ชาวบ้านหนีตายกันวุ่น หลังเกิดอาชีวะเปิดศึกสงครามกันกลางถนนแพรกษา มีวัยรุ่นได้รับบาดเจ็บ 2 ราย พบระเบิดและปลอกกระสุนเกลื่อนถนน
เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 24 มกราคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง สมุทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุนักเรียนอาชีวะยกพวกตีกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ กลางถนนแพรกษา บริเวณสะพานลอยใกล้ซอยโตโย ตำบลท้ายบ้านใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ และเจ้าหน้าที่ป่อเต็กตึ๊ง เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ข่าวน่าสนใจ:
บริเวณหน้าเซเว้นใกล้จุดเกิดเหตุพบ นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี ถูกยิงเข้าที่แขนขวา เจ้าหน้าที่ให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนเร่งนำส่งโรงพยาบาลสมุทรปราการ ในที่เกิดพบเศษหินจำนวนมากเกลื่อนถนน พบปลอกกระสุนขนาด .38 ตกอยู่กับพื้น จำนวน 6 ปลอก และกระสุนอีก 1 นัด ในที่เกิดเหตุยังพบระเบิดปิงปอง 6 ลูก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ขณะเดียวกันได้รับแจ้งว่าภายในซอยโตโย มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ จึงเดินทางไปตรวจสอบพบ นายบี (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ถูกยิงที่ขาทั้งสองข้าง ให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนเร่งนำส่งโรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ ใกล้กันพบระเบิดอยู่ภายในถุงผ้าสีขาว ห่างออกไปไม่ไกลพบปืนปากกา 1 กระบอก และกระสุนขนาด .38 จำนวน 3 นัด ตกอยู่ข้างทาง เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
กล้องวงจรปิดร้านข้าวต้ม จับภาพได้ขณะที่เจ้าของร้านกำลังขายข้าวอยู่ และภายในร้านมีลูกค้านั่งอยู่ ที่ฝั่งตรงข้ามร้านได้มีวัยรุ่นจำนวนมาก ไล่ยิงและปาระเบิดใส่กัน จนเจ้าของร้านและลูกค้าต่างพากันหนีตายหลบเข้ามาในร้าน ขณะที่ลูกค้าท่านหนึ่งได้หยิบมือถือมาบันทึกวีดีโอ โดยจะได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นหลายครั้ง จนลูกค้าต่างพากันหวาดผวา และกลัวว่าจะถูกลูกหลงจากเหตุการณ์ในครั้งนี้
จากการสอบนายเอ (นามสมมุติ) หนึ่งในคนเจ็บ เล่าว่า ตนออกไปซื้อของตรงหน้าปรั่งเปร่ง ขณะขี่รถโดนไล่ยิงบริเวณซอยบ่อดิน โดนคนชื่อหม่ำยิง เขามากันประมาณ 20 กว่าคัน
นายสุภกร โสภาศรี อายุ 47 ปี พ่อค้าร้านอาหารในละแวกที่เกิดเหตุ เล่าว่า ขณะกำลังทำอาหารให้กับลูกค้าที่มานั่งรับประทานอาหารที่หน้าร้าน อยู่ๆมีวัยรุ่นสองสถาบันรวมกว่า 30-40 คน ยกพวกไล่ทำร้ายกันมีมีด ปืน ระเบิด จนทุกคนต้องหนีตายมาหลบในร้าน
ขณะเดียวกันที่โรงพยาบาลสมุทรปราการได้มีกลุ่มวัยรุ่นซึ่งเป็นกลุ่มเพื่อนของคนเจ็บไปเฝ้าดูอาการ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจัดกำลังไปป้องกันเฝ้าระวังกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ และจะเชิญเพื่อนของผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่โรงพัก
นายซี (นามสมมุติ) หนึ่งในกลุ่มวัยรุ่น เล่าว่า ตนเองเป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนชำนิเทคโนโลยี สมุทรปราการ ก่อนเกิดเหตุตนเองและเพื่อนมีทั้งศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน รวมทั้งหมด 14 คน พากันขี่รถจักรยานยนต์ตะเวนแขวนป้ายของสถาบันเนื่องในวันสถาปนาที่จะจัดขึ้นในวันนี้ 24 มกราคม ขณะกำลังขับรถหาที่แขวนป้ายตามสะพานลอยและเสาไฟ ก็ไปพบกับกลุ่มคู่อริต่างสถานบันคือฝั่งของโรงเรียนกรุงเทพช่างที่พากันขี่รถจักรยานยนต์จำนวนหลายคันรวมกว่า 20 คนเปิดฉากปาระเบิดปิงปองใส่รถจักรยานยนต์ตนแต่ระเบิดไม่ทำงาน จากนั้นปาใส่รถของรุ่นน้องอีกครั้งจนรถล้มลงทำให้รุ่นน้องต้องวิ่งหนีตายและเป็นฝ่ายถูกไล่ยิงและปาระเบิดใส่อีกหลายครั้ง ส่วนฝั่งของตนเองไม่มีอาวุธติดตัวกันมามีเพียงก้อนหินที่ปาตอบโต้อีกฝ่ายจนกระทั่งสิ้นเสียงปืนและระเบิดพบว่ารุ่นน้องถูกยิงสองคนจึงรีบแจงตำรวจและกู้ภัยมาช่วยเหลือ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ บันทึก พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิด เพื่อติดตามตัวกลุ่มวัยรุ่นทั้งสองสถาบันมาสอบปากคำดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเร่งด่วน เพราะถือเป็นการกระทำที่อุอาจไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย พร้อมทั้งเตรียมจัดกำลังคุมเข้มงานสถาปนาดังกล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: