ชายต่างด้าวเมาเพี้ยน ยืนแอบข้างเสาไฟช่วงทางออกถนนเทพรัตน์ แล้วปาก้อนหินใส่รถของมูลนิธิจนได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่มูลนิธิจึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยจับ ขณะที่กำลังจะเข้าจับตัว ชายดังกล่าวได้ปาก้อนหินใส่เจ้าหน้าที่มูลนิธิจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนคุมตัวได้แล้วนำตัวส่งโรกพัก
เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 7 ธันวาคม 2565 พ.ต.ท.ดำรงค์ สุขชูศรี สารวัตรสอบสวน สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่ามีชายต่างด้าวใช้ก้อนหินขนาดใหญ่ปาใส่รถกู้ภัยของมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้รับความเสียหาย บริเวณทางออกถนนเทพรัตน(บางนา-ตราด) ขาเข้า มุ่งหน้ากรุงเทพ ช่องทางคู่ขนาน หลักกิโลเมตรที่ 11 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ้ง และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุ พบชายต่างด้าว สัญชาติกัมพูชา ซึ่งอยู่ในอาการเมา และคุ้มครั่งถือก้อนหิน 2 ก้อนอยู่ในมือ เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้ามูลนิธิร่วมกตัญญูเข้าช่วยกันจับตัว แต่ชายต่างด้าวไม่ยอมให้จับใช้ก้อนหินที่ถืออยู่ขว้างใส่เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูโดนที่กลางหลังได้รับบาดเจ็บ และพยายามวิ่งหนีไปใช้ก้อนหินขว้างปาใส่รถยนต์ที่วิ่งผ่านไปมาอีก โชคดีไม่โดนรถยนต์ที่ผ่านไปมา สุดท้ายชายต่างด้าวหนีไม่พ้นถูก จับตัวไว้ได้ ในสภาพมีบาดแผลที่ศีรษะ และใบหน้าจากการล้มไปกระแทกก้อนหินริมถนน ขณะกำลังต่อสู้กับทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิ โดยตำรวจได้ให้เจ้าหน้าที่ทำการปฐมพยาบาล ใกล้กันพบรถกระบะ ยี่ห้อ โตโตต้า สีขาว ทะเบียน 1 ฒฌ 970 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นของมูลนิธิร่วมกตัญญู จอดอยู่ ได้รับความเสียหายด้านข้างรถเป็นลอยถูกก้อนหินกระแทก จนบุบเข้าไป
จากการสอบสวนเบื้องต้นชายต่างด้าว คนดังกล่าว ให้การวกวนพูดจาไม่รู้เรื่องพูดจาคล้ายคนเมาสารเสพติดบางอย่าง และไม่มีเอกสารใด ๆ ติดตัว บอกเพียงพาสปอร์ตอยู่ที่ทำงานเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวมายัง สภ.บางแก้ว และทำหนังสือส่งตัวไปตรวจเช็ดร่างกายที่โรงพยาบาลบางพลี
จากการสอบถามนาย จิรพงษ์ เพียรนิจนุรักษ์ เจ้าหน้าที่ รถ น.เขต นคร 67 เล่าให้ฟังว่า ขณะที่ตนเองกำลังขับรถออกมาจากมูลนิธิร่วมกตัญญู เพื่อไปเข้าเขตรับผิดชอบในกรุงเทพมหานคร พอเลี้ยวรถออกถนนเทพรัตน สังเกตเห็นชายคนดังกล่าวยืนแอบข้างเสาไฟก็ไม่ได้เอะใจอะไรจนได้ยินเสียงคล้ายกับมีอะไรกระแทกที่กระจกหลังคาแครี่บอยด้านซ้ายจึงจอดรถลงมาดูพบว่าถูกก้อนหินขนาดใหญ่ปาใส่ จึงได้จอดรถลงมาดู พอจะเดินไปถามชายคนดังกล่าวกลับพบว่าชายดังกล่าวได้คว้าก้อนหินอีกก้อนใส่มือเตรียมปาซ้ำ เคราะห์ดีที่มีเจ้าหน้าที่ รถ น.เขต อีกคันผ่านทางมาเจอพอดีพอจอดรถลงมาถูกชายคนดังกล่าวใช้หินปาใส่หลังจนได้รับบาดเจ็บจากนั้น จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยกันจับตัวเอาไว้ได้โดยใช้ผ้าห่อศพมามัดมือมัดเท้า โชคดีที่เป็นรถกู้ภัย หากเป็นรถยนต์ชาวบ้านหรือสุภาพสตรีโดนขึ้นมาอาจเกิดความเสียหายมากไปกว่านี้
เบื้องเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิฐานว่าชายคนดังกล่าวหน้าจะเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานในละแวกดังกล่าวซึ่งจะต้องตรวจสอบอีกครั้งส่วนชนวนการก่อเหตุยังไม่ทราบแน่ชัดเนื่องจากชายคนดังกล่าวยังให้การวกวนไปมา และอยู่ในอาการมึนเมาบางอย่างอยู่ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนชายดังกล่าวอีกครั้งภายหลัง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
