หนุ่มพลเมืองดีเก็บเงินได้บนแท็กซี่ มอบให้คนขับแท็กซี่ส่งคืนเจ้าของ ระหว่างนั้นตนเองได้ถ่ายคลิปวีดีโอไว้เพื่อเป็นหลักฐานและโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวเพื่อตามหาเจ้าของอีกทาง แต่เมื่อเวลาผ่านไปกลับพบว่าคนขับแท็กซี่ไม่ได้นำเงินจำนวนดังกล่าวไปส่งคืนให้กับเจ้าของตัวจริงแต่กลับให้เพื่อนสวมรอยมารับเงิน
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 31 ตุลาคม 2565 ที่ สภ.เมือง สมุทรปราการ นายมนต์ชัย บุพพัณชาตินานนท์ อายุ 43 ปี ได้เดินทางมา เพื่อขอลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ภายหลังจากตนเองพบเงินกว่า 7 หมื่นบาท ถูกลืมไว้ บนรถแท็กซี่ก่อนที่จะส่งเงินทั้งหมดให้กับคนขับแท็กซี่เพื่อให้นำไปส่งคืนให้กับเจ้าของ แต่เมื่อเวลาผ่านไปกลับพบว่าคนขับแท็กซี่ไม่ได้นำเงินจำนวนดังกล่าวไปส่งคืนให้กับเจ้าของตัวจริงแต่กลับให้เพื่อนสาวมาสวมรอยเป็นเจ้าของเงิน
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรัง ทดลองล้อมคอกหญ้าทะเล เร่งหาทางออกฟื้นฟูหญ้าทะเล ภาระกิจด่วนทำแข่งกับเวลาที่เหลืออยู่กับความอยู่รอดของพะยูน
- เพลิงไหม้โกดังกระดาษทิชชู่หวิดวอด โชคดีควบคุมเพลิงไว้ได้ทันก่อนลุกลามทั้งโกดัง
- ตร.ตรังเข้ม ปราบอาชญากรรม จับอาวุธปืน-รถซิ่ง-ท่อแต่ง ของกลางเพียบ ผู้การตรังลงมือขับแบ็คโฮนำทำลายด้วยตัวเอง
- ตรัง อึ้ง!! เด็ก-เยาวชนหลุดออกนอกระบบการศึกษากว่า 6 พันคน ศึกษาธิการตรังสั่งรวบรวม-วิเคราะห์ข้อมูล รับนโยบาย Thailand zero dropout
นายมนต์ชัย กล่าวว่า เมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 30 ตุลาคม ตนเองได้เรียกแท็กซี่ผ่านระบบแอปพลิเคชัน เพื่อให้มารับที่บ้านย่านซอยเปรมฤทัย ถนนเทพารักษ์ อ.เมือง สมุทรปราการ ไปส่งที่แยกการไฟฟ้า ถนนศรีนครินทร์ อ.เมือง สมุทรปราการ ต่อมาหลังจากตนเองขึ้นไปบนรถ ก็พบกระเป๋าสตางค์แบบซิบวางอยู่เบาะหลัง จึงหยิบมาเปิดดูจนพบว่ามีธนบัตร ชนิด 1 พันจำนวนมาก นับได้ราว 7 หมื่นบาท อยู่ในกระเป๋า จึงได้สอบถามคนขับแท็กซี่ จนได้ข้อมูลว่ากระเป๋าดังกล่าว น่าจะเป็นของผู้โดยสารคนก่อนหน้านี้ กระทั่งมาถึงปลายทางตนเองจึงให้เงินทั้งหมดที่พบกับคนขับแท็กซี่เพื่อให้ตามหาเจ้าของ เนื่องจากคนขับแท็กซี่บอกว่ามีข้อมูลของผู้โดยสารคนดังกล่าวอยู่เนื่องจาก ได้เรียกใช้บริการผ่านระบบแอปพลิเคชันแกร็บมา ก่อนที่ตนส่งมอบเงินทั้งหมดให้คนขับแท็กซี่เนื่องจากหวังดีว่า หากคนขับแท็กซี่เอาไปคืนเอง อาจจะได้ติ๊บจากเจ้าของเงินด้วย ระหว่างนั้นตนเองจึงได้ถ่ายคลิปวีดีโอไว้เพื่อเป็นหลักฐานและโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวเพื่อตามหาเจ้าของอีกทาง จนถูกกระแสตีกลับว่าตนเองสร้างคอนเทนต์
จนเวลาผ่านไปตนจึงโทรไปสอบความคืบหน้า จากคอลเซนเตอร์ แอปพลิเคชัน จนทราบว่า ทางคนขับแจ้งทางศูนย์มาว่า ได้คืนเงินกับเจ้าของแล้วในช่วง 09.00 น. ตนเองจึงได้ขอเบอร์โทรของหญิงสาว ที่อ้างว่าเป็นเจ้าของเพื่อสอบถามข้อมูล จนกระทั่งหญิงสาวคนดังกล่าว บอกว่าจะไปรับเงินคืนในช่วงเย็น ซึ่งขัดแย้งกับข้อมูลของคนขับแท็กที่ได้แจ้งไว้กับตน ทั้งนี้เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นเจ้าของเงินจริงๆ ตนเองจึงอยากให้มีการส่งมอบเงินกันต่อหน้าตำรวจจะดีกว่า แต่ทางหญิงสาวคนดังกล่าวบอกไม่สะดวก กระทั่งคนขับแท็กซี่โทรมาหาตน และแจ้งว่าหญิงคนดังกล่าวเป็นเพื่อนไม่ใช่เจ้าของเงินจริงๆ และยังให้ตนเองโกหกกับศูนย์ว่าคนขับได้มอบเงินคืนเจ้าของไปแล้ว แต่ตนเองไม่ยอมเล่นด้วย ก่อนที่จะเดินทางมาที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ว่าตนเองไม่รู้เห็นกับเรื่องดังกล่าวและมีการมอบเงินให้กับคนขับแท็กซี่ไปแล้ว
ต่อมาระหว่างที่นายมนต์ชัย กำลังลงบันทึกประจำวัน อยู่ ที่ สภ.เมือง สมุทรปราการ คนขับแท็กซี่ได้ติดต่อเข้ามาทางโทรศัพท์ว่า ได้นำเงินทั้งหมด ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.สำโรงเหนือ และได้มอบเงินให้กับตำรวจเพื่อตามหาเจ้าของแล้ว และอยู่ระหว่างกำลังจะเดินทางมาพบนายมนต์ชัย ที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ กระทั่งนายมนต์ชัย รออยู่นานกว่าชั่วโมงก็ไม่พบคนขับแท็กซี่มาตามนัด จึงได้ติดต่อไปอีกครั้งจนคนขับอ้างว่า อยู่บนสะพานภูมิพลทั้งที่จาก สภ.สำโรงเหนือ มาที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ ใช้เวลาไม่น่าเกินครึ่งชั่วโมง ขณะเดียวกันยังทราบว่า เงินจำนวนดังกล่าวคนขับ ยังเก็บไว้กับตัว เนื่องจากอ้างว่าตำรวจไม่เก็บเงินไว้ ซึ่งนายมนต์ชัย เห็นว่า ถ้าคนขับแท็กซี่มีเจตนาดีที่จะตามหาเจ้าของจริงๆ คงไปแจ้งความตั้งแต่วันแรกแล้ว คงไม่ให้คนอื่นมาสวมรอยเป็นเจ้าของเงิน อย่างไรก็ตามจากการสอบถามข้อมูล ที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ ยังไม่พบข้อมูลว่ามีคนมาแจ้งเงินหายไว้ ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าอาจจะไปแจ้งที่อื่น ตนเองจึงอยาก ประชาสัมพันธ์ ให้ได้ทราบว่า เงินทั้งหมดยังอยู่กับคนขับแท็กซี่ และทั้งหมดตนเองไม่ได้สร้างคอนเทนต์แต่อย่างใด
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: