หนุ่มคลั่งถือมีดปีนหลังคาบ้านไล่ทำลายทรัพย์สินชาวบ้านได้รับความเสียหายชาวบ้านได้ช่วยกันจับตัวไว้ได้ โดนรุมประชาทัณฑ์ได้รับบาดเจ็บ ภายในซอยแพรกษา 2
เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 29 มกราคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีชายคุ้มคลั่งถือมีดปีนหลังคาทำลายทรัพย์สินชาวบ้าน ภายในซอยแพรกษา 2 หมู่ 3 ตำบลแพรกษา อำเภอเมือง สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ และเจ้าหน้าที่กู้ชีพเทศบาลนครสมุทรปราการ เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่กลางซอย พบชาย ไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 30 ปี ตรวจสอบไม่พบเอกสารติดตัว นั่งอยู่กับพื้น ในอาการเมา คุยคนเดียว มีแผลแตกที่ศีรษะ แผลถลอกและช้ำตามร่างกาย เจ้าหน้าที่กู้ให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำส่งโรงพยาบาลสมุทรปราการ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามไปด้วย ใกล้กันภายในบ้าน 108 ที่บริเวณประตูและหลังแตก มีก้อนหินขนาดใหญ่ตกอยู่กลางบ้าน ใกล้กันที่บ้านเลขที่ 262 ที่ชั้นหนึ่งห้องด้านหลัง พบว่าหลังคาฝ่าเพดานแตก และที่ชั้น 2 กระจกแตกข้าวของข้างในกระจาย
จากการสอบถามนายจตุรงศ์ ทองดี อายุ 33 ปี ผู้ที่พักอาศัยอยู่ที่ชั้น 1 บ้านเลขที่ 262 เล่าว่า ตนนั่งเล่นอยู่ในห้อง เขาปีนหลังคามาจากบ้านแม่ แล้วมาทุบหลังคาห้องตน แล้วก็ปีนไปทุบหลังคาบ้านข้าง ๆ ตนก็ไม่รู้จักกับคนก่อเหตุ และไม่ใช่คนในซอยด้วย เขาก็ยืนคุยคนเดียวแล้วก็เอามีดที่ถือมาฟันอยู่บนหลังคา เหมือนคนสติไม่ดี ตนจึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นายลิขิตร แพหมอ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 ตำบลแพรกษา เล่าว่า ตนได้รับแจ้งจากลูกเจ้าของบ้านที่ได้รับความเสียหาย ว่ามีคนอยู่บนหลังคาทำลายข้าวของ ไม่ทราบว่าเป็นใครมาจากไหนไม่ใช่คนแถวนี้ เขามีอาการมึนเมา ตนก็เลยโทรประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ป้อมแพรกษา ให้ช่วยเข้ามา ตอนตนมาถึงก็พบว่าชาวบ้านได้ช่วยกันจับตัวไว้ได้แล้ว พอตำรวจมาถึงก็กันชาวบ้านออกเนื่องจากกลัวว่าคนก่อเหตุจะเป็นอะไรไปเยอะกว่านี้ หลังจากนี้ตนจะพาทางเจ้าของบ้านที่ได้รับความเสียหายทั้ง 2 หลัง เดินทางไปแจ้งความที่โรงพัก เพื่อเอาผิดกับผู้ก่อเหตุ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แนะนำให้เจ้าของบ้านที่ได้รับความเสียหายเดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน ที่ สภ.เมือง สมุทรปราการ ส่วนผู้ก่อเหตุที่ได้รับบาดเจ็บ ให้ทางกู้ชีพดำเนินการส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล และตรวจสารเสพติดในร่างกาย โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามไปด้วย หลังจากได้รับการรักษาแล้วจะคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมือง สมุทรปราการ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
