X

ดับแล้ว ไฟไหม้โรงงานรองเท้า หลังใช้เวลาดับไฟยาวนานกว่า 27 ชั่วโมง

ไฟไหม้โรงงานผลิตรองเท้าริมถนนเทพรัตน ขาออก หลักกิโลเมตรที่ 15 ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ล่าสุดดับแล้ว หลังใช้เวลาดับไฟยาวนานกว่า 27 ชั่วโมง ในวันพรุ่งนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นโยธา กองพิสูจน์หลักฐาน จะร่วมกันเข้าตรวจสอบอาคารและจุดต้นเพลิงเพื่อหาสาเหตุของเพลิงไหม้

อ่านข่าว ไฟไหม้โรงงานรองเท้าย่านบางพลี
อ่านข่าว เพลิงยังปะทุในตัวอาคาร ด้านเจ้าหน้าที่ปิดกั้นการจราจรหน้าโรงงานหวั่นอาคารพังถล่ม
อ่านข่าว หลายหน่วยงานลงพื้นที่โรงงานรองเท้าที่เกิดไฟไหม้ แต่ยังไม่สามารถเข้าไปภายในตัวอาคารได้

จากกรณีเหตุไฟไหม้โรงงานผลิตรองเท้าริมถนนเทพรัตน ขาออก หลักกิโลเมตรที่ 15 ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 15 พฤศจิกายน 2565

ล่าสุดเมื่อเวลา 20.40 น. วันที่ 16 พฤศจิกายน 2565 นายสมศักดิ์ แก้งเสนา นายอำเภอบางพลี ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ พร้อมด้วยเหล่านักดับเพลิงและอาสาสมัคร พากันออกมาประกาศชัยชนะหลังจากสามารถดับไฟได้อย่างสิ้นเชิง รวมระยะเวลาการดับไฟในโรงงานแห่งนี้ยาวนานกว่า 27 ชั่วโมง ท่ามกลางการลุ้นระทึกของสังคมเกี่ยวกับการหวั่นว่าอาคารจะพังถล่มลงมาในขณะที่นักดับเพลิงเข้าไปด้านใน

นายสมศักดิ์ แก้วเสนา นายอำเภอบางพลี ออกมายืนยันว่า ล่าสุดสามารถดับเพลิงได้ร้อยเปอร์เซ็นแล้ว ซึ่งหลังจากนี้ยังคงมีทีมดับเพลิงจาก อบต.บางโฉลง บางส่วนที่ยังคงเฝ้าระวังในที่เกิดเหตุอยู่ร่วมกับทางบริษัท โดยวันพรุ่งนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นโยธา กองพิสูจน์หลักฐาน จะร่วมกันเข้าตรวจสอบอาคารและจุดต้นเพลิงเพื่อหาสาเหตุของเพลิงไหม้ ก่อนจะมาสรุปผลการตรวจสอบอีกครั้งโดยเฉพาะตัวโครงสร้างของอาคาร ว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อหลังจากนี้ ซึ่งก็จะมีแผนการปฏิบัติในขั้นตอนต่อไป ส่วนการถนนเทพรัตน ในช่องทางคู่ขนานช่วง หลักกิโลเมตรที่ 15-16 ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุยังคงต้องปิดการจราจรรอการยืนยันตัวโครงสร้างอาคารจากผู้เกี่ยวข้องอีกครั้ง จนกว่าจะปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นจากผู้ใช้ทาง ส่วนสาเหตุยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเกิดจากความประมาทหรือเป็นอุบัติเหตุ แต่ในเบื้องต้นทราบว่าโรงงานและอาคารแห่งนี้มีการทำประกันภัยภาคสมัครใจไว้ด้วยเช่นกัน

ด้าน นาย ธนบดี วงศ์สุธี หนึ่งในนักดับเพลิงที่พาตัวเองเสี่ยงภัยมุดเข้าไปในตัวอาคารตั้งแต่เกิดเหตุจนสามารถดับเพลิงได้ เปิดใจว่า ตนเองทำหน้าที่เข้าไปในตัวอาคารโดยขึ้นไปที่ชั้น 5 ของตัวอาคาร เพื่อลากสายน้ำฉีดสกัดเพลิง ยอมรับว่าการทำงานมีทั่งความเสี่ยงและยากลำบาก เนื่องจากตัวอาคารมีการทรุดตัวลงมาโดยเฉพาะโครงสร้างด้านในที่พังลงมาปิดขวางทางเดิน ตนเองต้องตรวจสอบโครงสร้างและพยามเดินแนวของคานและมุดใต้ซากโครงสร้างเพื่อนอนฉีดน้ำสกัดเพลิง จนในที่สุดก็สามารถควบคุมเพลิงได้ต้องขอบคุณทีมเวิร์คทุกทีมทุกนายที่ช่วยกันจนสำเร็จถึงแม้จะต้องใช้เวลายาวนานเช่นนี้

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน