดูเศร้าหมอง มีความเครียดสะสมตลอดเวลา มีแต่พี่สาวเท่านั้นที่เดินทางไปร่วมงานศพแม่ ที่ประเทศพม่า รวมถึงเวลาของเราทั้งสองคนก็ไม่ค่อยตรงกันเท่าไหร่ เนื่องจากต้องมีการเข้ากะดึกทำให้บ้างครั้งผู้ตายก็มีบ่น น้อยใจบ้าง และก่อนหน้านี้มีคนโทรศัพท์ไปทวงเงิน บอกว่าแฟนของตนยืมเงินไป แต่ตนและแฟนก็ยืนยันว่าไม่ได้ยืม แต่ทางต้นทางที่โทรมาก็ยังยืนยันว่าเป็นเสียงแฟนของตนเอง โดยตนเองและผู้ตายก็ได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ สันนิฐานว่า ผู้เสียชีวิตน่าจะเครียดเลยมาเดินตามคลองมาก่อนจะก่อเหตุฆ่าตัวตายด้วยการใช้สายเคเบิ้ลไทร์รัดคอตัวเองก่อนที่ล้มหน้าทิ่มลงไปในน้ำดังกล่าว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณภายในซอย พร้อมสอบถามเพื่อนร่วมงาน ผู้ที่รู้จักกับผู้ตาย อีกครั้ง และมอบร่างผู้เสียชีวิตให้มูลนิธินำส่งชันสูตรที่สถานบันนิติเวช เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
