แม่วอนตำรวจช่วยนำสองพี่น้องไปบำบัดยาเสพติด หลังจากเมื่อคืนคนพี่ก่อเหตุใช้มีดจี้ลูกวัย 8 เดือนภายในซอยภัทรนิเวศ ตำบลบางเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ โดยหลังจากที่ได้รับทราบจากแม่ของผู้ก่อเหตุ ทาง พ.ต.อ.อาทิตย์ ซิ้มเจริญ ผกก.สภ.สำโรงเหนือ พร้อมชุดสืบสวน ได้ลงพื้นที่ที่เกิดเหตุอีกครั้ง และเชิญตัวน้องชายของผู้ก่อเหตุ มาสอบสวนเพิ่มเติมที่โรงพัก
อ่านข่าว หนุ่มวัย 35 เครียดเมียหนีซดเหล้าย้อมใจ ใช้มีดจับลูกวัย 8 เดือน เป็นตัวประกัน
จากกรณีหนุ่มวัย 35 ปี เครียดภรรยาหนีกลับบ้านต่างจังหวัด ก่อเหตุใช้มีดจับลูกวัย 8 เดือน เป็นตัวประกัน ให้เรียกภรรยากลับมา เจ้าหน้าที่เกลี่ยกล่อมอยู่นานกว่า 1 ชั่วโมง จึงยอมวางมีด เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก จากการตรวจปัสสาวะพบสารเสพติด จึงแจ้งข้อกล่าวหาเสพยาเสพติด เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดเมื่อเวลา 02.30 น. ของ วันที่ 12 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา เหตุเกิดในลานจอดรถหอพักแห่งหนึ่ง ภายในซอยภัทรนิเวศ ตำบลบางเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ
ข่าวน่าสนใจ:
- คึกคักกว่าทุกปีสุดยอดงานสืบสานประเพณีตีคลีไฟหนึ่งเดียวในโลก!
- รับสมัครนายกและสมาชิกสภา อบจ.พังงา วันแรกคึกคัก คนหน้าเดิมกลับมาร่วมชิงชัยนายก 3 คน สมาชิกสภา 72 คน
- เปิดศึกชิงนายก อบจ.ปัตตานี อดีต สส.ท้าชน อดีตนายก อบจ.4 สมัยเดือดตั้งแต่วันแรก (มีคลิป)
- ศึกชิงเก้าอี้ "นายก อบจ." เดือดแน่..ลุ้นใครล้มช้าง 5 สมัย?
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 12 ตุลาคม 2565 ที่ สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ น.ส.ภา (นามสมมุติ) อายุ 51 ปี (แม่ของหนุ่มคนดังกล่าว) ได้เดินทางมาขอเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อมาให้ปากคำเพิ่มเติม โดยที่ น.ส.ภา ได้ขอร้องกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ไปจับตัวลูกชายอีกคน ซึ่งเป็นน้องของผู้ก่อเหตุ เนื่องจากที่ผ่านมาทั้งคู่ได้ติดยาเสพติด จนก่อความเดือนร้อนให้กับตนเอง และ ครอบครัว อีกทั้งเกรงว่าจะมีการทำร้ายร่างกายกันเกิดขึ้นอีก โดยหลังจากที่ได้รับทราบจากแม่ของผู้ก่อเหตุ ทาง พ.ต.อ.อาทิตย์ ซิ้มเจริญ ผกก.สภ.สำโรงเหนือ พร้อมชุดสืบสวน ได้ลงพื้นที่ที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อไปที่บ้านของที่ผู้ก่อเหตุพักอาศัยอยู่ เชิญตัวน้องชายของผู้ก่อเหตุ มาสอบสวนเพิ่มเติมที่โรงพัก ก่อนส่งตัวตรวจสารเสพติดที่โรงพยาบาลอีกครั้ง โดยเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นที่โล่งใจของคนในครอบครัว ที่สองพี่น้องดังกล่าวจะได้เข้าสู่กระบวนการบำบัดยาเสพติดของทางภาครัฐต่อไป
น.ส.ภา เล่าว่า ตอนช่วงเล็กผู้ก่อเหตุก็อยู่กับตนเองที่จังหวัดสมุทรปราการ โดยที่พอโตผู้ก่อเหตุก็ไปอยู่กับคุณปู่ที่จังหวัดหนองคาย ซึ่งผู้ก่อเหตุนั้นเป็นหลานคนแรก จึงถูกตามใจจนเคยตัว จนตนเองไม่รู้ว่าผู้ก่อเหตุนั้นไปติดยาเสพติดตอนไหน โดยที่ตนเองมีความอัดอั้นกับเรื่องยาเสพติดมาก คืนตนเองต่อสู้ และ รักษา ลูกให้กลับมาเป็นปกติให้ได้ แต่มันเกินความสามารถของตนเอง โดยที่ยิงนานวันเข้าก็หนักข้อขึ้นทุกวัน มันทำให้ตนเองรู้สึกว่าในโลกนี้ไม่อยากให้มียาเสพติด ทำให้คำสั่งสอนของเราเขาไม่ได้ยิน แต่สิ่งที่ไม่ดีนั้นอยู่ไกลแค่ไหนเขาจะได้ยิน ชีวิตนี้ของตนเองนั้นถึงไม่เหลืออะไรเลย ตนเองก็พร้อมยอมแลก เพื่อให้ลูกนั้นได้กลับมาเหมือนเดิม แต่ที่สุดแล้วมันก็เป็นจริงไม่ได้ เพราะเราต่อสู้กับยาเสพติดคนเดียวไม่ได้ ตนเองก็เลยอยากหาวิธีป้องกันก่อนที่จะเกิดเหตุรุนแรงกว่านี้ โดยที่ลูกของตนเองติดยาเสพติดทั้งคู่ โดยหลังจากลูกทั้ง 2 คน เข้าวัยรุ่น ตนเองก็เสียลูกทั้ง 2 ไปให้กับยาเสพติด โดยที่ผ่านมา ตนเองต่อสู้เพื่อเอาลูกของตนเองกลับคืนมาตลอด
ตนก็อยากฝากถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง ตนอยากให้ยาเสพติดมันหายไปหมด เพราะมันร้ายแรงมาก ถ้าใครช่วยได้ ถ้าใครทำได้ ตนก็ขอร้อง ขอร้อง ว่าให้ช่วยทำให้มันหายไปจากประเทศไทย คือความสูญเสียที่เกิดขึ้น แค่คิดมันก็สูญเสียเยอะ เยอะ มาก ๆ เหมือนกับตนตอนนี้อายุ 50 กว่าแล้ว ก็เหมือนตายทั้งเป็นที่มีลูกแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่ ตนก็ทุ่มเทการสั่งสอน ทุ่มเทการเลี้ยงดู ทุกอย่าง แต่ว่าก็ตนไม่ประสบความสำเร็จเรื่องลูก ทั้งที่พ่อเขาไม่เคยกินเหล้า ไม่เคยมีเพื่อน ไม่เคยพาเพื่อนเข้าบ้าน พ่อเขาจะเป็นคนที่ทำกินอย่างเดียวเลย จะอยู่กับแต่ครอบครัว จะอยู่กับแต่ลูก
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: