ไฟไหม้บ้านป้าปูเจ้าของบ้านเก็บขยะสะสมกว่า 5 ตัน เพลิงลุกไหม้จากชั้นล่างลุกลามขึ้นชั้นบน ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงเพลิงจึงสงบ จากการตรวจสอบภายในบ้านได้รับความเสียหายทั้งหลัง
เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 22 ธันวาคม 2565 ร.ต.อ.พงษ์นรินทร์ นนตานอก รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางพลี ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน บ้านเลขที่ 145/121 หมู่ที่ 7 หมู่บ้านมัณฑนา ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และรถดับเพลิงเทศบาลบางพลี เทศบาลบางแก้ว อบต.ราชาเทวะ อบต.บางโฉลง รวม 8 คัน เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุ เป็นทาวน์เฮ้าส์ ปลูกติดกันหลายหลัง พบเพลิงกำลังลุกไหม้บ้านหลังดังกล่าวอย่างรุนแรงจากชั้นล่างลุกลามขึ้นชั้นบน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งระดมฉีดน้ำดับเพลิงและฉีดเลี้ยงไม่ให้ลุกลาม ไปบ้านด้านข้าง โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องทำงานอย่างยากลำบากเนื่องจากด้านหน้าบ้านเต็มไปด้วยขยะและของเก่า จำนวนมาก และเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงเพลิงจึงสงบ จากการตรวจสอบภายในบ้านได้รับความเสียหายทั้งหมด
โดยบ้านหลังดังกล่าว เคยมีชาวบ้านร้องเรียนว่าเจ้าของบ้านเก็บขยะของเก่ามาสะสมไว้จำนวนมากจนไม่มีทางเข้าออก ต้องปีนบันใดเข้าทางชั้นบน และชาวบ้านหวั่นเกิดไฟไหม้ และเป็นข่าวมาแล้วเมื่อเดือน กันยายน 2563 และทาง อบต. ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่มาทำการขนย้ายขยะออกไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่เจ้าของบ้านก็ไปเก็บมาสะสมไว้เต็มบ้านอีก จนมาเกิดเหตุไฟไหม้ขึ้นดังกล่าว
จาการสอบถาม น.ส.ธมลวรรณ (หรือปู) ศักดิ์วิระวงศ์ อายุ 63 ปี เจ้าของบ้าน เล่าว่า ตนพักอาศัยอยู่บ้านหลังดังกล่าวคนเดียวตนเลี้ยงสุนัขไว้ 5 ตัว และแมวอีกหลายตัว มีอาชีพเก็บของเก่าขาย โดยเอาของเก่าที่เก็บได้มาเก็บสะสมไว้ภายในบ้านจำนวนมาก จนจะเข้าออกบ้านต้องปีนผ่านกองของเก่าเข้าไป โดยก่อนเกิดเหตุ ที่บ้านไฟฟ้าเสียและดับมาแล้ว 3 วัน ตนจึงได้จุดเทียนไว้ในบ้านกลางห้องโถง จนสุนัขมาเดินชนเทียนล้มทำให้ไฟได้ลุกไหม้กองกระดาษและกองเสื้อผ้าเก่าที่อยู่ในห้องโถง ตนจึงรีบเอาน้ำมาดับแต่เอาไม่อยู่เพลิงได้ลุกลามอย่างรวดเร็ว ตนจึงร้องให้เพื่อนบ้านมาเอาถังดับเพลิงมาช่วยดับแต่ก็เอาไม่อยู่อีก เพื่อนบ้านจึงได้โทรแจ้งรึดับเพลิงมาช่วยดับ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้หลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ และเชิญตัว น.ส.ธมลวรรณ ศักดิ์วิระวงศ์ อายุ 63 ปี เจ้าของบ้าน ไปสอบสวนที่ สภ.บางพลี พร้อมประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจอีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
