ลูกสาวและอดีตภรรยานิมนต์พระสงฆ์เดินทางรับร่างและเชิญดวงวิญญาณหนุ่มใหญ่วัย 61 ปี ที่ถูกฟันคอดับ โดยผู้ก่อเหตุ อ้างว่าผู้ตายและแฟนเขาเป็นชู้กัน ด้านตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องหาส่งฝากขังศาลจังหวัดสมุทรปราการ และคัดค้านการประกันตัว
อ่านข่าว หนุ่มใหญ่หึงโหดควงมีดฟันคอ ชายที่คิดว่าเป็นชู้ ดับ ก่อนฟันหัวเมียบาดเจ็บสาหัส
จากกรณีนายบุญเลื่อน เสนาวงษ์ อายุ 61 ปี หึงโหดควงมีดฟันคอ นายบรรจบ แก้วโน อายุ 53 ปี จนเสียชีวิต ขณะนั่งดื่มน้ำอยู่ในร้านค้า ก่อนจะไล่ฟัน นางเขต บัณฑิต อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นแฟนสาวตัวเองจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะเดินกลับไปนั่งรอมอบตัวภายในบ้าน อ้างทั้งสองคนแอบเป็นชู้กัน ชาวบ้านไม่เชื่อและคิดว่านายบุญเลื่อน คิดไปเอง เหตุเกิดภายในร้านค้า เลขที่ 29/159 หมู่ 7 หมู่บ้านสยามพัฒนา ซอยสยามพานา 25 ตำบลบางหัวเสือ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 13 พฤศจิกายน 2565
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 น.ส.สุดารัตน์ แก้วโน อายุ 27 ปี (ลูกสาว) และน.ส.จันทรา ขาวทอง อายุ 49 ปี (อดีตภรรยา) ได้นิมนต์พระสงฆ์เดินทางไปรับร่างนาย บรรจบ แก้วโน อายุ 53 ปี ที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ แล้วเดินทางไปทำพิธีเชิญวิญญาณที่เกิดเหตุ ก่อนนำร่างมาสวดบำเพ็ญกุศลทางศาสนา ที่ วัดกลางสวน ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เป็นเวลา 3 คืน โดยจะทำการฌาปนกิจในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 เวลา 16.00 น.
นางสาว สุดารัตน์ ลูกสาวของผู้ตาย เล่าว่า ตนรู้สึกตกใจกับเหตุที่เกิดขึ้น เพราะค่อนข้างรุนแรง โดยตนเพิ่งหายป่วยจากโควิด-19 ซึ่งพ่อก็ได้ไปเยี่ยมตนในวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา ตนไม่คาดคิดว่าวันนั้นจะเป็นการกินข้าวกันครั้งสุดท้าย ตนยืนยันได้ว่าพ่อของตนไม่ได้เป็นชู้กับใครและไม่ได้คบหากับผู้หญิงคนไหน เพราะตนกับพ่อพูดคุยกันอยู่ตลอด ซึ่งตนก็เคยถามพ่อ แต่พ่อบอกว่าไม่ได้คบหากับผู้หญิงคนไหน ตนไม่เข้าใจว่าทำไมผู้ก่อเหตุจึงอ้างว่าพ่อของตนเป็นชู้กับภรรยาของผู้ก่อเหตุ ทั้ง ๆ ที่ชาวบ้านรวมถึงลูกชายของผู้ก่อเหตุ ก็ยืนยันว่าพ่อของตนไม่ได้สุงสิงยุ่งเกี่ยวกับใคร ในวันนี้ตนได้เดินทางไปให้ปากคำที่ สภ.สำโรงใต้ โดยได้พบกับผู้ก่อเหตุ ซึ่งไม่มีทีท่าสลด อีกทั้งผู้ก่อเหตุยังบอกกับตนว่า “สมควรแล้ว” ตนจะไม่ขอยกโทษให้ผู้ก่อเหตุเป็นอันขาด โดยตนขอโทษพ่อที่ตนดูแลพ่อไม่ดี จนวันที่จากลากัน
นางสาวจันทรา อดีตภรรยาของผู้ตาย เล่าว่า ตนกับสามีแยกทางกันมา 18 ปีแล้ว ด้วยสาเหตุที่ว่าทำงานห่างไกลกันเกินไป แต่ตลอดระยะเวลาที่แยกทางกันก็ติดต่อพูดคุยกันตลอด มีปัญหาอะไรก็จะช่วยเหลือกันตลอด ซึ่งลักษณะนิสัยของผู้ตายเป็นคนดี ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ และไม่เคยเจ้าชู้ หลังจากทราบข่าวก็ตกใจมาก ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ เพราะพึ่งคุยติดต่อกันไม่นานมานี่เอง ถึงแม้จะเลิกกันไปแล้ว ความผูกพันก็ยังคงไม่เคยเปลี่ยน เพราะฉะนั้นเป็นไปไม่ได้ว่าผู้ตายจะไปเป็นชู้กับเมียผู้ก่อเหตุ
ด้านนายณัฐวุฒิ ลิมประศิลป์ อายุ 49 ปี นายจ้างของผู้ตาย เล่าว่า ผู้ตายเป็นคนดี ขยันทำงาน ตนยืนยันได้ว่าผู้ตายไม่มีเรื่องชู้สาวภายในที่ทำงาน อีกทั้งทุกคนที่ร่วมงานยังรักใคร่ผู้ตาย ทั้งนี้ ผู้ตายมีกิจวัตรประจำวันคือทำงานตั้งแต่เช้า และเดินไปกินข้าวที่ร้านขายของชำที่เกิดเหตุ เมื่อกินหรือซื้อของเสร็จ ก็จะเดินกลับที่พักในทันที อีกทั้งที่ผู้ก่อเหตุอ้างว่าระแคะระคายว่าผู้ตายสนิทกับภรรยาของผู้ก่อเหตุตั้งแต่ต้นปี ตนขอแย้งว่าผู้ตายป่วยโควิด ทำให้ต้องเก็บตัวอยู่ในห้องพักอยู่ตลอด จึงไม่มีทางเป็นไปได้ตามที่ผู้ก่อเหตุกล่าวอ้าง ตนรับไม่ได้กับการกระทำของผู้ก่อเหตุ ทำไมผู้ก่อเหตุไม่ถามผู้ตายดี ๆ แต่ลงมือฟันคอจากด้านหลังทันที คนต้องมีเหตุผลไม่ใช่นึกจะฟันใครก็ฟัน ตนอยากบอกผู้ตายว่าเศร้าใจที่ต้องจากกันในสภาพที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น ตนทำใจไม่ทัน
ทางด้าน พ.ต.อ.จักรพงศ์ นุชผดุง ผกก.สภ.สำโรงใต้ กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้จะนำตัวนาย บุญเลื่อน เสนาวงษ์ อายุ 61 ปี ผู้ต้องหาส่งฝากขังศาลจังหวัดสมุทรปราการ และทางด้านพนักงานสอบสวน สภ.สำโรงใต้ ได้คัดค้านการประกันตัว
