หนุ่มใหญ่หึงโหดควงมีดอีโต้ ความยาวประมาณเกือบ 1 เมตรฟันคอ ชายที่คิดว่าเป็นชู้ ดับ ก่อนฟันหัวเมียบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดภายในหมู่บ้านสยามพัฒนา ซอยสยามพานา 25 ซึ่งหลังเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุได้กลับเข้าบ้านตนเองเพื่อรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 13 พฤศจิกายน 2565 ร.ต.อ.สมยศ ไกรกิจธนโรจน์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.สำโรงใต้ สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีคนถูกฟันได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ภายในร้านค้า เลขที่ 29/159 หมู่ 7 หมู่บ้านสยามพัฒนา ซอยสยามพานา 25 ตำบลบางหัวเสือ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงรายงาน พ.ต.อ.จักรพงศ์ นุชผดุง ผกก.สภ.สำโรงใต้ พร้อมประสานชุดสืบสวน และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ข่าวน่าสนใจ:
ภายในร้านค้าพบร่างนายบรรจบ แก้วโน อายุ 53 ปี นอนจมกองเลือดเสียชีวิต มีแผลฉีกขาดบริเวณลำคอข้างขวา ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลสำโรงการแพทย์ ไปก่อนหน้าแล้ว ทราบชื่อต่อมา นางเขต บัณฑิต อายุ 52 ปี ถูกฟันที่บริเวณศีรษะ ที่บริเวณต้นไม้ที่ตั้งอยู่หน้าร้าน พบมีดอีโต้ ความยาวประมาณเกือบ 1 เมตร ที่ใบมีดพบคราบเลือดติดอยู่ ส่วน นายบุญเลื่อน เสนาวงษ์ อายุ 61 ปี ซึ่งเป็นผู้กอเหตุ ได้กลับไปที่บ้านเลขที่ 9/29 หมู่ 7 ตำบลบางหัวเสือ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับร้านค้าที่เกิดเหตุ นั่งรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าจึงได้คุมตัวมาสอบสวนที่โรงพัก
จากการสอบถามนายบุญเลื่อน (เสื้อก้ามดำ) ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ตนก็ไม่ได้รู้จักกับคนตาย แต่ตนจับได้ว่าทั้งคนตายกับแฟนตนแอบเป็นชู้กันมาเป็นปีแล้ว ตนขายที่ได้ 5 ไร่ แฟนตนก็เอาเงินไปเลี้ยงผู้ตาย เขานัดกันหลายเที่ยวแล้ว และผู้ตายก็ชอบมาเย้ยถึงหน้าบ้าน ในวันนี้ผู้ตายก็มานั่งที่ร้านค้าตรงข้ามบ้านตน ตนจึงตัดสินใจถือมีดออกไปฟันคนตาย ก่อนที่แฟนตนจะเข้ามาห้ามด้วยความโมโหตนจึงฟันแฟนด้วย ก่อนจะเดินกลับมารอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในบ้าน อยู่ในคุกยังมีศักดิ์ศรีมากกว่ามานอนหงอยให้มันมาเย้ยถึงหน้าบ้านมันเกินไป ตนยอมรับตนตั้งใจฟัน
ด้านนางเพียน โพนทอง อายุ 54 ปี เจ้าของร้านค้าที่เกิดเหตุ เล่าว่า คนตายมานั่งดื่มน้ำขวดอยู่ภายในร้าน จู่ ๆ ผู้ก่อเหตุก็เดินถือมีดเข้ามาฟันคนตาย จนคนเจ็บ ซึ่งเป็นแฟนของผู้ก่อเหตุที่นั่งกินส้มตำอยู่ตรงข้ามร้านต้องวิ่งมาห้ามและพยายามแย่งมีด ก่อนจะโดนผู้ก่อเหตุไล่ฟันจนต้องวิ่งหนีอยู่ในร้าน ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะเดินกลับไปที่บ้าน ตนก็ไม่รู้สาเหตุมาจากอะไร แต่คนตายกับผู้ก่อเหตุไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน และไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
นางเพียน เล่าอีกว่า ผู้ตายมานั่งกินข้าวและน้ำที่ร้านเป็นประจำ ตลอด 20 ปี ส่วนผู้ก่อเหตุพึ่งย้ายมาไม่กี่ปีเอง ซึ่งในวันนี้ผู้ตายมานั่งกินน้ำอยู่ที่ร้าน ส่วนแฟนของผู้ก่อเหตุก็มานั่งกินส้มตำกับเพื่อนอีก 4 คนที่บริเวณหน้าบ้านเขาซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามร้าน ผู้ก่อเหตุน่าระแวงผู้ตายจะเป็นชู้กับแฟน จึงก่อเหตุ
ด้านนายเทพ อายุ 27 ปี ลูกชายของผู้ก่อเหตุ และ ผู้บาดเจ็บ เล่าว่า พ่อ (ผู้ก่อเหตุ) คงคิดไปเองว่า แม่ (ผู้บาดเจ็บ) ไปมีชู้ ซึ่งจากที่ตนเองรู้ แม่ไม่มีนิสัยอย่างนั้น พ่อตนเองคงคิดไปเอง โดยนิสัยของพ่อตนเองเป็นคนขี้หึง
พ.ต.อ.จักรพงศ์ นุชผดุง ผกก.สภ.สำโรงใต้ กล่าวว่า คดีนี่เป็นเหตุที่น่าสนใจ ทางผู้ก่อเหตุอ้างว่าเขามีความหึงหวงกับคนที่เสียงชีวิต ตอนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตเขามาทานข้าวอยู่ที่ร้านค้า ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามบ้านผู้ก่อเหตุ เขาก็เลยเชื่อว่ามาหยามกันตามที่ฟังจากทางฝ่ายผู้ก่อเหตุ จากการสอบถามชาวบ้านรอบข้างก็ไม่ทราบว่าจะเป็นชู้กันหรือเปล่า แต่ว่าทางตัวผู้ก่อเหตุเขาเชื่อของเขา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ก่อนส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: