จากกรณีหนุ่มพลเมืองดีเก็บเงินได้บนแท็กซี่ ก่อนมอบให้คนขับแท็กซี่ส่งคืนเจ้าของ แต่กลับให้เพื่อนสวมรอยรับเงิน หลังจากพลเมืองดีลงบันทึกประจำวัน คนขับแท็กซี่ได้โทรมาแจ้งว่า ได้นำเงินมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสำโรงแล้ว ล่าสุดผู้สื่อข่าวเดินทางสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.สำโรงเหนือ พบว่าโชเฟอร์แท็กซี่ได้นำเงินมามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหาเจ้าของเงิน ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว
อ่านข่าว หนุ่มพลเมืองดีเก็บเงินได้บนแท็กซี่ มอบให้คนขับแท็กซี่ส่งคืน แต่กลับให้เพื่อนสวมรอยมารับเงิน
จากกรณี หนุ่มพลเมืองดีเก็บเงินได้บนแท็กซี่ ก่อนมอบให้คนขับแท็กซี่ส่งคืนเจ้าของ ระหว่างนั้นได้ถ่ายคลิปวีดีโอไว้เพื่อเป็นหลักฐาน และ โพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อตามหาเจ้าของอีกทาง แต่เมื่อเวลาผ่านไปกลับพบว่าคนขับแท็กซี่ไม่ได้นำเงินจำนวนดังกล่าวไปส่งคืนให้กับเจ้าของตัวจริงแต่กลับให้เพื่อนสวมรอยมารับเงิน จึงเดินทางมา สภ.เมือง สมุทรปราการ เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน โดยคนขับแท็กซี่ได้ติดต่อเข้ามาทางโทรศัพท์ว่า ได้นำเงินทั้งหมด ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.สำโรงเหนือ และ ได้มอบเงินให้กับตำรวจเพื่อตามหาเจ้าของแล้ว
ล่าสุดเมื่อเวลา 11.30 น วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ พบกับ พ.ต.ท.สุทิน พุ่มพวง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.สำโรงเหนือ เพื่อถามถึงกรณีที่คนขับแท็กซี่ได้มาแจ้งความ และ นำเงินทั้งหมดมามอบให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบ นายสมศักดิ์ นักพรรษา อายุ 48 ปี คนขับแท็กซี่คันดังกล่าวได้มาแจ้งความลงบันทึก และ ได้มอบกระเป๋าถือสีเขียวขี้ม้า ซึ่งภายในมีแบงค์พัน จำนวน 75 ใบ รวมเป็น 75,000 บาท จริง
พ.ต.ท.สุทิน พุ่มพวง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.สำโรงเหนือ กล่าวว่า เมื่อวาน ประมาณ 17.46 น. นายสมศักดิ์ คนขับแท็กซี่ ได้นำเงินจำนวน 75,000 บาท มาแจ้งว่ามีผู้โดยสารลืมไว้ ทางตำรวจก็ประสาน จส.100 เพื่อให้ติดตามหาว่าใครเป็นเจ้าของ พร้อมให้เบอร์โทรของ ทะเบียนรถ และชื่อ ของคนขับแท็กซี่ไป เพื่อจะได้ช่วยกันตามหา เบื้องต้นเงินถูกใส่กระเป๋าถือใบสีเขียว จากการสอบสวนของร้อยเวร เบื้องต้นคนขับแท็กซี่ไม่ได้มีเจตนาที่จะเก็บไว้กับตัว เขาก็เอามาเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และ ที่เราให้เขาถือเงินไว้ก่อนตอนแรกเพราะว่า เผื่อทางเจ้าของเงินติดต่อมาจะได้สะดวกในการติดตาม แต่พอมีข่าวออกไป ปุ๊บ เราก็โทรประสานคนขับแท็กซี่ ซึ่งคนขับแท็กซี่ก็รีบนำเงินกลับมาให้ที่โรงพัก ในการตามหาเจ้าของเงิน ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนไปดูกล้องแต่ละจุด ที่แท็กซี่ รับผู้โดยสารมา เพื่อจะได้หาตัวเจ้าของเงินที่แท้จริง เพื่อจะได้มอบคืน
