ตำรวจจราจรสำโรงเหนือ พบผู้ป่วยหมดสติ ขณะปฎิบัติหน้าที่กวดขันการจราจร เร่งช่วยปั๊มหัวใจช่วยเหลือผู้ป่วย แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตผู้ป่วยได้ เหตุเกิด บริเวณหน้าตลาดแห่งหนึ่ง ริมถนนเทพารักษ์ หลักกิโลเมตรที่ 4 ใกล้เคียง ซอยภัทรนิเวศน์ ตำบลเทพารักษ์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ
เมื่อเวลา 17.30 น วันที่ 5 มกราคม 2566 ขณะที่ จ.ส.ต.สมชาติ ดุลยาวินิต ผบ.หมู่.จราจร สภ.สำโรงเหนือ พร้อม อาสาจราจร ออกปฏิบัติหน้าที่อำนวยการจราจร บนถนนเทพารักษ์ ในเขตท้องที่รับผิดชอบในช่วงเวลาเร่งด่วนตอนเย็น ขณะที่กวดขันการจราจร บริเวณหน้าตลาดแห่งหนึ่ง ริมถนนเทพารักษ์ หลักกิโลเมตรที่ 4 ใกล้เคียง ซอยภัทรนิเวศน์ ตำบลเทพารักษ์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ได้พบผู้ป่วยเป็นชายสูงอายุ นอนหมดสติ อยู่หน้าตลาดดังกล่าว จึงรุดเข้าปฐมพยาบาล ณ จุดเกิดเหตุ ตามที่ ตำรวจภูธรสมุทรปราการ ได้เคยส่งไปฝึกอบรมมา โดยได้ทำการฟื้นคืนชีพ หรือ ทำ CPR ให้ผู้ป่วยดังกล่าว ก่อนที่เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และ หน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลสมุทรปราการ จะเดินทางมาถึง โดยที่ทำ CPR ผู้ป่วยดังกล่าวกว่า 1 ชั่วโมง ท่ามกลางประชาชนที่มาจับจ่ายภายในตลาดจำนวนมากที่ยืนลุ้นกับเจ้าหน้าที่ที่กำลังช่วยเหลือชายดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตชายคนดังกล่าวได้ เจ้าหน้าที่กู้ชีพยืนยันชายดังกล่าวเสียชีวิตในจุดเกิดเหตุ
นายราเชนท์ ผิวพรรณ อายุ 48 ปี พ่อค้าที่อยู่ใกล้เคียง และ เป็นผู้ที่เข้าไปช่วยผู้ป่วยคนแรก เล่าว่า คนตายนั้นเป็นขอทาน ตอนแรกนั่งตรงบริเวณเสาไฟฟ้าหน้าร้านตนเอง ก่อนจะย้ายมานั่งตรงนี้ตรงจุดเกิดเหตุ โดยนั่งหมอบลงไปกับโต๊ะบริเวณหน้าตลาด ตนเองเห็นแกหน้าเหลือง ๆ เลยเดินมาหาแก ส่วนแกก็พยายามคลานมาหาตนเอง แกบอกหิวน้ำ ตนเองก็เลยเดินไปซื้อน้ำ และ ข้าวมาให้ แกก็นั่งแบบคนหายใจไม่ค่อยออกแกบอกเป็นหอบ จนแม่ค้าร้านใกล้กันบอกเห็นแกหน้าเหลือง ๆ เรียกเจ้าหน้าที่ดีกว่าไหม ตนเองก็เลยเรียกเจ้าหน้าที่ให้ ระหว่างรอ แกนั่ง ๆ อยู่ก็หงายหลังไปเลย หน้าเริ่มซีด นอนอ้าปาก ตนเองและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ใกล้ ๆ ก็เลยช่วยกันปั้มหัวใจกันอยู่นานเกือบชั่วโมงแต่ไม่เป็นผล จนพยาบาลมายืนยันว่าเสียชีวิตแล้ว
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า ชายคนดังกล่าวเป็น ชาวกัมพูชา และ ทุพพลภาพพิการขาขาด มีหนังสือเดินทาง ระบุชื่อ MR.SOKKHENG BUN อายุ 68 ปี ส่วนสาเหตุการเสียชีวิต สันนิฐานคาดว่า น่าจะมาจากโรคประจำตัว โดยจะมอบร่างผู้เสียชีวิตให้มูลนิธินำส่งชันสูตรการเสียชีวิตที่สถานบันนิติเวชต่อไป
