พบแล้วอาวุธปืนสงครามแก๊งต้นรั่ว 3 กระบอก ที่ใช้ก่อเหตุยิงหนุ่มวัย 32 ปี เสียชีวิต ภายในซอยโรงงานพลาสติก หมู่ 19 ตำบลบางหญ้าแพรก อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ หลังผู้ต้องหายอมปริปากที่ซ่อน ตะลึงยังมีกระสุนคารังเพลิง M16
อ่านข่าว ผบช.ภ.1 ลงพื้นที่ตรวจที่เกิดเหตุชายถูกยิงด้วยอาวุธสงคราม พร้อมสั่งการเร่งไล่ล่าผู้ก่อเหตุ
อ่านข่าว ลงพื้นที่กดดันผู้ก่อเหตุยิงถล่มด้วยอาวุธสงคราม พบยาบ้าเกือบ 2 หมื่นเม็ด ตำรวจรู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุแล้ว
อ่านข่าว พ่อแม่เหยื่อถูกยิงถล่มด้วยอาวุธสงครามนิมนต์พระทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ ด้านตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ
อ่านข่าว ผบช.ภ. 1 ลงพื้นที่บ้านผู้ก่อเหตุยิงถล่มคู่อริด้วยอาวุธสงคราม พร้อมยึดรถ 3 คัน ส่วนผู้ก่อเหตุกำลังเร่งล่าตัว
อ่านข่าว รวบแล้วสองโจ๋มือปืนสงครามยิงถล่มคู่อริดับ ย่านสำโรงใต้
จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนชุดเฉพาะกิจไล่ล่าผู้ต้องหาแก๊งต้นรั่วใช้อาวุธสงครามยิงถล่ม นายธนภูมิ (หรือภูมิ) คงเกิด อายุ 32 ปี เสียชีวิต จนสามารถตามจับกุม นายเทียนชัย(หรือออม) สุขเลิศสิน อายุ 22 ปี และนายวรฉัตร(หรือใหม่) วรสูตร อายุ 21 ปี สองมือปืนในแก๊งนี้ได้สำเร็จตามที่นำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ จากนั้นมีการคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองมาสอบปากคำเพื่อขยายผลติดตามอาวุธปนที่ใช้ก่อเหตุเนื่องจากตำรวจมั่นใจว่าปืนสงครามดังกล่าวยังถูกซ่อนอยู่ในพื้นที่
ล่าสุดเมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 3 พฤษจิกายน 2565 พ.ต.อ.ภูริส จินตรานันท์ ผู้กำกับสืบจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วย พ.ต.อ.จักรพงษ์ นุชผดุง ผกก.สภ.สำโรงใต้ นำกำลังฝ่ายสืบสวน ไปตรวจค้นทางเท้าในชุมชนสะพานเขียว ตำบลบางหญ้าแพรก อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุยิงถล่มประมาณ 1 กิโลเมตร ภายหลังจากที่ผู้ต้องหาทั้งสองเปิดปากรับสารภาพว่าได้นำอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุไปซุกซ่อนใต้ทางเท้าดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจค้นพบกระสอบสีขาวบรรจุถุงดำภายในพบอาวุธปืนที่ผู้ต้องหาใช้ก่อเหตุ โดยพบปืน M-16 จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน จำนวน 4 นัด ที่ถูกบรรจุคาแม็กกาซีน จำนวน 2 แม๊ก และยังพบเครื่องกระสุนคารังเพลิงอีก 1 นัด นอกจากนั้นยังพบปืน AK-47 (อาก้า) พร้อมกระสุนบรรจุ จำนวน 15 นัด ในแม็กกาซีน และปืนทอมสัน ขนาด 11 มม. พร้อมแม็กกาซีน ไม่มีเครื่องกระสุน อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ตำรวจจึงทำการเคลียร์อาวุธปืนและเครื่องกระสุนทั้งหมดก่อนจะนำกลับมาที่ สภ.สำโรงใต้
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้นำปืนทั้งหมดมาให้ผู้ต้องหาทั้งสองชี้ยืนยันว่าเป็นปืนที่ใช้ก่อเหตุหรือไม่ ซึ่งผู้ต้องหายืนยันว่าเป็นปืนกระบอกเดียวกันกับที่ใช้ในการก่อเหตุจริง ก่อนที่จะคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองไปสอบขยายผู้ร่วมขบวนการ เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดี
